backup og meta

โกนขน เป็นวิธีกำจัดขนแบบง่ายๆ แต่อาจทำพลาดได้โดยไม่รู้ตัว

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 02/02/2021

    โกนขน เป็นวิธีกำจัดขนแบบง่ายๆ แต่อาจทำพลาดได้โดยไม่รู้ตัว

    โกนขน เป็นวิธีกำจัดขนแบบง่ายๆ ที่ผู้หญิงทุกคนน่าจะคุ้ยเคยกันดีอยู่แล้ว แต่คุณแน่ใจเล้วเหรอว่าสิ่งที่คุณทำเป็นประจำอยู่นั้นเป็นวิธีการที่ถูกต้องแล้ว การโกนขนแม้จะดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ก็ต้องอาศัยเทคนิคและเคล็ดลับบางประการเหมือนกันนะ ซึ่งเราเชื่อว่ายังมีสาวๆ หลายคนยังคงทำแบบผิดๆ กันอยู่ ฉะนั้น เราจึงขอมาไขข้อข้องใจไว้ตรงนี้เลย ว่าอะไรบ้างที่สาวๆ มักทำพลาดกันในการโกนขน

    โกนขน ในขณะผิวแห้ง

    เราเข้าใจว่าบางครั้งคนเราก็ต้องเร่งรีบบ้าง การจะสลัดผ้าแล้วเข้าไปอยู่ใต้ฝักบัว เพื่อทำให้ผิวเปียกก่อนจึงอาจกลายเป็นเรื่องยาก สิ่งที่คุณทำได้ ณ ตอนนั้นก็คือ คว้ามีดโกนที่อยู่ใกล้มือที่สุดขึ้นมา แล้วบรรจงโกนขนขาทั้งที่ผิวยังแห้งๆอยู่นั่นแหละ คุณอาจจะรู้สึกเจ็บแต่ก็ต้องทน แล้วค่อยมาแก้ปัญหารอยแดงกันทีหลัง การทำแบบนี้ไม่ส่งผลดีต่อผิวของคุณเลยนะ เพราะผู้เชี่ยวชาญบอกว่านั่นจะทำให้รู้สึกแสบร้อนหรือเกิดบาดแผลได้ ฉะนั้น รีบยังไงก็ควรทำผิวให้เปียก และใช้ครีมโกนขนซะหน่อยดีกว่านะ

    ใช้ใบมีดโกนผิดประเภท

    ยิ่งโลกนี้มีเทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้สาวๆ เลือกใช้มีดโกนที่สะดวกและปลอดภัยกันได้ง่ายขึ้น แต่ขอบอกว่ามีดโกนที่สะดวกและปลอดภัยนั้น มักไม่ใช่มีดโกนราคาถูก เมื่อพูดถึงการโกนขนแล้ว คุณไม่ควรประหยัดในเรื่องนี้ ลืมมีดโกนราคาประหยัดที่ขายเป็นแพ็คไปได้เลย เพราะมีดโกนแบบนั้นมักจะเป็นมีดโกนแบบใบมีดเดี่ยวๆ ซึ่งโกนยากและทำให้เกิดบาดแผลได้ง่าย ทางที่ดีจึงควรเลือกแบบที่มีสองหรือสามใบมีดซ้อนกันขึ้นไป แต่ถ้ามีเกินสามใบมีดก็ไม่ดีเหมือนกันนะ เพราะนั่นจะทำให้โกนขนได้สั้นเกินไป และจะทำให้เกิดอาการคันยุบยิบเวลาที่งอกขึ้นมาใหม่ และอาจมีปัญหาขนคุดตามมาด้วย

    โกนขนผิดทิศทาง

    สถาบันผิวหนังของอเมริกาบอกว่า การโกนขนตามทิศทางที่ขนงอกขึ้นมา จะช่วยป้องกันรอยแดงจากการโกน รวมทั้งตุ่มแดงๆให้คุณได้ ซึ่งก็หมายความว่าเวลาที่คุณโกนขนขา คุณก็ต้องลากมีดโกนลงไปทางด้านล่าง ไม่ใช่ลากขึ้นมาทางด้านบน ถึงแม้ว่าการทำแบบนั้นจะช่วยให้สามารถโกนขนได้แนบสนิทไปกับผิวก็ตาม แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการระคายเคือง และทำให้เกิดบาดแผลขึ้นมาได้ ถ้าอยากโกนขนให้แนบสนิทไปกับผิวจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ลากมีดโกนไปทางด้านล่างครั้งหนึ่งก่อน จากนั้น ก็ทาครีมโกนขนซ้ำอีกรอบ แล้วค่อยโกนขนย้อนทางขึ้นไปอีกรอบ วิธีนี้จะช่วยให้โกนขนได้เนียนเรียบและปลอดภัยกว่า แต่ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ควรทำวิธีนี้นะ

    ใช้สบู่แทนครีมโกนขน

    ในกรณีที่ครีมโกนขนหมดแล้วจะต้องทำการโกนขนอย่างเร่งด่วนนั้น สาวๆบางคนอาจใช้วิธีฟอกสบู่ในบริเวณที่จะโกนขนแทน ซึ่งขอบอกว่าเป็นวิธีการที่ผิดมหันต์ เพราะสบู่ไม่สามารถช่วยทำหน้าที่หล่อลื่นผิวได้ดีเท่าครีมโกนขน ทำให้การโกนขนอาจเกิดความสะดุด หรือพลาดจนเกิดบาดแผลได้ จึงไม่ควรทำแบบนี้เด็ดขาด ถ้าจำเป็นจริงอาจใช้ คอนดิชันเนอร์แทนยังดูน่าจะปลอดภัยกว่า

    ไม่ยอมขัดผิวก่อนโกนขน

    ก็อย่างที่รู้ๆกันนั่นแหละว่า การใช้สครับขัดผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ซึ่งนอกจากช่วยเผยให้เห็นผิวใหม่ที่ดูปิ๊งปั๊งกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้โกนขนได้ง่ายขึ้นด้วยนะ แถมยังช่วยลดปัญหาขนคุดหรือตุ่มแดงๆ ได้ชะงัดด้วย ฉะนั้นขัดผิวก่อนทำการโกนขนเถอะนะ นี่เป็นอะไรที่คุ้มค่ากับการเสียแรงเสียเวลาจริงๆ นะ ผลที่ออกมาเป็นอะไรที่แตกต่าง และจะทำให้คุณเลิกบ่นโน่นบ่นนี่ไปเลย

    ไม่ยอมเปลี่ยนใบมีดโกน

    การประหยัดเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรนำมาใช้ในการโกนขน เพราะผลลัพท์ที่ตามมาจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะใบมีดทื่อมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ตุ่มแดงๆ และรอยแผล ยิ่งไปกว่านั้นใบมีดเก่าๆ ยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียชั้นดี ที่มีโอกาสทำให้เกิดอาการติดเชื้อจากการโกนขนได้ ฉะนั้นถ้าคุณใช้ใบมีดโกนนั้นมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆแล้ว หรือรู้สึกว่ามีดโกนนั้นเหนี่ยวรั้งผิวในขณะโกนเกินไป ก็ควรเหวี่ยงทิ้งไปได้แล้ว เพราะมันไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องมาเสียเวลาเยียวยาปัญหาผิวกันภายหลัง ปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า

    ไม่ยอมทาโลชั่นหลังโกน

    ผิวแห้งๆ มีโอกาสจะเกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายกว่าผิวที่มีความชุ่มชื้น แล้วผิวที่ระคายเคืองนั้นก็นำมาซึ่งปัญหาต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงหรือขนคุด ฉะนั้นการไม่ยอมทาโลชั่นหลังโกนขน จึงนับว่าเป็นการทำผิดพลาดอย่างมหันต์ โกนขนเสร็จแล้วก็ทาโลชั่นหรือออยล์ซะหน่อยเถอะ มันคงไม่เสียเวลาอะไรมากมายนักหรอก ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันโรสฮิป เพราะน้ำมันบำรุงผิวทั้งสองชนิดนี้ มีสรรพคุณในการยับยั้งการอักเสบ จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อและอาการระคายเคืองบนผิวได้

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 02/02/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา