backup og meta

ท่านอนสุดโปรด กับปัญหาสุขภาพที่ไม่โปรดปรานอย่างที่คิด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 22/01/2021

    ท่านอนสุดโปรด กับปัญหาสุขภาพที่ไม่โปรดปรานอย่างที่คิด

    เชื่อหรือไม่คะว่า ท่านอน ที่เรานอนอยู่ทุกวัน เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญเหมือนกันนะ เพราะมันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า ท่านอนสุดโปรด ของเรานั้นสามารถบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของเราได้บ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความ Hello คุณหมอ 

    ท่านอน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเราได้อย่างไร?

    ท่านอนนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะท่านอนนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ เช่น ส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจ การนอนกรน การปวดเอว อาการนอนไม่หลับ หรือบางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นหยุดหายใจขณะหลับ 

    เช็กด่วน! ท่านอนสุดโปรด บ่งบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพได้บ้าง

    ท่านอนสุดโปรด ของเรานั้นสามารถบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพได้บ้าง วันนี้ Hello คุณหมอ นำข้อดี และข้อเสีย ลักษณะท่านอนมาฝากทุกคนค่ะ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

    1.นอนหงาย

    • ข้อดี การนอนหงายนั้นเป็นท่าที่ทำให้เรารู้สึกหายใจสะดวกขึ้นขณะหลับ ช่วยลดอาการปวดหลัง ปวดคอ และอาการปวดสะโพก เป็นต้น 
    • ข้อเสีย สำหรับหลาย ๆ คนอาจคิดว่าการนอนหงายนั้นดีต่อสุขภาพ แต่อาจไม่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการหายใจ เช่น การนอนกรน โรคสมาธิสั้น ไซนัสอักเสบ ความดันโลหิตสูง 

    2.นอนตะแคงซ้าย

  • ข้อดี ท่านอนตะแคงซ้ายมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ไขอาการนอนกรน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อาจวางหมอนไว้ใต้ท้อง หรือระหว่างหัวเข่า จะช่วยลดแรงกดดันต่อกระเพาะปัสสาวะ และอาการปวดหลัง 
  • ข้อเสีย เมื่อนอนตะแคงด้านซ้ายอวัยวะภายในทรวงอกจะขยับได้ ปอดอาจมีน้ำหนักมากต่อหัวใจ ความดันที่เพิ่มขึ้นอาาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ หัวใจอาจตอบสนองต่อความดันที่เพิ่มขึ้น โดยกระตุ้นไตทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน 
  • 3.นอนตะแคงขวา

    • ข้อดี ท่านอนตะแคงขวาช่วยหลีกเลี่ยงจากผลกระทบของการนอนหงาย เช่น ผู้ที่มีอาการนอนกรน ความดันโลหิตสูง ไซนัสอักเสบ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดข้อต่าง ๆ ให้บรรเทาลงอีกด้วย
    • ข้อเสีย การนอนตะแคงขวาอาจทำให้เกิดการกดทับที่เส้นประสาทแขนขวา หรืออาจนำไปสู่การบาดเจ็บจากการกดทับหรือโรคระบบประสาท อาจทำให้เกิดอาการปวดไหล่ขวาหลังส่วนล่าง และสะโพกด้านขวา

    4.นอนคว่ำ 

    • ข้อดี การนอนคว่ำช่วยแก้ไขอาการนอนกรนได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะที่เกิดขึ้นกับทรวงอก
    • ข้อเสีย ท่านอนคว่ำอาจนำไปสู่อาการปวดคอ นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณไหล่หรือส่วนบนตึงจากการถูกกดทับเส้นประสาทภายในแขน

    5.นอนในท่านั่ง

    • ข้อดี การยกศีรษะระหว่างการนอนหลับอาจลดความเสี่ยงของการนอนกรน และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ 
    • ข้อเสีย ท่านี้ถือว่าอันตรายอย่างมากหากคุณจะนอนในท่านั่ง โดยการยกศีรษะสูงไว้ตลอดทั้งคืน นอกจากนี้ยังส่งผลให้เรามีอาการปวดต้นคอ ปวดหลัง ปวดสะโพกได้

    การนอนหลับที่เหมาะสม แต่ละช่วงอายุ

    นอกจากท่านอนแล้ว สิ่งสำคัญคือเราควรต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับที่เหมาะสมส่วนใหญ่มักอยู่กับอายุของเรา โดยมูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติ  (National Sleep Foundation) แนะนำช่วงเวลาการนอนหลับที่เหมาะสมกับช่วงอายุของเรา โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 

    ช่วงอายุ ปริมาณการนอนหลับที่แนะนำต่อวัน
    0-3 เดือน 14-17 ชั่วโมง
    4-11 เดือน 12-15 ชั่วโมง
    1-2 ปี 11-14 ชั่วโมง
    3-5 ปี 10-13 ชั่วโมง
    6-13 ปี 9-11 ชั่วโมง
    14-17 ปี 8-10 ชั่วโมง
    18-25 ปี 7-9 ชั่วโมง
    26-64 ปี 7-9 ชั่วโมง
    65 ปีขึ้นไป 7-8 ชั่วโมง

    หากร่างกายไม่ได้นอนหลับ พักผ่อนเต็มที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวานที่2 ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น 

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 22/01/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา