นอกจากนี้ วิธีการที่ดีคือ ให้ลูกน้อยหลีกเลี่ยงจากการใช้โซเชียลมีเดียสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโซเชียลมีเดียนั้นเป็นแหล่งกระจายข่าวลือของเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน แม้จะเป็นเรื่องยากเพราะเด็ก ๆ มักต้องการรู้ว่าคนอื่นกำลังพูดอะไรเกี่ยวกับตนเองบ้าง แต่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า บางครั้งอาจจะเป็นการดีกว่าที่จะไม่สนใจคำนินทาและควรใช้เวลาอยู่กับกิจกรรมที่ทำให้มีความสุขมากกว่า
สังเกตพฤติกรรมลูกอย่างใกล้ชิด
เด็กส่วนใหญ่ไม่สามารถรอให้การนินทาเงียบสงบไปเองได้ แม้แต่ข่าวลือเล็ก ๆ น้อย ๆ และการเรียกชื่อก็อาจส่งผลร่ายแรงต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ของเด็ก ๆ ได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตอาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความเครียด หรือไม่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวเพราะในบางรายอาจรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจอย่างรุนแรงจนถึงขั้นมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายได้
โดยอาจสังเกตสัญญาณเตือนบางอย่าง เช่น ความผิดปกติในการรับประทานอาหาร การทำร้ายตัวเอง ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง (Post-traumatic Stress Disorder หรือ PTSD) หากสังเกตเห็นว่าลูกน้อยมีอาการผิดปกติไปจากที่เคย ไม่สามารถหันเหความสนใจหรือดึงตัวเองออกจากเรื่องที่โดนนินทาได้ ควรรีบพาลูกน้อยไปเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งพยายามรับฟัง ให้กำลังใจ และแสดงออกให้ลูกน้อยรู้ว่ามีคุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้างเสมอ
นอกจากนั้น อาจฝากฝังคุณครูหรือเพื่อนสนิทของลูกให้ช่วยสังเกต เพราะเมื่ออยู่บ้านลูกน้อยอาจจะดูสบายดี แต่เมื่อไปโรงเรียนอาจเปลี่ยนเป็นคนละคน
หลีกเลี่ยงการแก้แค้น
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย