การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาโรคหัวใจ ยารักษาเกาต์ ยาต้านซึมเศร้า (เช่น ลิเทียม) อาจทำให้มีรสโลหะในปากได้ หากคุณใช้ยาชนิดใดอยู่แล้วพบว่า มีรสชาติโลหะในปาก แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ และห้ามหยุดยาเองเด็ดขาด
การบริโภควิตามินและอาหารเสริม
วิตามินและอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินเตรียมตั้งครรภ์ อาหารเสริมธาตุเหล็ก อาหารเสริมแคลเซียม รวมถึงวิตามินรวมที่มีสังกะสี ทองแดง หรือโครเมียม หรือแม้แต่ยาอมแก้ไอหรือแก้เจ็บคอที่มีสังกะสีเป็นส่วนประกอบ อาจทำให้เกิดรสโลหะในปากได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว หากคุณหยุดบริโภควิตามินและอาหารเสริมดังกล่าว ก็จะช่วยให้รสโลหะในปากหายไปได้
อาการอาหารไม่ย่อย
อาการแสบร้อนกลางอก กรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย หรือท้องอืดท้องเฟ้อ ก็สามารถทำให้เกิดรสชาติโลหะในปากได้เช่นกัน แต่คุณก็สามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ด้วยการกินอาหารแต่พอดี กินอาหารเย็นให้เร็วขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารมื้อดึก ใช้ยาลดกรด เป็นต้น วิธีเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดการเกิดรสโลหะในปากได้ด้วย
แต่หากลองวิธีดังกล่าวแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น หรือคุณรู้สึกเจ็บปวดรุนแรง ควรรีบพบคุณหมอทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่า
การรักษามะเร็ง
ภาวะมีรสโลหะในปาก เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยในผู้ที่กำลังรักษามะเร็งด้วยวิธีเคมีบำบัด และรังสีบำบัด หรือการฉายรังสี แต่หากคุณพบว่า อาการรุนแรงผิดปกติ ควรแจ้งให้คุณหมอทราบทันที
การตั้งครรภ์
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์บางท่านอาจประสบปัญหาการรับรสเปลี่ยนแปลงไป เช่น ทำให้เกิดรสชาติโลหะในปาก ปัญหานี้สามารถพบได้ทั่วไปในคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่หากคุณรู้สึกว่า คุณมีรสโลหะในปากรุนแรง จนส่งผลให้ไม่อยากอาหาร หรือมีอาการอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย