backup og meta

เคล็ดลับชะลอวัย อ่อนเยาว์และสุขภาพดีอย่างยั่งยืนด้วยเคล็ดลับเหล่านี้

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 05/02/2021

    เคล็ดลับชะลอวัย อ่อนเยาว์และสุขภาพดีอย่างยั่งยืนด้วยเคล็ดลับเหล่านี้

    เดี๋ยวนี้เรื่องของความอ่อนเยาว์นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่มีแต่สาว ๆ ให้ความสนใจเพียงอย่างเดียว แต่หนุ่ม ๆ หลายคนก็อาจอยากดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงด้วยเช่นกัน ดังนั้น เคล็ดลับชะลอวัย ถือเป็นสิ่งที่หลายคนคงอยากจะรู้ แล้วจะชะลอวัยอย่างไรให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน ทาง Hello คุณหมอ มีเคล็ดลับเหล่านี้มาฝากกัน

    เคล็ดลับชะลอวัย อ่อนเยาว์และสุขภาพดี

    สำหรับ เคล็ดลับชะลอวัย หรือเคล็ดลับชะลอความแก่ ที่จะทำให้หนุ่มสาวทั้งหลาย แลดูอ่อนเยาว์แถมยังสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก สามารถทำได้ดังนี้

    เลิกสูบบุหรี่

    การเลิกสูบบุหรี่ในทันทีมีแนวโน้มที่จะทำให้อายุยืนยาวและสุขภาพโดยรวมของคุณมีการเปลี่ยนแปลง การศึกษาจำนวนมากจากแหล่งที่เชื่อถือได้ระบุว่า การสูบบุหรี่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และสุขภาพโดยรวมของทั้งผู้ชายและผู้หญิง

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป แสดงให้เห็นว่า การสูบบุหรี่ทำให้อายุสั้นลง ทั้งยังทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุมากขึ้น เช่น โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน นอกจากนั้น การสูบบุหรี่ยังทำให้ผิวแก่ก่อนวัยและยังทำให้ผู้ที่สูบดูแก่ก่อนวัยอีกด้วย

    รักษาน้ำหนักให้คงที่

    หากไขมันในร่างกายของคุณมีมากเกินไปจะทำให้มีแนวโน้มในการเกิดโรคต่าง ๆ ไปจนถึงภาวะทางสุขภาพร้ายแรงหลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง โดยโรคอ้วนอาจส่งผลร้ายแรงต่อตับของคุณ จนสามารถนำไปสู่โรคไขมันพอกตับได้

    ยิ่งไปกว่านั้นไขมันหน้าท้องที่มากเกินไปยังเชื่อมโยงกับภาวะเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) ซึ่งรวมถึงอาการต่าง ๆ เช่น น้ำตาลในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง การคำนวณจำนวนแคลอรี่ที่เหมาะสมที่คุณควรบริโภคในแต่ละวัน และการจัดการกับแผนลดน้ำหนัก จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วย เคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น ระบบการทำงานของร่างกายดีขึ้น และมีอายุยืนยาว

    ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    ประโยชน์ของการออกกำลังกายมีมากมาย ช่วยให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งและเบาหวาน จัดการความเครียดให้ดีขึ้น และช่วยให้อายุยืนยาวขึ้น

    การศึกษาในปีค.ศ. 2011 จากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ มีการศึกษาเกี่ยวกับผู้ชายและผู้หญิงมากกว่า 416,000 คน ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet แสดงให้เห็นว่า อาสาสมัครที่ออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นในการออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดินเร็ว โดยเฉลี่ย 15 นาทีต่อวัน มีอายุเฉลี่ยมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายถึง 3 ปี

    นอกจากนี้ยังมีการศึกษาชิ้นอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ยืนยาวของการออกกำลังกาย เช่น ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย รักษากระดูกให้แข็งแรง และอายุยืนยาว โดยคุณสามารถออกกำลังกายได้ทั้งการเดิน ว่ายน้ำ วิ่ง หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่คุณสนใจ

    รับประทานอาหารชะลอวัย

    การรับประทานอาหารที่สมดุล โดยทานผลไม้ ผัก โปรตีน ปลาที่มีสารปรอทต่ำ เมล็ดธัญพืช และไขมันที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณปานกลาง มีความเชื่อมโยงในงานวิจัยเพื่อการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ในขณะที่การทานอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุ อาจช่วยชดเชยส่วนประกอบที่ขาดหายไปได้ นักโภชนาการส่วนใหญ่แนะนำให้รับสารอาหารจากอาหาร

    ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณที่เหมาะสม เป็นการป้องกันโรคภัย และเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการรักษาความอ่อนเยาว์ของร่างกายและเซลล์ภายในร่างกาย

    จัดการกับความเครียด

    แม้คุณจะพยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกายมาก ๆ แต่หากมองข้ามผลกระทบของความเครียดที่มีต่อสุขภาพก็อาจทำให้คุณดูแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน เนื่องจากความเครียดมีผลทางสรีรวิทยาหลายอย่างรวมถึงการเพิ่มระดับคอร์ติซอล (Cortisol) ฮอร์โมนความเครียดนั้นอาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจและหลอดเลือด ไขมันหน้าท้อง ภาวะซึมเศร้า และความต้านทานต่อโรคต่ำลง

    ในการศึกษาในผู้สูงอายุ 861 คนในปีค.ศ. 2010 ผู้ที่มีระดับคอร์ติซอลในปัสสาวะสูง มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดถึง 5 เท่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีประวัติของโรคหัวใจก็ตาม

    นอกจากนั้นการศึกษาหลายชิ้นชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงของการทำสมาธิกับอัตราเสียชีวิตที่ต่ำ ดังนั้น การลองทำสมาธิเพื่อทำให้จิตในสงบ หรือแม้แต่ยิ้มให้มากขึ้น ก็เป็นวิธีที่สามารถจัดการกับระดับความเครียดในแต่ละวันของคุณเป็นอย่างดี

    การเข้าสังคม

    สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของการมีวิถีชีวิตที่ยืนยาว คือ การเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทางสังคมที่ใหญ่ขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัว นักจิตวิทยา Howard Friedman และ Leslie Martin ได้วิจัยเกี่ยวกับชาวแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา 1,500 คน ซึ่งได้ทำการศึกษาตั้งแต่ในกลุ่มช่วงวัยเด็กจนถึงวัยชรา พบว่า การเชื่อมต่อและการรวมอยู่ในชุมชนเป็นตัวการสำคัญที่สุดในการมีอายุยืนยาวมากขึ้น

    เพื่อนและคนสนิทเพียงไม่กี่คนสามารถช่วยคุณแบกรับช่วงเวลาที่ยากลำบากและรับมือกับความยากลำบากได้ง่ายขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัจจัยที่จะช่วยในระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำให้คุณแข็งแรง ทั้งยังส่งผลให้ชีวิตของคุณยืนยาวขึ้นอีกหลายปี

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 05/02/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา