กรณีเคสผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 85 ปี ที่มีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวานและมีไข้สูง มาโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ด้วยอาการพูดไม่ชัด หูข้างซ้ายอื้อ มีเสียงดัง นึกคำพูดไม่ออก หลังจามแล้วเอามือปิดจมูกปิดปากพร้อม ๆ กัน คุณหมอจึงได้ทำการวินิจฉัยตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging :MRI) พบว่ามีลม (Air pocket) ในเนื้อสมองข้างซ้ายขนาด 7 4 3.2 เซนติเมตร จึงได้ทำการรักษาตามอาการ ผู้ป่วยเริ่มดีขึ้นช้าๆ และกลับมาเป็นปกติ ลมคงค่อยๆดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด และหายไปเองภายใน 50 วัน คุณหมอจึงได้ทำการสรุปเคสของผู้ป่วยรายนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC มีรายละเอียดใจความสำคัญดังนี้
ลมเข้าสมองจากการเอามือบีบจมูกเม้มปากแน่นขณะจาม รายแรกของโลกเกิดขึ้น 2 ครั้งในเวลาห่างกัน 3 ปีกว่า
ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 85 ปี เป็นโรคเบาหวานและไขมันสูง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 มาโรงพยาบาลด้วยอาการพูดไม่ชัด นึกคำพูดไม่ออก หูข้างซ้ายอื้อ มีเสียงดัง หลังจากจามแล้วเอามือบีบจมูกเม้มปากแน่นพร้อมๆกัน ได้ทำ MRI คลื่นแม่เหล็กสมอง พบมีลม (air pocket)ในเนื้อสมองข้างซ้ายขนาด 7 × 4 × 3.2 เซนติเมตร ให้การรักษาตามอาการ ผู้ป่วยดีขึ้นช้า ๆ และกลับมาเป็นปกติ ทำคอมพิวเตอร์สมองซ้ำ ลมคงค่อย ๆ ดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด หายไปเองภายใน 50 วัน ได้เตือนผู้ป่วยเวลาจามห้ามเอามือมาบีบจมูกและเม้มปากอีกเด็ดขาด
วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ผู้ป่วยกลับมารพ.อีกครั้งหลังจากจามแล้วเอามือบีบจมูกเม้มปากแน่นเพราะไม่อยากให้มีเสียงดัง หลังทำมีอาการพูดไม่ชัด หน้าข้างขวาเบี้ยว หูข้างซ้ายอื้อ มีเสียงดัง ทำคอมพิวเตอร์สมองพบลม (air pocket) ในเนื้อสมองข้างซ้ายขนาด 5.1 × 4.1 × 2.8 เซนติเมตร ตำแหน่งเดิมเหมือนเมื่อ 3 ปี 5 เดือนก่อน แต่ปริมาตรของลมในเนื้อสมองครั้งนี้น้อยกว่า ผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาล 4 วัน อาการดีขึ้นช้า ๆ กลับบ้านได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย