backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ทินิดาโซล (Tinidazole)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 31/12/2019

ข้อบ่งใช้

ยาทินิดาโซลใช้สำหรับ

ยาทินิดาโซล (Tinidazole) เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาการติดเชื้อในช่องคลอดบางชนิด เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (bacterial vaginosis) หรือ เชื้อทริโคโนแมส (trichomoniasis) ยานี้ยังใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อปรสิตบางชนิด เช่น จิอาร์เดียซิส (giardiasis) หรือบิดอะมีบา (amebiasis) ยานี้ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและปรสิต

ยาปฏิชีวนะชนิดนี้ ใช้สำหรับรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียและปรสิตเท่านั้น ยานี้จะไม่ได้ผลสำหรับการติดเชื้อไวรัสเ ช่น โรคหวัดทั่วไปหรือไข้หวัดใหญ่ การใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อไม่จำเป็น อาจทำให้ยาไม่ได้ผลหากติดเชื้อครั้งใหม่

วิธีการใช้ยาทินิดาโซล

รับประทานยานี้ตามที่แพทย์สั่ง ปกติรับประทาน 1 ครั้งต่อวัน เพื่อป้องกันท้องไส้ปั่นป่วน รับประทานยานี้พร้อมอาหาร ขนาดยาขึ้นอยู่กับโรคและการตอบสนองต่อการรักษา สำหรับเด็ก ขนาดยาขึ้นอยู่กับน้ำหนัก

เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด รับประทานยาปฏิชีวนะชนิดนี้ในเวลาที่ห่างในระยะเท่ากัน เพื่อช่วยเตือนความจำ รับประทานยานี้ในเวลาเดียวกันของแต่ละวัน

รับประทานยานี้จนกว่าจะยาจะหมด แม้ว่าจะหายดีหลังจากรับประทานยาไม่นาน การหยุดยาก่อนกำหนดอาจทำให้กลับมาติดเชื้อใหม่

แจ้งให้แพทย์ทราบ หากยังคงมีอาการต่อเนื่องหรืออาการแย่ลง

การเก็บรักษายาทินิดาโซล

คุณควรเก็บยาทินิดาโซลไว้ในอุณหภูมิห้อง รวมถึงเก็บให้พ้นจากแสงและความชื้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับยา คุณไม่ควรเก็บยาทินิดาโซลไว้ให้ห้องน้ำหรือตู้เย็น ยาทินิดาโซลแต่ละยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือการอ่านคำแนะนำการเก็บรักษายาบนฉลากผลิตภัณฑ์ หรือสอบถามเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

คุณไม่ควรทิ้งยาทินิดาโซลลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำอย่างนั้น สิ่งสำคัญคือทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่จำเป็นต้องใช้ยาอีกต่อไป ปรึกษาเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีทิ้งยาอย่างปลอดภัย

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาทินิดาโซล

ก่อนใช้ยาทินิดาโซล แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาชนิดนี้ ยาปฏิชีวนะชนิดอื่น เช่น ยาเมโทรนิดาโซล (metronidazole) รวมถึงหากคุณมีอาการแพ้อื่นๆ ยาตัวนี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ แต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์และสมุนไพร)

หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ที่มีสารโพรพิลีนไกลคอล (propylene glycol) ระหว่างที่ใช้ยานี้ และอย่างน้อย 3 วันหลังจากใช้ยานี้เนื่องจากอาจเกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ หรือหน้าแดง

ยานี้อาจทำให้คุณวิงเวียนศีรษะ ง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัดเจน แอลกอฮอล์หรือกัญชาอาจทำให้อาการของคุณรุนแรงยิ่งขึ้น อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยความตื่นตัว จนกว่าคุณจะแน่ใจว่า คุณสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างปลอดภัย งดการดื่มแอลกอฮอล์ ปรึกษาแพทย์หากคุณใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค

ยาทินิดาโซลอาจทำให้วัคซีนชนิดเชื้อเป็น (live bacterial vaccine) เช่น วัคซีนไทฟอยด์ (typhoid vaccine) ไม่ได้ผลเท่าที่ควร อย่าฉีดวัคซีนระหว่างใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้ทำอย่างนั้น

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร)

ระหว่างตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็น ไม่แนะนำให้ใช้ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและข้อดี หากคุณตั้งครรภ์ หรือคิดว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ แจ้งให้แพทย์ทราบทันที

ยานี้ซึมเข้าสู่น้ำนม และอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่อทารกในครรภ์ ไม่แนะนำให้ให้นมบุตรระหว่างที่ใช้ยานี้ และอย่างน้อย 3 เดือนหลังจากใช้ยานี้เสร็จ ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงที่เพียงพอ ที่จะระบุความเสี่ยงขณะใช้ยาทินิดาโซล ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง เพื่อพิจารณาระหว่างข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนรับประทานยาทินิดาโซล อ้างอิงจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยาทินิดาโซลจัดเป็นยากลุ่มเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์ประเภท C

ต่อไปนี้คือประเภทความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา

· A = ไม่เสี่ยง

· B = ไม่เสี่ยง (อ้างอิงจากงานวิจัยบางงาน)

· C = อาจมีความเสี่ยงบางอย่าง

· D = พบหลักฐานเกี่ยวกับความเสี่ยงโดยตรง

· X = ห้ามใช้

· N = ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาทินิดาโซล

คุณอาจรู้สึกถึงรสขม หรือฝาดในปาก คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน ท้องเสียหรือวิงเวียนศีรษะ หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือแย่ลง แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที

ยานี้อาจทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม อาการจะไม่อันตราย และจะหายเป็นปกติเมื่อหยุดยา

โปรดระลึกไว้ว่าแพทย์ได้จ่ายยานี้ เนื่องจากแพทย์ได้พิจารณาแล้วว่ายาจะมีประโยชน์ต่อคุณ มากกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากผลข้างเคียง หลายคนใช้ยานี้แล้วไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ

แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงเหล่านี้ ได้แก่ สัญญาณของการติดเชื้อครั้งใหม่ เช่น เจ็บคอที่ไม่หายเป็นปกติ เป็นไข้ ช้ำหรือเลือดออกง่าย

เข้ารับการรักษาทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมากเหล่านี้ ได้แก่ เดินไม่มั่นคง เป็นลมชัก ขาหรือแขนชาหรือเป็นเหน็บ

การใช้ยานี้นานเกินไปหรือใช้ซ้ำๆ อาจทำให้ปากอักเสบ เพราะเชื้อราหรือติดเชื้อราครั้งใหม่ ปรึกษาแพทย์หากคุณสังเกตเห็นฝ้าขาวในปาก ตกขาวผิดปกติหรืออาการใหม่อื่นๆ

ไม่ค่อยมีอาการแพ้ยานี้ที่รุนแรงเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม เข้ารับการรักษาทันทีหากคุณสังเกตเห็นอาการแพ้รุนแรง ได้แก่ เกิดผื่น คันผิวหรือผิวบวม (โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้นหรือลำคอ) วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง มีปัญหาเรื่องการหายใจ

ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ยาแก้ไอและหวัด โลชั่นหลังโกนหนวด ผลิตภัณฑ์ที่มีโพรพิลีนไกลคอล (propylene glycol) สารละลายโลพินาเวียร์ (lopinavir solution) และริโทนาเวียร์ (ritonavir solution) ลิเธียม (lithium)

อย่าใช้ยาทินิดาโซล หากคุณใช้ยาไดซัลฟิแรม (disulfiram) หรือหากคุณได้ใช้ยาไดซัลฟิแรม ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

แม้ว่ายาปฏิชีวนะส่วนมาก ไม่น่าจะส่งผลต่อการคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนเช่น ยาเม็ด แผ่นแปะหรือห่วงคุมกำเนิด ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น ยาไรแฟมปิน (rifampin) ยาไรฟาบูติน (rifabutin) อาจลดฤทธิ์ของการคุมกำเนิดเหล่านั้นได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ หากคุณใช้วิธีคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ยานี้อาจทำให้ผลการทดลองจากห้องปฏิบัติการผิดพลาด ตรวจดูให้มั่นใจว่า บุคลากรห้องปฏิบัติการและแพทย์ทราบว่า คุณกำลังใช้ยานี้

ยาทินิดาโซลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาตัวอื่นที่คุณกำลังรับประทานอยู่ และอาจส่งผลให้ยาที่คุณรับประทานออกฤทธิ์ต่างไปจากเดิม หรือเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยาที่อาจเป็นไปได้ คุณควรแจ้งรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร) และแจ้งให้แพทย์รวมถึงเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่มหรือหยุดรับประทาน รวมถึงเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือยาอื่น

ยาทินิดาโซลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ โดยเปลี่ยนฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงให้ที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงอาหารหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้ ก่อนรับประทานยา

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาทินิดาโซลอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาของยาอาจทำให้สุขภาพของคุณย่ำแย่ลง หรือเปลี่ยนฤทธิ์ของยา สิ่งสำคัญคือ โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบเกี่ยวกับสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาทินิดาโซล

ขนาดยาทินิดาโซลสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อทริโคโนแมส

รับประทานยา 2 กรัม 1 ครั้ง

คำแนะนำ

-ควรตรวจรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อวินิจฉัยอาการของร่างกาย

-คู่นอนของผู้ป่วยควรได้รับขนาดยาเดียวกันในเวลาเดียวกันเพื่อป้องกันการกลับมาติดเชื้อ

-ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับคำแนะนำนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การใช้: ใช้รักษาอาการติดเชื้อทริโคโนแมส เนื่องจากการติดเชื้อ ทริโคโนแมส วาจินาลิส (Trichomonas vaginalis)

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคจิอาร์เดียซิส

รับประทานยา 2 กรัม 1 ครั้ง

การใช้: ใช้รักษาโรคจิอาร์เดียซิสเนื่องจากติดเชื้อปรสิต (Giardia lamblia)

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาบิดอะมีบา

รับประทานยา 2 กรัม 1 ครั้ง

ระยะเวลาในการรักษา

-ลำไส้: 3 วัน

-ติดเชื้อในตับ: 3 ถึง 5 วัน

คำแนะนำ

-ไม่ได้มีการระบุว่ายานี้ใช้รักษาซีสต์ชนิดไม่แสดงอาการ (asymptomatic cyst passage)

การใช้: ใช้เพื่อรักษาโรคบิดอะมีบาในลำไส้และที่ตับเนื่องจากติดเชื้อเอนตะมีบาฮิสโตไลติกา (Entamoeba histolytica)

ผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำ: รับประทานยา 2 กรัม 1 ครั้งต่อวัน

ระยะเวลาในการรักษา

-โรคลำไส้อักเสบขั้นไม่รุนแรงถึงปานกลาง: 3 วัน

-โรคลำไส้อักเสบขั้นรุนแรงและการลุกลามไปที่ตับ สมองและปอด: 5 วัน

คำแนะนำ

-การใช้ยานี้ร่วมกับ luminal amebicide ควรเป็นไปตามการรักษาระยะ 3 หรือ 5 วัน

-ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับคำแนะนำนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

รับประทานยา 2 กรัม 1 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 2 วัน หรือรับประทานยา 1 กรัม 1 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 5 วัน

คำแนะนำ

-ควรวินิจฉัยหาเชื้อโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบในช่องคลอดว่าเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรค เช่น เชื้อทริโคโมแนส วาจินาลิส เชื้อคลามายเดีย แทรโคมาทิส (Chlamydia trachomatis) เชื้อไนซีเรีย โกโนเรีย (Neisseria gonorrhoeae) เชื้อแคนดิดา แอลบิแคนส์ (Candida albicans) ไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex virus)

-ไม่มีการศึกษาการใช้ยานี้ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์

การใช้: ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดในผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์

ขนาดยาทั่วไปสำหรับใช้รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

คำแนะนำของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา: รับประทานยา 2 กรัม 1 ครั้ง

คำแนะนำ

-แนะนำให้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศ

-ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับคำแนะนำนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต

ไม่แนะนำให้ปรับขนาดยา

การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคตับ

แนะนำให้ใช้ความระมัดระวัง

กระบวนการกรองเสียของเลือด (Dialysis)

การฟอกเลือดด้วยไตเทียม: หากใช้ยานี้ในวันเดียวกันพร้อมหรือก่อนการฟอกเลือด แนะนำให้รับประทานยาเพิ่มเป็นครึ่งหนึ่งของขนาดยาที่แนะนำหลังจากฟอกเลือดเสร็จ

การฟอกเลือดผ่านเยื่อบุช่องท้อง: ไม่มีข้อมูล

คำแนะนำอื่นๆ

คำแนะนำในการใช้

-รับประทานร่วมกันอาหาร (เพื่อลดการปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่และผลข้างเคียงอื่นที่จะเกิดขึ้นกับกระเพาะอาหารและลำไส้ให้น้อยที่สุด) อาหารไม่ได้ส่งผลต่อปริมาณของยาในกระแสเลือด (bioavailability)

-สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดได้ อาจทำให้ยาเม็ดละลายในน้ำเชื่อมและกลืนพร้อมอาหาร เขย่าให้ดีก่อนรับประทานแต่ละครั้ง

ข้อกำหนดในการจัดเก็บ

-เก็บยาเม็ดในห้องควบคุมอุณหภูมิที่ 20 ถึง 25 องศาเซลเซียส (68 ถึง 77 องศาฟาเรนไฮต์) อาจปรับเป็น 15 ถึง 30 องศาเซลเซียสได้ (59 ถึง 86 องศาฟาเรนไฮต์) เก็บให้พ้นจากแสงแดด

-สารละลายของยาเม็ดในน้ำเชื่อมจะอยู่ได้ 7 วันที่อุณหภูมิห้อง

เทคนิคในการคืนสภาพหรือการจัดเตรียม

-สำหรับสารละลายใช้รับประทานเฉพาะบุคคล:

(a) ทำให้ยาเม็ด 500 มิลลิกรัม 4 เม็ดละเอียดเป็นผงโดยอุกรณ์สำหรับบดยา

(b) เพิ่มน้ำเชื่อมประมาณ 10 มิลลิลิตรในแป้งและผสมให้เข้ากัน

(c) เติมสารแขวนลอยไปยังภาชนะสำหรับตวง

(d) ใช้น้ำเชื่อมจำนวนน้อยหลายๆ ครั้งเพื่อล้างยาที่หลงเหลืออยู่ในอุปกรณ์บดยาจนกว่าจะได้ปริมาณ 30 มิลลิลิตร

การเฝ้าสังเกต

-เลือด: การนับจำนวนเม็ดเลือดขาวทั้งหมดและเฉพาะเม็ดเลือดขาวที่สมบูรณ์ (หากจำเป็นต้องรักษาอีกครั้ง)

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย

-หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และยาปรุงสำเร็จที่มีเอทานอลหรือโพรไพลีน ไกลคอล (propylene glycol) ระหว่างใช้ยาและ 72 ชั่วโมงหลังจากใช้ยาครั้งสุดท้าย

-หลีกเลี่ยงการลืมรับประทานยาและรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง

ขนาดยาทินิดาโซลสำหรับเด็ก

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคจิอาร์เดียซิส

อายุ 3 ปีหรือมากกว่า: รับประทานยา 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม 1 ครั้ง

ขนาดยาสูงสุด: 2 กรัมต่อครั้ง

การใช้: ใช้รักษาโรคจิอาร์เดียซิสเนื่องจากติดเชื้อ (Giardia lamblia)

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาบิดอะมีบา

อายุ 3 ปีหรือมากกว่า: รับประทานยา 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม 1 ครั้ง

ขนาดยาสูงสุด: 2 กรัมต่อวัน

ระยะเวลาในการรักษา

-ลำไส้: 3 วัน

-อะมีบาในตับ: 3 ถึง 5 วัน

คำแนะนำ

-ไม่ได้มีการระบุว่ายานี้ใช้รักษาซีสต์ชนิดไม่แสดงอาการ

-มีข้อมูลสำหรับการใช้ยาในผู้ป่วยที่เป็นเด็กเกิน 3 วันอย่างจำกัด มีรายงานว่าเด็กจำนวนไม่มากที่ใช้ยาเป็นเวลา 5 วันแล้วจะไม่มีผลข้างเคียง ควรเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ใช้ยาเกิน 3 วัน

การใช้: ใช้เพื่อรักษาโรคบิดอะมีบาในลำไส้และอะมีบาที่ตับเนื่องจากติดเชื้อเอนตะมีบาฮิสโตไลติกา

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางท่าน

อายุ 3 ปีหรือมากกว่า: รับประทานยา 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม 1 ครั้งต่อวัน

ขนาดยาสูงสุด: 2 กรัมต่อวัน

ระยะเวลาในการรักษา

-โรคลำไส้อักเสบขั้นไม่รุนแรงถึงปานกลาง: 3 วัน

-โรคลำไส้อักเสบขั้นรุนแรงและการลุกลามไปที่ตับ สมองและปอด: 5 วัน

คำแนะนำ

-การใช้ยานี้ร่วมกับสารฆ่าเชื้อในลำไส้ควรเป็นไปตามการรักษาระยะ 3 หรือ 5 วัน

-ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับคำแนะนำนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อทริโคโนแมส

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางท่าน: รับประทาน 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม 1 ครั้ง

ขนาดยาสูงสุด: 2 กรัมต่อครั้ง

คำแนะนำ

-ควรตรวจรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อวินิจฉัยอาการของร่างกาย

-คู่นอนของผู้ป่วยควรได้รับขนาดยาเดียวกันในเวลาเดียวกันเพื่อป้องกันการกลับมาติดเชื้อ

-ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับคำแนะนำนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การใช้: ใช้รักษาอาการติดเชื้อทริโคโนแมสเนื่องจากการติดเชื้อปรสิตคริโคโนแมส วาจินาลิส (Trichomonas vaginalis)

ขนาดยาทั่วไปสำหรับใช้รักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา: รับประทานยา 2 กรัม 1 ครั้ง

คำแนะนำ

-แนะนำให้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สำหรับวัยรุ่นในช่วงวัยเจริญพันธุ์หลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศ แนะนำให้ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อทริโคโมแนสและการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด

-ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับคำแนะนำนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อควรระวัง

ไม่ได้มีการยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี

รูปแบบของยา

ยาทินิดาโซลมีรูปแบบดังต่อไปนี้

  • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
  • ยาผงสูตรผสม

กรณีฉุกเฉินหรือการใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 31/12/2019

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา