backup og meta

สูตรชาเขียวมัทฉะ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 28/08/2022

    สูตรชาเขียวมัทฉะ

    สูตรชาเขียวมัทฉะ เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดโปรดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชาเขียว เพราะเป็นเมนูที่ให้ทั้งความหอม และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย จึงไม่แปลกใจที่ชาเขียวมัทฉะจะได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    ประโยชน์ของชาเขียวมัทฉะต่อสุขภาพ

    ชาเขียวมัทฉะ อุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ดังต่อไปนี้ 

    ต้านอนุมูลอิสระ

    ชาเขียวมัทฉะ อุดมด้วยสารแคทีซิน (Catechin) ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชใบชา มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ และป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง

    บำรุงและปกป้องตับจากสารพิษ

    ตับมีความสำคัญต่อสุขภาพ และมีบทบาทสำคัญในการล้างพิษและช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ การดื่มชาเขียว อาจมีส่วนช่วยป้องกันความเสียหายของตับ และลดความเสี่ยงของโรคตับได้ 

    เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง 

    ชาเขียวมัทฉะมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองให้ดียิ่งขึ้น  นอกจากนี้ ยังอุดมด้วยสารแอล-ธีอะนีน (L-theanine) ช่วยปลดปล่อยคลื่นอัลฟาในสมอง (Alpha Brain Wave) ส่งผลให้เมื่อดื่มแล้วรู้สึกผ่อนคลาย และลดความเครียดได้อีกด้วย

    ป้องกันมะเร็ง

    ชาเขียวมัทฉะอุดมด้วยสารเอพิกัลโลคาเทชิน-3-กัลเลต (Epigallocatechin-3-gallate : EGCG) ซึ่งเป็นสารคาทีซิน  ชนิดหนึ่ง โดยมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด มะเร็งตับ 

    สูตรชาเขียวมัทฉะ

    ชาเขียวมัทฉะ มีส่วนผสมและวิธีทำ ดังต่อไปนี้ 

    ส่วนผสม

    • ผงมัทฉะ ¼  ช้อนชา
    • น้ำเดือด 2 ออนซ์
    • นมนึ่ง 6 ออนซ์ (นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ๊ต)
    • สารให้ความหวานอื่น ๆ เช่น น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมเมเปิ้ล 

    วิธีทำ

  • ร่อนมัทฉะลงในแก้วหรือชามขนาดเล็ก เพื่อให้ผงละเอียดมากยิ่งขึ้น
  • นำผงมาผสมกับน้ำเดือดปริมาณ 2 ออนซ์ ใช้ตะกร้อมัทฉะหรือตะกร้อธรรมดาขนาดเล็ก ปัดจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งจนมัทฉะกระจายตัวเต็มที่และมีชั้นฟองอยู่ด้านบน
  • หากต้องการให้ชามีรสหวานให้เติมน้ำเดือดหรือนมนึ่งที่เหลืออีก 6 ออนซ์ แล้วตีอีกครั้งจนเกิดฟอง 
  • พร้อมเสิร์ฟสำหรับรับประทานทันที
  • หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 28/08/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา