เดพาคอต® (Depakote®) คือชื่อยี่ห้อของตัวยาไดวาลโปรเอ็กซ์ โซเดียม ที่ใช้เพื่อรักษาอาการชัก อาการปวดหัวไมเกรน และอาการที่เกิดจากโรคไบโพลาร์ ซึ่งข้อมูลของยามีดังนี้
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
เดพาคอต® (Depakote®) คือชื่อยี่ห้อของตัวยาไดวาลโปรเอ็กซ์ โซเดียม ที่ใช้เพื่อรักษาอาการชัก อาการปวดหัวไมเกรน และอาการที่เกิดจากโรคไบโพลาร์ ซึ่งข้อมูลของยามีดังนี้
ยาเดพาคอต®ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเดพาคอต® บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเดพาคอต® ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
1. ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
2. คุณไม่ควรใช้ยาเดพาคอต® หากคุณมีอาการ
3. ยาเดพาคอต® สามารถทำให้เกิดภาวะตับวายที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปีและผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับที่เกิดจากโรคทางพันธุกรรม ที่เกิดจากความผิดปกติของยีนในไมโทคอนเดรีย
4. ผู้ที่อายุน้อยบางส่วนอาจจะมีความคิดอยากจะฆ่าตัวตาย เมื่อเริ่มใช้ยาเดพาคอต® แพทย์จะต้องนัดเพื่อตรวจความคืบหน้าของคุณเป็นประจำขณะที่กำลังใช้ยานี้ ครอบครัวและผู้ดูแลของคุณ ควรจะตื่นตัวต่อความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หรืออาการของคุณ
5. อย่าใช้ยาเดพาคอต® เพื่อป้องกันอาการปวดหัวไมเกรน หากคุณตั้งครรภ์
6. หากคุณใช้ยาเดพาคอต® เพื่อรักษาอาการชักหรือช่วงอารมณ์จิตคลุ้มคลั่ง ยานี้สามารถเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ และอาจจะส่งผลประทบต่อความสามารถทางปัญญา (การใช้เหตุผล สติปัญญา การแก้ปัญหา) ในชีวิตของเด็กต่อมาภายหลัง แต่การมีอาการชักขณะตั้งครรภ์ อาจเป็นอันตรายทั้งกับแม่และเด็ก อย่าเริ่มหรือหยุดใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแทพย์
7. ควรใช้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่กำลังใช้ยานี้ และโปรดแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากคุณตั้งครรภ์
8. โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณเริ่มหรือหยุดใช้ยาคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมนที่มีส่วนผสมของเอสโตรเจน (estrogens) เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด การฝังยาคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด และวงแหวนสอดช่องคลอดคุมกำเนิด เอสโทรเจนนั้นสามารถทำปฏิกิริยากับไดวาลโปรเอ็กซ์ โซเดียม (divalproex sodium) และทำให้ยามีประสิทธิภาพในการป้องกันการชักได้น้อยลง
9. การควบคุมอาการชักนั้นสำคัญมากขณะตั้งครรภ์ ประโยชน์จากการป้องกันอาการชักนั้น อาจจะมากกว่าความเสี่ยงใดๆ ที่เกิดจากการใช้ยาเดพาคอต® อาจจะมียาอื่นที่ปลอดภัยมากกว่าที่จะใช้ขณะตั้งครรภ์ ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยานี้ ขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์
10. ไดวาลโปรเอ็กซ์ โซเดียมสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ และทำอันตรายต่อทารก โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังให้นมบุตร
ยังไม่มีงานข้อมูลที่เพียงพอ เกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษากับแพทย์เสมอ เพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนใช้ยานี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้
โปรดติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงดังต่อไปนี้
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ เป็นไข้ ต่อมบวม มีแผลที่ปาก หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
โปรดติดต่อแพทย์ในทันที หากผู้ที่ใช้ยานี้มีสัญญาณแรกของปัญหาเกี่ยวกับตับหรือตับอ่อ เช่น เบื่ออาหาร ปวดท้องส่วนบน (ที่อาจจะแพร่ไปยังหลัง) กำลังมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน ปัสสาวะสีคล้ำ มีอาการบวมที่ใบหน้า หรือโรคดีซ่าน (ดวงตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง)
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณมีอาการใหม่หรืออาการแย่ลง เช่น มีความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจหรือพฤติกรรม ซึมเศร้า วิตกกังวล อาการแพนิคกำเริบ (panic attacks) นอนไม่หลับ หรือหากคุณรู้สึกหุนหันพลันแล่น หงุดหงิด กระวันกระวาย ไม่เป็นมิตร ก้าวร้าว ร้อนรน อยู่ไม่สุข (ทางจิตใจหรือร่างกาย) หรือมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายตัวเอง
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาเดพาคอต® อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาเดพาคอต® อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาเดพาคอต® อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
จิตอารมณ์คลุ้มคลั่ง
ยาเม็ดเดพาคอตมักจะให้โดยการรับประทาน ขนาดยาเริ่มต้นที่แนะนำคือ 750 มก.ต่อวัน โดยแบ่งรับประทาน ควรเพิ่มขนาดยาขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ได้รับขนาดยาสำหรับการรักษาต่ำที่สุดที่ให้ผลทางการแพทย์ที่ต้องการ หรือได้รับความเข้มข้นของพลาสมาอยู่ในระดับที่ต้องการ
ในการทดลองทางการแพทย์แบบควบคุม โดยใช้ยาหลอกเพื่อรักษาภาวะอารมณ์จิตคลุ้มคลั่งเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีการตอบสนองทางการแพทย์ ในระดับความเข้มข้นของพลาสม่าช่วงระหว่าง 50 และ 125 ไมโครกรัม/มล.
มักจะได้รับระดับความเข้มข้นสูงสุดภายใน 14 วัน ขนาดยาสูงสุดที่แนะนำคือ 60 มก./กก./วัน
อาการชักเฉพาะที่แบบขาดสติ (Complex Partial Seizures)
สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไป
การรักษาด้วยยาชนิดเดียว (ช่วงเริ่มต้นการรักษา)
การเปลี่ยนมาเป็นการรักษาด้วยยาชนิดเดียว
การเสริมการรักษา
อาการชักแบบเหม่อลอย (Absence Seizures) ชนิดธรรมดาและชนิดซับซ้อน
ขนาดยาเริ่มต้นที่แนะนำคือ 15 มก./กก./วัน เพิ่มขนาดยาโดยเว้นหนึ่งสัปดาห์ที่ขนาด 5 ถึง 10 มก./กก./วัน จนกระทั่งสามารถควบคุมอาการชักได้ หรือสามารถขัดขวางไม่ให้ผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น
ขนาดยาสูงสุดที่แนะนำคือ 60 มก./กก./วัน.
หากขนาดยาต่อวันเกิน 250 มก. ควรแบ่งให้ยา
โรคไมเกรน
ยาเดพาคอต® มีข้อบ่งใช้ในการป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนในผู้ใหญ่
ยาเม็ดเดพาคอต® ให้โดยการรับประทานเท่านั้น ขนาดยาเริ่มต้นที่แนะนำคือ 250 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง ในบางครั้งผู้ป่วยอาจจะได้ประโยชน์จากขนาดยาสูงถึง 1,000 มก./วัน ในการทดลองทางการแพทย์ ยังไม่มีหลักฐานว่า ขนาดยาที่สูงกว่านั้นจะได้ประสิทธิภาพมากกว่า
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย