
หลายๆ คนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ ทรีตเมนต์บำรุงผมด้วยการใช้ “เคราติน” มาบ้างว่า เมื่อทำแล้วจะช่วยทำให้ผมนุ่มลื่น ไม่แห้งเสีย กลับมามีสุขภาพดีดั่งเดิม เพียงแค่เห็นสรรพคุณก็ทำให้บรรดาสาวๆ ที่รักเส้นผม ถึงกับต้องหันมาสนใจกันเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ? แต่ความจริงแล้วเคราตินช่วยบำรุงเส้นผมได้จริงหรือ? เมื่อทำไปแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า? ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่อง เคราตินกับเส้นผม มาฝากกัน
ทำความรู้จัก เคราตินกับเส้นผม
โดยปกติ เคราติน เป็นโปรตีนที่มักจะอยู่ในเส้นผม เล็บ และผิวหนัง แต่สำหรับ เคราตินกับเส้นผม นั้น เคราตินที่ถูกนำมาใช้ในการบำรุงผมตามร้านเสริมสวยต่างๆ จะเป็นเคราตินครีม ที่มีสารเคมี ชื่อว่า “ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde)” เป็นส่วนผสมอยู่ สารนี้จะถูกแปรงเข้าสู่เส้นผม ด้วยการเป่าให้แห้งและรีดด้วยที่หนีบผมอีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนการทำทั้งหมดจะทำไปทำปฏิกิริยากับเคราตินในเส้นผม ทำให้ผมหยิก หรือผมหยักศก ตรงขึ้น
ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่เป็นส่วนผสมในเคราตินครีม ถือเป็นสารที่มีอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ฟอร์มาลดีไฮด์ เป็นก๊าซที่ไม่มีสี แต่มีกลิ่นที่รุนแรง เมื่อดวงตาหรือผิวหนังโดนฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) มันจะส่งผลให้เกิดความระคายเคืองที่ตา จมูก และลำคอ ทำให้เกิดอาการไอ หายใจดัง และอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงที่บริเวณดวงตา ผิวหนัง รวมถึงระบบทางเดินหายใจ การได้รับฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ในระดับสูง อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ ยิ่งเคราตินครีมได้รับความร้อน ก็จะยิ่งปล่อยฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่มีความเข้มข้นสูงมากออกมา ดังนั้น เหล่าช่างทำผมที่ใช้เคราตินซ้ำๆ ในการดูแลเส้นผม จะมีความเสี่ยงมากที่สุด
ทั้งนี้ องค์การอาหารและยาและการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (OSHA) ได้ตรวจสอบระดับฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้ว
เคราตินช่วยบำรุงผมสวยได้จริงหรือ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผลลัพธ์ของการทำเคราตินบนเส้นผมขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของคุณด้วยว่าแข็งแรงแค่ไหน และมีความหนามากน้อยเพียงใด แต่บางคนก็อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า เคราตินช่วยบำรุงผมได้จริงหรือ แล้วเมื่อทำแล้วสภาพเส้นผมจะเป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นลองไปดูข้อมูลเหล่านี้กันดีกว่า
- ทำให้ผมเรียบ
- เติมโปรตีนในช่องว่างของเส้นผมแต่ละเส้น
- ช่วยทำให้ผมดูหนาขึ้น และเรียบเนียนขึ้น
- ทำให้ผมดูเงางาม และตรง
- ทำให้คุณดูแล และจัดการผมได้ง่ายขึ้น
ข้อควรรู้เมื่อต้องการทำเคราติน
สำหรับผู้ที่ต้องการทำเคราติน มีข้อควรรู้บางอย่างที่ควรรู้ไว้เบื้องต้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำเคราตินมากที่สุด
- การทำเคราตินใช้เวลาในการทำ 90 นาที หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม
- ถ้าเป็นผู้ที่นิยมผมตรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การทำเคราตินจะช่วยลดเวลาในการเป่าผมลง 40-60 เปอร์เซ็นต์
- หลังจากทำเคราติน คุณก็ไม่ต้องกลัวเรื่องของผมหยิกอีกต่อไป
- เมื่อทำเคราตินไปแล้ว อย่าเพิ่งสระผม ควรปล่อยทิ้งไว้ 3-4 วัน
- ควรสระผมด้วยแชมพูที่ไม่มีโซเดียมซัลเฟต เพื่อรักษาประสิทธิภาพของเคราตินเอาไว้
- เคราตินจะช่วยทำให้ผมคุณตรงและดูสุขภาพดีได้ในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ถึง 2 เดือนครึ่ง
ทั้งนี้ หากเกินอาการแพ้ หลังจากการทำเคราติน แนะนำว่าควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อจะได้การวินิจฉัย และการรักษาที่ถูกต้อง
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด