จะเห็นได้ว่าฮัมมูสมีสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุที่คนส่วนใหญ่มักได้รับไม่เพียงพออย่างเหล็ก โฟเลต ฟอสฟอรัส และวิตามินบีด้วย นอกจากนี้ ฮัมมูสยังให้โปรตีนสูง จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชชั้นเยี่ยมที่คนกินมังสวิรัติ และวีแกนไม่ควรพลาด
ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
ฮัมมูสอุดมไปด้วยกากใยอาหารหรือไฟเบอร์ ฮัมมูส 100 กรัม มีไฟเบอร์ 6 กรัม ซึ่งคิดเป็น 24% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้หญิง และ 16% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ชาย ดีต่อระบบย่อยอาหาร ทั้งยังช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มลง ไม่อัดกันเป็นก้อนแข็ง เราจึงขับถ่ายได้ง่ายขึ้น และแบคทีเรียในลำไส้จะเปลี่ยนไฟเบอร์ส่วนหนึ่งในฮัมมูสให้เป็นกรดไขมันสายสั้นกลุ่มบิวทีเรท (Butyrate) ซึ่งช่วยบำรุงเซลล์ลำไส้ใหญ่ จึงดีต่อระบบขับถ่ายด้วย
ช่วยบำรุงหัวใจ
ส่วนผสมในฮัมมูสทั้งถั่ว น้ำมันมะกอก งาบด ล้วนแต่ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจทั้งสิ้น เพราะอย่างน้ำมันมะกอกกับงาบด ก็อุดมไปด้วยไขมันดี โดยงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นพบว่า ผู้ที่บริโภคน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะน้ำมันมะกอก มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคทั่วไปน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้บริโภค ถึง 12% และ 11% ตามลำดับ
ช่วยต้านการอักเสบ
หากร่างกายเกิดการอักเสบบ่อย ๆ หรือที่เรียกว่าอักเสบเรื้อรัง ก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ แต่หากคุณกินฮัมมูสเป็นประจำ ก็อาจช่วยต้านการอักเสบเรื้อรังได้ เพราะส่วนผสมแทบทุกอย่างในฮัมมูส ไม่ว่าจะเป็นถั่ว น้ำมันมะกอก หรืองาบด ล้วนแต่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบทั้งสิ้น
ดีต่อการควบคุมน้ำหนัก
งานศึกษาวิจัยหลายชิ้นพบว่า คนที่กินถั่วลูกไก่หรือฮัมมูสเป็นประจำ มีความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนน้อยกว่าคนที่ไม่ได้กินถึง 53% ทั้งยังมีรอบเอวเล็กกว่าประมาณ 2.2 นิ้ว (5.5 เซนติเมตร) นอกจากนี้ งานศึกษาวิจัยอีกหลายชิ้นยังพบว่าการบริโภคพืชตระกูลถั่ว (Legumes) เช่น ถั่วลูกไก่ ในปริมาณมากกว่าปกติ อาจส่งผลให้คุณอิ่มได้นานขึ้นและทำให้น้ำหนักตัวลงลงได้ด้วย
ข้อควรระวังในการบริโภค ฮัมมูสถั่วดำ
สำหรับคนที่แพ้ถั่ว อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคฮัมมูสถั่วดำ เพราะจะทำให้อาการแพ้กำเริบได้ และผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์บริโภคฮัมมูสอย่างระมัดระวัง เนื่องจากส่วนผสมของฮัมมูสอย่างถั่วกระป๋อง หรืองาบดทาฮีนี (Tahini) แบบกระป๋องอาจปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค เช่น ลิสทีเรีย (Listeria) ท็อกโซพลามา (Toxoplasma) ซาลโมเนลลา (Salmonella) และในช่วงตั้งครรภ์ ประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันจะลดลง ทำให้เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
หรือหากคุณซื้อถั่วดำมาต้มเอง หรือซื้อเมล็ดงามาบดเอง ก็ควรเลือกอันที่สดใหม่ บรรจุภัณฑ์ไม่ฉีกขาด และต้องซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ด้วย จะได้ลดความเสี่ยงในได้รับเชื้อโรคเหล่านี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย