backup og meta

ค่าความดันปกติ คือเท่าไหร่ และวิธีป้องกันค่าความดันสูง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์สุรพงษ์ หล่อสมฤดี · สุขภาพ · คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 08/05/2022

    ค่าความดันปกติ คือเท่าไหร่ และวิธีป้องกันค่าความดันสูง

    ค่าความดันโลหิต หรือที่อาจเรียกว่า ค่าความดัน เป็นค่าแรงดันของกระแสเลือดที่กระทบกับผนังหลอดเลือดแดง เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ปกติแล้ว ค่าความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้นและลดลงตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม ควรเรียนรู้ ค่าความดันปกติ ที่เหมาะสมกับอายุ เพศ กิจกรรมที่ทำ และภาวะสุขภาพของตัวเองที่สุด และควรรักษาค่าความดันให้เป็นปกติ อย่าให้ความดันโลหิตสูงหรือต่ำเป็นประจำหรือเรื้อรัง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ ที่สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่อันตรายได้ เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง 

    ค่าความดัน คืออะไร 

    ค่าความดันโลหิต หรือค่าความดัน คือ ค่าแรงดันเลือดที่ส่งแรงกระทบกับผนังหลอดเลือดแดงเนื่องจากหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย โดยค่าความดันจะมี 2 ค่า ได้แก่ 

    • ค่าความดันโลหิตตัวบน หรือตัวเลขค่าบน คือ ค่าแรงดันขณะที่หัวใจบีบตัวหรือสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายเต็มที่ (Systolic Blood Pressure)
    • ค่าความดันโลหิตตัวล่าง หรือตัวเลขค่าล่าง คือ ค่าแรงดันขณะที่หัวใจคลายตัวเต็มที่ (Diastolic Blood Pressure)

    ค่าความดันปกติ คือเท่าไร 

    การอ่านค่าความดันโลหิต ตัวเลขค่าบนจะมาก่อน ตามด้วยตัวเลขค่าล่าง เช่น 120/80 หมายถึง ตัวเลขค่าบน 120 มิลลิเมตรปรอทและตัวเลขค่าล่าง 80 มิลลิเมตรปรอท

    ค่าความดัน อาจแบ่งเป็นระดับได้ ดังนี้

    • ค่าความดันปกติ ตัวเลขค่าบนต่ำกว่า 120 มิลลิเมตรปรอท และตัวเลขค่าล่างต่ำกว่า 80 มิลลิเมตรปรอท 
    • ค่าความดันต่ำ ตัวเลขค่าบนต่ำกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท และตัวเลขค่าล่างต่ำกว่า 60 มิลลิเมตรปรอท อาจมีอาการเวียนศีรษะ อ่อนแรง หรือเป็นลม 
    • ค่าความดันเริ่มสูง ตัวเลขค่าบน 120-129 มิลลิเมตรปรอท และตัวเลขค่าล่างต่ำกว่า 80 มิลลิเมตรปรอท  
    • ค่าความดันโลหิตสูงระยะที่ 1 ตัวเลขค่าบน 130-139 มิลลิเมตรปรอท และตัวเลขค่าล่าง 80-89 มิลลิเมตรปรอท
    • ค่าความดันโลหิตสูงระยะที่ 2 ตัวเลขค่าบนสูงกว่า 140  มิลลิเมตรปรอท และตัวเลขค่าล่างสูงกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท
    • ค่าความดันโลหิตสูงระยะที่ 3 ตัวเลขค่าบนสูงตั้งแต่ 180  มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และตัวเลขค่าล่างสูงกว่า 110 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป 

    ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักไม่ค่อยแสดงอาการ แต่บางครั้งอาจมีอาการ เช่น เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หากความดันสูงมากอาจเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก จนเป็นอันตรายได้

    หากค่าความดันโลหิตสูง คุณหมออาจแนะนำให้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ให้ยาลดความดันตามอาการ และอาจนัดติดตามอาการเป็นระยะ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อให้ค่าความดันปกติได้โดยเร็วที่สุด เพราะหากค่าความดันโลหิตสูงเรื้อรัง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรง ได้ เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ 

    วิธีการวัดความดัน 

    การวัดความดันโลหิต ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้ 

    • ไม่ควรสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงชา กาแฟ ก่อนวัดความดันโลหิตอย่างน้อย 30 นาที
    • หากเพิ่งออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก ควรนั่งพักสัก 30 นาที จึงค่อยวัดความดันโลหิต
    • ควรปัสสาวะให้เรียบร้อย เพราะหากปวดปัสสาวะระหว่างวัดความดันอาจส่งผลต่อค่าระดับความดันโลหิต
    • นั่งตัวตรง หลังพิงพนักเก้าอี้ และวางเท้าราบกับพื้น ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง หรือนัดขัดสมาธิ เพราะอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด
    • วางแขนไว้ระดับเดียวกับหัวใจ และผ่อนคลาย 
    • กดปุ่มเครื่องวัดความดัน โดยในขณะวัดไม่ควรพูดคุยหรือขยับตัว
    • จดบันทึกค่าความดันที่วัดได้ทุกครั้ง อาจวัดความดันโลหิตอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและช่วงเย็น ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพและคำแนะนำของคุณหมอ

    วิธีป้องกันความดันสูง 

    วิธีเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะความดันสูง และช่วยให้ค่าความดันปกติได้ 

    • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรจำกัดโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน 
    • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ผู้ชายควรมีรอบเอวไม่เกิน 36 นิ้ว และผู้หญิงควรมีรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้ว เนื่องจากผู้ที่มีน้ำหนักเกินอาจเสี่ยงเกิดภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน  
    • ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดิน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือสัปดาห์ละ 150 นาที แต่ถ้าหากมีอาการเหนื่อยมากผิดปกติ หายใจไม่ทัน ควรหยุดออกกำลังกายทันที และพักสักระยะ หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบคุณหมอ
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง/วัน 
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะอาจส่งผลต่อระดับความดันโลหิตได้ 

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    นายแพทย์สุรพงษ์ หล่อสมฤดี

    สุขภาพ · คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


    เขียนโดย นนทกร บัณฑิตสินทรัพย์ · แก้ไขล่าสุด 08/05/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา