นอกจากนี้ ส่วนผสมดังต่อไปนี้ก็อาจช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้เช่นกัน
- อาร์บูติน (Arbutin)
- กรดโคจิก (Kojic Acid)
- ชะเอมเทศ (Licorice)
ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมดังกล่าว อาจช่วยลดความคล้ำเข้มของผิวหนังบริเวณขาหนีบได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาเภสัชกรหรือคุณหมอก่อน เพื่อจะได้ประเมินสาเหตุที่ทำให้ขาหนีบดำ และสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
โดยทั่วไปแล้ว คุณหมอผิวหนังมักแนะนำให้บรรเทาอาการขาหนีบดำด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้
- เรตินอยด์ (Retinoids) ครีมที่มีเรตินอยด์ ซึ่งเป็นกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอเป็นส่วนผสมอาจช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง และช่วยรักษารอยดำบนผิวหนังได้ แต่อาจต้องใช้เรตินอยด์เป็นเวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ทำให้ผิวแห้งขึ้น ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น
วิธีแก้ขาหนีบดำด้วยเลเซอร์
การปรับสภาพผิวด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถลดการเกิดเซลล์เม็ดสีได้โดยไม่ก่อให้เกิดแผลเป็น ซึ่งคุณผิวหนังสามารถให้คำปรึกษาได้ว่าภาวะขาหนีบดำที่เป็นอยู่สามารถรักษาด้วยเลเซอร์ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองบริเวณขาหนีบอยู่ช่วงหนึ่ง หากขาหนีบต้องเสียดสีกันบ่อย ๆ
วิธีป้องกันไม่ให้ขาหนีบดำ
วิธีเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะขาหนีบดำได้
- ป้องกันการเสียดสีด้วยการสวมกางเกงซับในหรือถุงน่องเอาไว้ข้างในกระโปรงหรือชุดที่สวมใส่
- รักษาบริเวณต้นขาด้านในให้สะอาด และสครับผิวอย่างเบามือเพื่อขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วซึ่งอาจสะสมอยู่บนผิวหนัง
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่รัดแน่นเกินไป เพื่อป้องกันเหงื่อและแรงเสียดสี
- หลีกเลี่ยงการโกนหรือแว็กซ์ขนบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน หากต้องเผชิญแสงแดด ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง และพยายามอย่าให้ผิวเผชิญแสงแดดโดยตรง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย