backup og meta

รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องลอง หยุดแอลกอฮอล์ 30 วัน จะเป็นยังไงหนอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 02/02/2021

    รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องลอง หยุดแอลกอฮอล์ 30 วัน จะเป็นยังไงหนอ

    หลายคงคงเคยรู้สึกว่า การ หยุดแอลกอฮอล์ นั้นเป็นเรื่องที่ยากเสียเหลือเกิน เนื่องจากจำเป็นจะต้องดื่มเพื่อเข้าสังคม หรือเพื่อหน้าที่การงานต่างๆ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าคุณลองอ่านบทความของ Hello คุณหมอ บทความนี้ ความคิดในการหยุดดื่มแอลกอฮอล์ของคุณอาจจะเกิดขึ้นก็เป็นได้

    เมื่อ หยุดแอลกอฮอล์ 30 วัน จะเกิดผลดีต่อตัวคุณและร่างกายอย่างไรบ้าง

    หลายคนคงทราบดีแล้วว่าการดื่มแอลกอฮอล์นั้น ส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำให้สูญเสียเงินในกระเป๋าอีกด้วย รู้หรือไม่ว่า หากคุณหยุดแอลกอฮอล์ได้จะช่วยทำให้น้ำหนักของคุณลดลง คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น และมีอารมณ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก ดังนี้

    อาจทำให้น้ำหนักลด

    จากการศึกษาในปี 2017 และตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ (the American Journal of Preventive Medicine) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เดือนละครั้ง ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้ม 41% ที่จะมีน้ำหนักลดลงในช่วงระยะเวลา 5 ปี เนื่องจากความจริงแล้วแอกอฮอล์เต็มไปด้วยแคลอรี่ถึง 7 แคลอรี่ต่อกรัม ดังนั้นไวน์ 1 จึงอาจจะมีแคลอรี่ประมาณ 130 แคลอรี่ และเบียร์เกือบ 330 แคลอรี่เลยทีเดียว

    หลับสนิทยิ่งขึ้น

    จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสารพิษสุราเรื้อรัง (the journal Alcoholism) การวิจัยทางคลินิกและการทดลองพบว่า การดื่มก่อนนอนนั้น จะเพิ่มรูปแบบของคลื่นอัลฟาในสมอง ซึ่งจะส่งผลทำให้สมองตื่นตัว แม้จะค้นพบว่า แอลกอฮอล์อาจช่วยทำให้หลับเร็วและหลับลึกในตอนแรก แต่การงดดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นในวันถัดไป

    บรรเทาการทำงานของตับ

    อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า โรคตับแข็งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในผู้ที่ดื่มมากเกินไป แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 วัน ดังนั้น เมื่อคุณหยุดดื่ม ตับก็จะสามารถกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้ง ความจริงแล้วตับนั้นยังทำหน้าที่ในการทำลายสารพิษอื่นๆ ที่ร่างกายผลิตขึ้น การเผาผลาญไขมัน และสลายฮอร์โมนที่เป็นส่วนเกินต่อร่างกาย ดังนั้น การหยุดดื่ม จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของตับดีขึ้น และตับจะได้ไม่ต้องทำหน้าที่ในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายหนักขึ้น

    โอกาสเจ็บป่วยน้อยลง

    การดื่มสุราเพียงครั้งเดียว สามารถส่งผลไปยังระบบภูมิคุ้มกันและทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บหลายๆ อย่าง ดังนั้นหากคุณงดดื่ม ก็จะลดอาการอักเสบที่จะเกิดขึ้นได้ และเมื่อเวลาผ่านไป ระบบภูมิคุ้มกันของคุณก็จะแข็งแกร่งขึ้นด้วย

    ผิวสุขภาพดีขึ้น

    แอลกอฮอล์สามารถทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะ ซึ่งสามารถเพิ่มการสูญเสียของเหลว และนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่เมื่อคุณหยุดดื่มแอลกอฮอล์ คุณก็จะได้รับแคลอรี่จากอาการเพิ่มขึ้น นั่นแสดงว่าคุณจะได้บริโภควิตามินมากขึ้น ซึ่งเจ้าวิตามินที่รับเข้าไปก็สามารถทำให้ผิวของคุณดูสุขภาพดีขึ้น

    วิตกกังวลน้อยลง

    แอลกอฮอล์สามารถส่งผลโดยตรงต่อสมองและประสาทต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานของสมองเกือบทุกชนิด นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ยังเป็นสาเหตุของอาการซึมเศร้าอีกด้วย ดังนั้น เมื่อคุณดื่มแอลกอฮอล์ มันจะเข้าไปลดระดับโดพามีนจนหมดลง ทำให้คุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้า วิตกกังวล และซึมเศร้า แต่การหยุดดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยทำให้สมองของคุณสามารถคืนสมดุลของฮอร์โมนที่ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น

    ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

    แอลกอฮอล์เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ดังนั้น หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ก็เท่ากับเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่างๆ เหล่านี้

  • ลำคอ
  • หลอดอาหาร
  • ตับ
  • เต้านม
  • ลำไส้ใหญ่
  • ดังนั้นการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะทำให้ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่างๆ ที่กล่าวไปแล้วลดลงนั่นเอง

    มีเงินมากขึ้น

    การดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะพวกไวน์ชั้นดี ถือเป็นไวน์ที่มีราคาแพง ทำให้คุณต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังต้องเสียเงินซื้อของคบเคี้ยว ซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายทั้งที่บ้านและตอนออกไปข้างนอกอีกด้วย ดังนั้น ถ้าคุณอยากเปิดหูเปิดตา ลองงดดื่มแอลกอฮอล์ แล้วหันไปออกกำลังกาย ดูจะเป็นวิธีที่ดีกว่า

    เพิ่มพลังสมอง

    การดื่มแอลกอฮอล์ในวัยรุ่นถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะมันทำให้เกิดการสูญเสียความจำ ทั้งยังรบกวนการพัฒนาสมอง  ยิ่งผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติเกิดความผิดปกติบางอย่างของสมองที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะมันจะส่งผลต่อการมีสมาธิด้วย ดังนั้น การงดดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้สมองของคุณได้รับการฟื้นฟู

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 02/02/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา