backup og meta

แค่นอนก็ผอมได้ และ 5 เหตุผลของการนอนหลับช่วยลดน้ำหนักได้

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 01/07/2020

    แค่นอนก็ผอมได้ และ 5 เหตุผลของการนอนหลับช่วยลดน้ำหนักได้

    ไม่ว่าใครต่างก็อยากผอม หุ่นดี มีน้ำหนักตัวที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกันทั้งนั้น แต่การจะออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร ก็เป็นเรื่องที่ทำยากเสียเหลือเกิน แต่ไม่ต้องเสียใจไปค่ะ วันนี้ Hello คุณหมอ มีข่าวดีจะมาบอกว่า จริงๆ แล้ว การนอนหลับช่วยลดน้ำหนัก ได้ ใครที่ชื่นชอบการนอน แต่ยังอยากผอม อย่ารอช้า มาอ่านบทความนี้กันเลย

    การนอนหลับช่วยลดน้ำหนัก ได้อย่างไร

    1. เพราะการนอนไม่พอ คือปัจจัยหลักที่ทำให้เป็นโรคอ้วน

    มีงานวิจัยที่พบว่า การนอนหลับไม่เพียงพออาจส่งผลให้ค่าดัชนีมวลกายและน้ำหนักตัวสูงมากกว่า เทียบกับผู้ที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    งานวิจัยนั้นได้ทำการสำรวจดูความเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว ในผู้ที่นอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อคืน พบว่าการนอนหลับไม่เพียงพอนั้น อาจเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคอ้วนได้มากถึง 89% ในเด็ก และ 55% ในผู้ใหญ่

    อีกหนึ่งงานวิจัยนั้นได้ทำสำรวจติดตามผลในพยาบาลที่ไม่ได้เป็นโรคอ้วนกว่า 60,000 ราย เป็นเวลา 16 ปี พบว่า พยาบาลที่ได้นอนน้อยกว่าคืนละ 5 ชั่วโมง จะมีโอกาสมากกว่า 15% ที่จะเป็นโรคอ้วน เทียบกับผู้ที่นอนหลับมากกว่า 7 ชั่วโมงต่อคืน ยิ่งโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น เป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep apnea) ก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไปอีกหากนอนไม่พอ

    ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า การนอนหลับไม่เพียงพอ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจจะทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และกลายเป็นศัตรูตัวสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนัก

     2. เพราะเมื่อเรานอน เราจะหยุดกิน

    หลักการคิดง่ายๆ ก็คือ เราไม่สามารถกินอาหารขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ได้ ฉะนั้น ยิ่งเรานอนเยอะ ก็จะยิ่งลดโอกาสในการกินมากเกินความจำเป็น โดยเฉพาะมื้อดึกตัวร้าย ที่เป็นอันตรายต่อน้ำหนักตัวทั้งหลาย

    นอกจากนี้ การนอนไม่พอนั้น ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง ทำให้เรามีโอกาสที่จะตัดสินใจเลือกหนทางที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การทานมื้อดึก หรือการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ อย่าง ของหวาน ช็อกโกแลต และอาหารต่าง ๆ ที่มีน้ำตาลหรือไขมันมากขึ้น เพราะสมองส่วนหน้าที่ควบคุมการตัดสินใจนั้นทำงานได้ช้าลงเนื่องจากการที่เรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองจึงพยายามหาตัวกระตุ้นสมอง ซึ่งก็คือน้ำตาลนั่นเอง

    3. เพราะการนอนไม่พอ จะทำให้เราหิวบ่อยขึ้น

    มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า ผู้ที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มักจะมีความอยากอาหารมากขึ้น และหิวได้บ่อยขึ้น เนื่องจากเมื่อเราขาดการนอนหลับ ร่างกายของเราก็จะผลิตฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณความหิวไปยังสมองเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ฮอร์โมนที่ช่วยกดความรู้สึกหิวและทำให้เรารู้สึกอิ่มจะผลิตออกมาน้อยลง จึงส่งผลให้เรารู้สึกหิวมากขึ้นและหิวบ่อยขึ้น

    นอกจากนี้ ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมามากขึ้นหากเรานอนหลับไม่เพียงพอ ฮอร์โมนความเครียดตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกอยากอาหาร และพยายามหาอะไรมากินมากขึ้น ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น เทียบกับผู้ที่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    4. เพราะการนอน อาจส่งผลกระทบต่อการเผาผลาญพลังงาน

    มีงานวิจัยที่พบว่า การนอนไม่พออาจส่งผลกระทบต่ออัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย งานวิจัยนั้นได้ทำการทดลองกับผู้ชาย 15 คน โดยไม่ให้พวกเขานอนหลับเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเต็ม พบว่าอัตราการเผาผลาญพลังงานลดลงไป 5% จากปกติ และอัตราการเผาผลาญพลังงานหลังจากรับประทานอาหารก็ลดลงไปอีก 20% และเมื่อร่างกายเราเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง ก็จะทำให้เราสะสมแคลอรี่ไว้มากขึ้น ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น

    5. เพราะการนอน ทำให้เรามีแรงออกกำลังกายมากขึ้น

    การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉง มีเรี่ยวแรงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ

    การนอนหลับไม่เพียงพอนั้นนอกจากจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า ไม่กระฉับกระเฉง รู้สึกไม่อยากทำอะไรแล้ว ยังอาจจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยจากการออกกำลังกายมากขึ้น และเมื่อเรารู้สึกเหนื่อย เราก็จะออกกำลังกายน้อยลง หรือไม่ยอมออกกำลังกาย ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้

    ด้วยเหตุผลที่ว่ามาเหล่านี้ จึงทำให้การนอนหลับ มีส่วนสำคัญสำหรับการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนักอย่างได้ผล ไม่ควรละเลยการนอนหลับพักผ่อน ในขณะเดียวกันผู้ที่ชื่นชอบการนอนและอยากลดน้ำหนัก ก็อย่าลืมการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน เพื่อให้การลดน้ำหนักนั้น เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 01/07/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา