backup og meta

เผยวิจัยชี้ ดมตด บ่อยๆ ทำให้สุขภาพดีได้จนน่าเหลือเชื่อ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 14/05/2020

    เผยวิจัยชี้ ดมตด บ่อยๆ ทำให้สุขภาพดีได้จนน่าเหลือเชื่อ

    การที่ได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ อย่างกลิ่นที่มาจากการผายลมหรือการตด จำเป็นต้องรีบหลีกหนี จนถึงขนาดที่ต้องหายาดมมาสูดดม หรือฉีดน้ำหอมเพื่อกลบกลิ่น ถึงแม้หลายคนจะมองเห็นเพียงแค่ข้อเสีย แต่ทุกคนรู้หรือไม่ ได้มีการเผยวิจัยชิ้นหนึ่งค้นพบว่าการ ดมตด บ่อยๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก ซึ่ง Hello คุณหมอ ได้นำข้อดีที่มีผลต่อสุขภาพมาให้ทุกคนได้ทราบกันในบทความนี้

    ผลวิจัยชี้การ ดมตด มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรได้บ้าง

    การผายลมนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่เกิดจากการสะสมของแก๊สในร่างกายของเรา ซึ่งแก๊สเหล่านี้สามารถพบได้ตามช่องทางเดินของอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ รวมถึงทางลำไส้ตรง จนเกิดแรงกดดันทำให้รู้สึกหน่วงๆ ภายในช่องท้อง เมื่อถึงเวลาแรงดันนี้จะปล่อยออกมาในรูปแบบ การผายลม หรือตดนั่นเอง

    จากการศึกษาการวิจัยในปี 2014 โดยการร่วมมือกันของทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยเอ็กซ์เตอร์ (University of Exeter) และมหาวิทยาลัยเท็กซัส (University of Texas) พบว่าในก๊าซที่ทำให้เกิดการผายลมมีแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen sulfide) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อเรียกติดปากกันว่า’แก๊สไข่เน่า’ ที่ค่อนข้างส่งกลิ่นเหม็น แต่กลับมีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อเราสูดดม ด้วยการให้ประโยชน์ ดังต่อไปนี้

    1. ลดความดันโลหิต เพราะการสูดดมก๊าซที่ออกมานั้น อาจทำให้ผนังหลอดเลือดของคุณแข็งแรงขึ้น
    2. รักษาโรคหลอดเลือดในสมอง และอาการหัวใจวาย ซึ่งก๊าซนี้ทำให้โลหิตสูบฉีดมากขึ้น ลดโอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง และอาการหัวใจวายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    3. ปรับปรุงการทำงานของไต ในการศึกษาปี 2016 ถูกค้นพบว่าไฮโดรเจนซัลไฟด์ อาจรักษาอาการไตอักเสบได้
    4. ป้องกันภาวะสมองเสื่อม มีการค้นพบวิจัยบางอย่างในปี 2016 เช่นเดียวกันที่เผยข้อมูลว่าก๊าซไข่เน่าอาจป้องกันทุกๆ คน จากภาวะสมองเสื่อมได้

    หากการผายลมส่งกลิ่นเหม็นกว่าปกติ รวมทั้งอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรขอรับคำปรึกษา คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และภาวะลำไส้อุดตัน

    ทำอย่างไร จึงทำให้เราไม่ผายลมออกมามากจนเกินไป

    เคล็ดลับที่จะทำให้คุณไม่ปล่อยก๊าซออกมาเยอะรบกวนคนรอบข้างจนเกินไป สามารถทำได้ ดังนี้

  • รับประทานอาหารอย่างช้าๆ
  • การกินที่เร็วจนเกินไป จะทำให้ขณะเคี้ยวได้รับอากาศอากาศเข้ามาภายในด้วย ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นก๊าซวนเวียนอยู่บริเวณลำไส้ ดังนั้นคุณจึงค่อยๆ รับประทานอาหารอย่างช้าๆ เพื่อลดปริมาณอากาศที่คุณกลืนลงไป

  • ดื่มน้ำมาก ๆ
  • อาการท้องผูกอาจทำให้เกิดการอุดตันในกระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถทำให้คุณปวดท้องรุนแรงได้ ดังนั้นการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาคลายความอุดตัน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้ได้มากกว่าปกติ

    • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มอัดลม 

    ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทโซดา น้ำอัดลม และส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ล้วนมีคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นก๊าซเพิ่มภายในลำไส้ของคุณ จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเหล่านี้ หรือทานในปริมาณที่น้อยลง

    • รับประทานยา

    อาจใช้ยาที่จำหน่ายโดยเภสัชกร หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นตัวช่วยเสริม เช่น ไซเมทิโคน (Simethicone) เอนไซม์อินเวอร์เทส (Invertase) สามารถช่วยลดก๊าซ ขับลม ในช่องทางเดินอาหารของคุณ เพื่อให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น

    • ออกกำลังกายด้วยการโยคะ

    เพราะโยคะบางท่าทางมีประโยชน์ต่อการช่วยขับลมออกจากช่องท้องของคุณ สามารถศึกษารับแผนการฝึกโยคะเบื้องต้น จากผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อท่าทางที่ถูกคุณลักษณะ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 14/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา