โดยส่วนใหญ่ อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะมักจะหายไปได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน แต่หากเชื้อลุกลาม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงมากกว่า เช่น ไตอักเสบ และควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
ควรไปพบคุณหมอเมื่อไหร่
หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบคุณหมอเพื่อเร่งทำการรักษาในทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของติดเชื้อที่รุนแรงได้
นอกจากนี้ หากอาการยังคงไม่หายไป หรืออาการกำเริบอีกครั้ง หลังจากทำการรักษา ก็ควรติดต่อคุณหมอเช่นกัน
สาเหตุ
สาเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาจเกิดจากสาเหตุ ดังต่อไปนี้
- การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้ออีโคไล (E. coli) ที่สามารถพบได้บนผิวหนังและลำไส้เล็ก ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การเช็ดทำความสะอาดจากบริเวณทวารหนักมายังอวัยวะเพศ อาจทำให้เชื้อโรคมีโอกาสสัมผัสกับรูปัสสาวะ และทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ไซโคลฟอสฟาไมด์ (Cyclophosphamide) ไอฟอสฟาไมด์ (Ifosfamide) ที่มักใช้ในการทำเคมีบำบัด อาจทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะได้
- การฉายรังสีบำบัด เพื่อทำการรักษาบริเวณอุ้งเชิงกราน อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณอุ้งเชิงกราน รวมถึงกระเพาะปัสสาวะ เกิดการเสียหาย และเกิดอาการอักเสบได้
- สิ่งแปลกปลอมที่สอดใส่ในทางเดินปัสสาวะ เช่น สายสวนปัสสาวะ อาจทำให้เกิดอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะได้
- โรคเรื้อรัง เช่น กลุ่มอาการปวดกระเพาะปัสสาวะ โรคเบาเหวาน นิ่วในไต ภาวะต่อมลูกหมากโต อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย