backup og meta

เทรนด์แฟชั่นอันตราย ทำร้ายสุขภาพ ความสวยที่มาพร้อมกับคราบน้ำตา

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    เทรนด์แฟชั่นอันตราย ทำร้ายสุขภาพ ความสวยที่มาพร้อมกับคราบน้ำตา

    เชื่อว่าสาวๆ หลายคน ต่างก็เคยลองแต่งตัวตามแฟชั่น ให้สวย และทันสมัยตามกระแสสังคมในช่วงนั้นๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เทรนด์แฟชั่นเหล่านั้น อาจนำมาซึ่งภัยแฝงที่คาดไม่ถึง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราอย่างไม่น่าเชื้อ วันนี้ Hello คุณหมอ จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ เทรนด์แฟชั่นอันตราย ที่ทำร้ายสุขภาพของทุกคน

    เทรนด์แฟชั่นอันตราย ทำร้ายสุขภาพ

    รองเท้าส้นสูง

    ถึงแม้ผู้หญิงหลายคนชอบใส่ส้นสูง แต่คงมีไม่กี่คนหรอกมั้งที่รับรู้ถึงพิษภัยของมัน ซึ่งปัญหาที่เกิดจากรองเท้าส้นสูงนั้นก็คือกระดูกเท้าผิดรูป รวมทั้งทำให้เกิดอาการเคล็ดขัดยอกหรือข้อเท้าแพลงด้วย ผลการศึกษาวิจัยระบุว่าการใส่รองเท้าส้นสูงทำให้การบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อน่อง (ที่ช่วยส่งเลือดกับไปที่ร่างกายส่วนบน) ทำงานผิดปกติ การศึกษาวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการสังเกตผู้หญิงที่เดินเท้าเปล่า และเดินโดยใส่รองเท้าส้นสูงที่มีระดับความสูงต่างๆ กัน แล้วพบว่าระดับการสูบฉีดเลือดจะลดลงในขณะใส่ส้นสูง ฉะนั้น ถ้าใครไม่อยากมีอาการปวดหลัง ก็หันมาใส่รองเท้าส้นเตี้ยๆ แทน

    กระเป๋าถือหนักๆ

    การถือกระเป๋าหนักๆ จะทำให้ปวดหลังและมีท่าทางผิดปกติ การแบกน้ำหนักไว้ที่ไหล่ข้างเดียวอาจสร้างแรงกดบริเวณเส้นประสาท ที่ทำให้รู้สึกตึงๆ หรือแม้แต่อาการเจ็บแปล๊บๆ ตั้งแต่คอเรื่อยไปจนถึงแขน นอกจากนี้ร่างกายอีกข้างหนึ่งก็ต้องคอยถ่วงดุลน้ำหนักเอาไว้ รวมทั้งยังต้องคอยยกไหล่ข้างหนึ่งเอาไว้ เพื่อช่วยไม่ให้สายกระเป๋าเลื่อนหลุดจากบ่า ฉะนั้นถ้าใครไม่อยากมีปัญหาปวดคอปวดไหล่ล่ะก็ ลองเปลี่ยนมาถือกระเป๋าที่มีขนาดเล็กลงซะ

    กางเกงยีนส์รัดรูป

    การใส่กางเกงยีนส์รัดรูปแม้จะทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้นมาได้ก็จริง แต่มีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแอบแฝงอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือโรคการกดทับของเส้นประสาทเลี้ยงผิวหนังบริเวณต้นขาด้านนอก ซึ่งจะมีอาการชาบริเวณขา นอกจากนี้การใส่กางเกงที่คับมากๆ อาจทำให้เกิดแรงกดบริเวณท้อง ส่งผลให้เกิดอาการมวนท้อง และอาการแสบร้อนกลางอกได้ ถ้าคุณอยากใส่กางเกงรัดรูปจริงๆ ก็ขอแนะนำให้ใส่กางเกงผ้ายืด ซึ่งจะแนบไปกับเรือนร่างโดยไม่สร้างปัญหาให้กับระบบหมุนเวียนของเลือด

    กางเกงในจีสตริง

    กางเกงในแบบนี้ช่วยให้คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายสามารถใส่กางเกงแนบเนื้อได้แบบไม่เห็นรอยกางเกงใน แต่วัสดุที่เป็นใยสังเคราะห์นั้นอาจเปิดโอกาสให้เชื้อรามีการเจริญเติบโตขึ้นมาได้ นอกจากนี้วัสดุที่มีความหยาบนั้น ยังอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากการเสียดสี และทำให้เกิดการติดเชื้อกับผิวที่บอบบางได้ ฉะนั้นหันมาใส่กางเกงใสที่ทำจากผ้าฝ้าออร์แกนิก ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่านะ

    คอร์เซ็ต

    คอร์เซ็ต แฟชั่นในยุควิคตอเรียนี้อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ อย่างเช่น ภาวะปอดแฟบ กระดูกซี่โครงหัก (ถ้าสวมไม่ถูกต้อง) และอวัยวะภายในถูกบีบ คอร์เซ็ตนั้นไม่สามารถทำให้เอวเราคอดได้อย่างถาวร เวลาที่เราถอดมันออก รูปร่างเราก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังทำให้เราเคลื่อนไหวร่างกายได้จำกัด และถ้าใส่แบบรัดมากๆ ก็จะทำให้หายใจได้ไม่สะดวก และอาจทำให้กระดูกซี่โครงเกิดความเสียหายได้ ฉะนั้นถ้าอยากเอวเล็ก การออกกำลังกายน่าจะเวิร์คกว่านะ!

    เนคไท

    ผู้ชายก็เป็นห่วงเรื่องสไตล์การแต่งตัวเหมือนกับผู้หญิงนั่นแหละ  และด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้ต้องแต่งตัวเนี้ยบอยู่ตลอดเวลา ผู้ชายบางคนจึงหลีกเลี่ยงการผูกเนคไทไม่ได้ แต่คุณผู้ชายควรรู้เอาไว้ด้วยนะว่า การผูกเนคไทนั้นอาจนำไปสู่ระบบหมุนเวียนของเลือดที่ทำงานลดลง นอกจากนี้ยังอาจสร้างแรงดันในลูกตา ซึ่งจะทำให้คุณเคลื่อนไหวคอได้ลำบาก

    คอนแทคเลนส์แบบมีสี

    ถ้าคุณซื้อคอนแทคเลนส์ชนิดนี้ตามร้านที่ขายสินค้าไม่มีคุณภาพ คอนแทคเลนส์คู่นั้นก็อาจไม่มีความปลอดภัยสำหรับคุณเลย โดยอาจสร้างความเสียหายจนถึงขั้นทำให้ตาบอดได้ ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนกระจกตา และทำให้เกิดอาการตาแดงได้ ฉะนั้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะตัดสินใจใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนี้

    การเจาะตามร่างกาย

    ผลการศึกษาวิจัยพบว่า 20% ของการเจาะร่างกายมักจะมีอาการติดเชื้อตามมา ฉะนั้น คุณจึงควรเลือกช่างและร้านที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้จริงๆ และควรจะให้การดูแลแผลเจาะอย่างถูกต้องด้วย การติดเชื้อนั้นอาจแพร่กระจายเข้ากระแสเลือด จนทำให้เกิดการติดเชื้อทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งจะมีอาการถึงขั้นวิกฤตได้ถ้าไม่ได้ทำการรักษา และถ้าแผลเจาะร่างกายนั้นมีการสมานแผลที่ผิดปกติล่ะก็ รอยแผลเป็นน่าเกลียดๆ ก็จะก่อตัวขึ้นมา และผิวก็ไม่สามารถกลับไปสู่สภาพเดิมได้ นอกจากนี้แผลเป็นที่เกิดจากการเจาะหัวนม ก็อาจทำให้คุณแม่ไม่สามารถให้นมบุตรได้

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา