backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

อีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน (Ezetimibe and Atorvastatin)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 08/02/2021

อีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน (Ezetimibe and Atorvastatin)

ข้อบ่งใช้

ยา อีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน ใช้สำหรับ

ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน (Ezetimibde and Atorcastatin) มักใช้ร่วมกับการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีและไขมัน เช่น ไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ (triglycerides) และเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ภายในเลือด ยาอีเซทิไมบ์นั้นทำงานโดยลดปริมาณการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหาร ยาอะทอร์วาสแตตินอยู่ในกลุ่มของยาสแตติน (statins) ทำงานโดยลดปริมาณการผลิตคอเลสเตอรอลจากตับ

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสม (เช่น อาหารที่มีคอเลสเตอรอลหรือไขมันต่ำ) การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ยังอาจช่วยให้ยานี้ทำงานได้ดีขึ้น เช่น การออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก หากมีน้ำหนักเกิน และการสูบบุหรี่ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ และการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดีนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงและช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน

วิธีการใช้ยาอีเซทิไมบ์ + ยาอะทอร์วาสแตติน

รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหาก ตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละครั้ง

ผู้ผลิตสั่งไม่ให้บดยา ละลาย หรือเคี้ยวยาเม็ดก่อนรับประทาน แต่ยาที่คล้ายกัน (ยาเม็ดออกฤทธิ์ทันที) นั้นสามารถบด ละลาย หรือเคี้ยวได้ ควรทำตามแนวทางวิธีการใช้ยาจากแพทย์

หากคุณใช้ยาไบล์แอซิดซีเควสแตรนต์ (bile acid sequestrant) เช่น คอเลสไทรามีน (cholestyramine) หรือคอเลสติพอล (colestipol) ควรรับประทานยานี้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อน หรืออย่างน้อย 4 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาไบล์แอซิดซีเควสแตรนต์ ยาเหล่านี้อาจผูกติดกับยาอีเซทิไมบ์ + ยาอะทอร์วาสแตติน และทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยานี้ได้อย่างเต็มที่

รับประทานยานี้เป็นประจำ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากยา เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน ควรรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง แม้จะรู้สึกเป็นปกติ คนส่วนใหญ่ที่มีคอเลสเตอรอลหรือไตรกลีเซอไรด์สูงนั้น จะไม่รู้สึกป่วย

ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์ในเรื่องการรับประทานอาหาร และออกกำลังกาย อาจต้องใช้เวลานานถึง 4 สัปดาห์ กว่าจะได้ประโยชน์สูงสุดจากยา

การเก็บรักษายาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน

ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยา หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อสินค้าหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา อีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณแพ้ต่อยาอีเซทิไมบ์หรือยาอะทอร์วาสแตติน หรือหากเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนประกอบไม่ออกฤทธิ์ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่นๆ โปรดสอบถามเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนใช้ยานี้โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะโรคตับ โรคไต ดื่มสุรา

ก่อนการผ่าตัด โปรดแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาตามใบสั่ง ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ)

ควรจำกัดปริมาณการดื่มสุรา การดื่มสุราเป็นประจำนั้นจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับตับ โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับยานี้ โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้สูงอายุอาจมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ได้มากกว่า โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้่อ

ห้ามใช้ยานี้ระหว่างการตั้งครรภ์ ยาอะทอร์วาสแตตินนั้นอาจทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น จึงควรป้องกันการตั้งครรภ์ขณะใช้ยานี้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และวิธีการคุมกำเนิดที่น่าเชื่อถือ (เช่น ถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด) หากคุณตั้งครรภ์หรือคาดว่าอาจจะตั้งครรภ์ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยานี้สามารถเข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ ไม่แนะนำการใช้นมบุตรขณะใช้ยานี้ เนื่องความเสี่ยงในการเป็นอันตรายต่อเด็กทารก โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท X โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน

คนจำนวนน้อยที่รับประทานยาอะทอร์วาสแตติน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับความจำในระดับเบาหรือสับสน หากเกิดอาการที่หายากเหล่านี้โปรดปรึกษากับแพทย์

ในบางกรณี ยาสแตตินอาจทำให้โรคเบาหวานรุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยง

ในนานๆ ครั้งยานี้อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจนำไปสู่สภาวะที่รุนแรงอย่างกล้ามเนื้อลายสลาย (rhabdomyolysis) และโรคออโตอิมมูน มัยโอพาที (autoimmune myopathy) ซึ่งเป็นอาการผิดปกติของเซลล์กล้ามเนื้อ แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดอาการเหล่านี้ระหว่างการรักษา และหากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหลังจากหยุดใช้ยา ได้แก่ กล้ามเนื้อมีอาการปวด กดเจ็บ หรืออ่อนแรง (โดยเฉพาะหากมีอาการไช้หรือเหนื่อยล้าผิดปกติร่วมด้วย) มีสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับไต (เช่น ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลง)

ยานี้อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตับ แต่ค่อนข้างพบได้ยาก หากคุณสังเกตเห็นอาการที่พบได้ยากแต่รุนแรงดังต่อไปนี้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที ได้แก่ ดวงตาและผิวหนังเป็นสีเหลือง ปัสสาวะสีคล้ำ ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน

การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาอื่นสามารถส่งผลกระทบต่อการกำจัดยาอะทอร์วาสแตตินออกจากร่างกายได้และส่งผลต่อการทำงานของยาอะทอร์วาสแตติน ยาเหล่านี้ได้แก่ โคลชิซิน (colchicine) เจมไฟโบรซิล (gemfibrozil) ทีลาพรีเวียร์ (telaprevir) เทลิโทรมัยซิน (telithromycin) ริโทนาเวียร์ (ritonavir) ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซลบางชนิด (azole antifungals) เช่น ไอทราโคนาโซล (itraconazole) คีโตโคนาโซล (ketoconazole) หรือโพซาโคนาโซล (posaconazole) และอื่นๆ

ยารับประทานผลิตภัณฑ์ข้าวยีสต์แดง ขณะที่กำลังใช้ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตติน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ข้าวยีสต์แดงบางชนิดอาจมีสแตตินที่เรียกว่าโลวาสแตติน (lovastatin) การรับประทานยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินพร้อมกับผลิตภัณฑ์ข้าวยีสต์แดง สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและตับ

ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหรือดื่มน้ำเกรฟฟรุต ขณะที่กำลังใช้ยานี้ นอกเสียจากแพทย์หรือเภสัชกรจะบอกว่า สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย เกรฟฟรุตสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงของยาได้ โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ การตอบสนองต่อการรักษา และยาอื่นๆ ที่คุณกำลังใช้ ควรแจ้่งให้แพทย์และเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาตามใบสั่ง ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ) อย่าเพิ่มขนาดยามากกว่าที่กำหนด อาการของคุณจะไม่หายไวขึ้น และความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ขนาดยาอีเซทิไมบ์ และอะทอร์วาสแตตินสำหรับเด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 08/02/2021

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา