backup og meta

สูตรผัดเปรี้ยวหวานหมู

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์ · แก้ไขล่าสุด 19/06/2020

    สูตรผัดเปรี้ยวหวานหมู

    ผัดเปรี้ยวหวาน เป็นเมนูที่ได้รวบรวมผักหลากหลายชนิด แถมมีสีหลากหลายในหนึ่งเมนู ทั้งพริกสามสี สับปะรด มะเขือเทศ แตงกวา ต้นหอม ซึ่งการได้รับประทานผักที่มีความหลากหลายนั้นจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มากมาย วันนี้ Hello คุณหมอ มี สูตรผัดเปรี้ยวหวานหมู เมนูหวานอมเปรี้ยว รสชาติลงตัว สามารถรับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ใครที่สนใจเมนูนี้ไปดูส่วนผสมและวิธีการทำกันเลยค่ะ

    สูตรผัดเปรี้ยวหวานหมู

    วัตถุดิบผัดเปรี้ยวหวานหมู (สำหรับ 2-3 ที่)

    ส่วนผสม ปริมาณ
    กระเทียมไทยสับ 5 กลีบ
    เนื้อหมู 200 กรัม
    สับปะรด 1 ถ้วย
    แตงกวา 1 ถ้วย
    หอมใหญ่ 1/2 หัว
    พริกหวานสามสี 10 กรัม
    มะเขือเทศ 1 ลูกใหญ่
    ต้นหอม 3 ต้น
    ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วยตวง
    น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมันพืช 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

     วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานหมู

  • หั่นสับปะรด แตงกวา หอมใหญ่ พริกสามสี มะเขือเทศ เป็นชิ้นพอคำ
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป รอให้น้ำมันร้อน ใส่กระเทียมลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม หลังจากนั้นใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนสุก เติมน้ำลงไปเล็กน้อย
  • ใส่แตงกวา หอมใหญ่ พริกหวาน ลงไปผัดจนสุก หลังจากนั้นจึงค่อยใส่มะเขือเทศและสับปะรดลงผัดให้เข้ากัน
  • ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทรายและน้ำปลา ใส่ต้นหอมลงไปผัดให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
  • สับปะรด ผลไม้สีเหลือง ประโยชน์มากมาย

    สับปะรดเป็นผลไม้เมืองร้อน ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว พร้อมประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สับปะรดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย ทั้งวิตามันซีสูง มีส่วนช่วยในการย่อย เสริมภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้สับปะรดยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมายมาย ดังนี้

    สับปะรด

    สับปะรดมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับโรค

    สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้จากความเครียดที่เกิดภาวะออกซิเดชั่นในร่างกาย ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระในร่างกายมากเกินไปจนทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างเซลล์ ทำให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บ การอักเสบ จนส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและเกิดโรคที่เป็นอันตราย

    เอนไซม์ในสับปะรดมีส่วนช่วยในการย่อย

    สับปะรดมีเอนไซม์ที่เรียกว่า โบรมีเลน (Bromelain) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีส่วนช่วยในการย่อยโปรตีนให้โมเลกุลมีขนาดเล็กลง เมื่อโมเลกุลเหล่านั้นมีขนาดเล็กลงก็จะช่วยให้ดูดซึมผ่านลำไส้เล็กได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ป่วยโรคตับอ่อนบกพร่อง (Pancreatic insufficiency) ซึ่งเป็นภาวะที่ระบบย่อยอาหารไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากระบบย่อยอาหารมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยไม่เพียงพอ

    ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทานและลดการอักเสบของร่างกาย

    สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และเอนไซม์ต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยยับยั้งการอักเสบ จากการศึกษาที่ให้เด็กที่มีสุขภาพดีรับประทานสับปะรดปริมาณ 280 กรัม ทุกวันพบว่าเด็กที่รับประทานสับประรดมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียต่ำ นอกจากนี้เด็กที่รับประทานสับประรดยังมีเซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้น

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์ · แก้ไขล่าสุด 19/06/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา