backup og meta

โคลิค กับวิธีรับมือสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 06/10/2022

    โคลิค กับวิธีรับมือสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่

    โคลิค (Colic) เป็นอาการร้องไห้ของเด็กทารกวัยแรกเกิดแบบต่อเนื่องและยาวนาน ที่อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ตกใจหรือไม่รู้ว่าจะรับมือได้อย่างไร แท้จริงแล้วโคลิกเป็นอาการที่เกิดขึ้นและหายไปได้ แต่อาจต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับอาการนี้อย่างถูกต้อง

    โคลิค คืออะไร

    โคลิค คือ อาการที่มักเกิดขึ้นได้กับเด็กแรกเกิดตั้งแต่ช่วงอายุ 2-6 สัปดาห์ โดยทารกอาจร้องไห้ออกมาอย่างหนัก และนานกว่าปกติ หรือในช่วงเวลาเดียวกันทุกวันบ่อยครั้ง ซึ่งอาจมาจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

    • ระบบย่อยอาหารแปรปรวน จุกเสียด กรดไหลย้อน
    • แพ้อาหารบางอย่าง
    • คุณพ่อคุณแม่ให้อาหารลูกน้อยหรือมากเกินไป
    • ภาวะคลอดก่อนกำหนด
    • ระบบประสาทที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่
    • คุณแม่สูบบุหรี่ในช่วงตั้งครรภ์

    อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะโคลิคมักหายไปจากลูกได้เอง ตามระยะเวลาการเจริญเติบโต คือ ช่วงประมาณ 3-4 เดือน

    อาการเมื่อลูกเป็นโคลิค

    เด็กร้องไห้งอแงอาจเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ยากที่จะจำแนกได้ว่า ร้องไห้แบบไหน คือ ร้องไห้ธรรมดา หรือร้องไห้เพราะเป็นโคลิค โดยคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้จากอาการเหล่านี้

    • อาการร้องไห้อย่างหนักรุนแรง
    • ใบหน้าของลูกเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ปากและผิวซีด
    • ร้องไห้ในช่วงเวลาเดียวกัน หรือใกล้กันทุกวัน
    • มีท่าทางเกร็งในขณะร้องไห้ เช่น กำมือแน่น ขายกขึ้นเกร็ง หน้าท้องแข็ง

    ในบางกรณี โคลิคอาจทำให้ลูกเป็นลม หมดสติ เพราะร้องไห้หนักจนเกินไป ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และรู้จักรับมืออย่างถูกวิธี หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอาจต้องพาลูกพบคุณหมอทันที เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูกได้

    วิธีรับมือเมื่อลูกเป็นโคลิค

    เมื่อสงสัยว่าลูกอาจเป็นโคลิค สิ่งแรกที่ควรทำ คือ การสวมกอด อุ้มปลอบเอาไว้ จากนั้นอาจค่อย ๆ เพิ่มความผ่อนคลายให้ทารกด้วยวิธีเหล่านี้

    • ใช้ผ้าห่อตัวลูกเอาไว้ แล้วเดินไปรอบ ๆ หรืออาจตบหลังเบา ๆ เพื่อทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย
    • ใช้จุกนมปลอม
    • ปรับเปลี่ยนยี่ห้อของนม หรืออาหารที่ลูกกิน เพราะในบางครั้งทารกอาจแพ้สารอาหารบางอย่าง เช่น ไข่ นม ข้าวสาลี ถั่ว
    • หลังจากกินนมหรือกินอาหารสำหรับทารกเแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรจับลูกนั่งตัวตรง เพื่อให้เรอเสียก่อน โดยประคองคอ ศีรษะ หรืออุ้มไว้พร้อมลูบตบบริเวณหลังเบา ๆ
    • อาบน้ำ หรือแช่น้ำอุ่น ๆ และนวดเบาๆ

    หากปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้นแล้ว แต่ลูกยังไม่หยุดร้องไห้ คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบดูว่า ลูกมีอุณหภูมิในร่างกายที่สูงเกินกว่า 38 องศาเซีลเซียส มีท้องเสีย และอุจจาระเป็นเลือด ร่วมด้วยหรือไม่ เพราะในกรณีนี้ อาจจำเป็นต้องรีบพาลูกเข้ารับการรักษาจากคุณหมอโดยทันที

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 06/10/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา