backup og meta

เป็นฝีห้ามกินอะไร แล้วควรดูแลตัวเองยังไง ให้ฝีหายเร็วขึ้น

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 3 สัปดาห์ก่อน

    เป็นฝีห้ามกินอะไร แล้วควรดูแลตัวเองยังไง ให้ฝีหายเร็วขึ้น

    ฝี คือ ตุ่มหนองอักเสบที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง อาจพบได้ในหลายบริเวณของร่างกาย เช่น ฝีที่รักแร้ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อหรือมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้บริเวณนั้นบวม แดง กดเจ็บ และเป็นหนองชนิดที่มีกลิ่นเหม็น และบางคนอาจมีไข้ หรือหนาวสั่น เวลาเป็นฝี นอกจากจะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ และการระบายหนองออกแล้ว เป็นฝีห้ามกินอะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะอาการบางอย่างอาจทำให้ฝีมีอาการแย่ลงได้ ดังนั้น การเลือกกินอาหารร่วมกับการดูแลตัวเองด้วยวิธีอื่น ๆ อาจช่วยให้ฝีหายเร็วขึ้น

    เป็นฝีห้ามกินอะไร

    ฝีเกิดจากการติดเชื้อและอักเสบ ฉะนั้น อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากอยากให้ฝีหายเร็วขึ้น ก็คือ อาหารที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ดังนั้น อาหารที่ห้ามกินตอนเป็นฝีอาจมีดังนี้

    น้ำตาล

    น้ำตาลที่ผ่านกระบวนการ เช่น น้ำตาลทรายขาว อาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารตั้งต้นของการอักเสบ (Pro-Inflammatory Cytokines) มากขึ้นได้ ฉะนั้น หากเป็นฝีจึงควรงดหรือลดอาหารที่เติมน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการจะดีที่สุด

    ไขมันอิ่มตัว

    ไขมันอิ่มตัวอาจกระตุ้นการอักเสบที่เนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งนอกจากจะทำให้ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการอักเสบ อย่างฝี ที่เป็นอยู่แย่ลงแล้ว ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ด้วย อาหารที่อาจมีไขมันอิ่มตัว และควรหลีกเลี่ยงในช่วงที่เป็นฝี เช่น เบอร์เกอร์ พิซซ่า เฟรนช์ฟราย รวมถึงของทอดอื่น ๆ ด้วย

    กรดไขมันโอเมก้า 6

    แม้กรดไขมันโอเมก้า 6 จะเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่หากได้รับโอเมก้า 6 มากเกินไป ก็อาจไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารตั้งต้นของการอักเสบมากขึ้น โดยอาหารที่มีกรดโอเมก้า 6 เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง มายองเนส น้ำสลัดบางสูตร ฉะนั้น ในช่วงที่เป็นฝีจึงควรงดอาหารดังกล่าว เพื่อฝีจะได้หายเร็วขึ้น

    คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี

    คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี หรือ คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการแปรรูป (Refined Carbohydrates) เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว ก็เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่ไม่ควรกินในช่วงที่เป็นฝี เพราะคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีจัดเป็นอาหารที่มีค่าไกลซีมิกหรือค่าดัชนีน้ำตาลสูงซึ่งกระตุ้นการสร้างสารที่เกิดจากการรับประทานโปรตีนและน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นของร่างกาย (Advanced Glycation End Products หรือ AGEs) เมื่อร่างกายมีสาร AGEs มาก ๆ ก็อาจไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และทำให้การอักเสบที่เป็นอยู่แย่ลงได้ด้วย

    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ตับทำงานหนักขึ้น ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์หนักและดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจยิ่งทำให้ตับต้องทำงานหนักมาก จนประสิทธิภาพการทำงานของตับแย่ลงเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบต่อการทำงานเชื่อมโยงกันของหลายอวัยวะด้วย ดังนั้น เวลาเป็นฝีจึงควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะดีที่สุด

    วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นฝี

    หากอยากให้ฝีหายเร็วขึ้น อาจดูแลตัวเองด้วยวิธีการเหล่านี้

    สิ่งที่ควรทำ

  • ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่เป็นฝีวันละ 4 ครั้ง ๆ ละ 10 นาที
  • หากฝีแตก ให้ทำความสะอาดบริเวณที่เป็นฝีด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย
  • ใช้ผ้าก๊อซปิดบริเวณที่เป็นฝีไว้จนกว่าฝีจะหาย
  • รักษาสุขอนามัยให้ดี ด้วยการอาบน้ำทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และล้างมือเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำ ก่อนและหลังกินอาหาร
  • กินยาพาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อบรรเทาอาการปวด
  • ซักผ้าเช็ดตัว และเครื่องนอนในน้ำร้อนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • สิ่งที่ไม่ควรทำ

    • อย่าบีบ แกะ หรือเจาะฝี
    • อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับคนอื่น
    • อย่าลงสระว่ายน้ำ หรือไปใช้บริการฟิตเนส เพราะอาจแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 3 สัปดาห์ก่อน

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา