การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยปกติคือ อย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมงจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง รวมถึงอาจช่วยรักษารอยคล้ำใต้ตาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ควรนอนหลับให้สนิท ไม่นอนมากไปหรือน้อยเกินไป จึงจะเป็นผลดีต่อผิวใต้ดวงตาที่สุด
โรคภูมิแพ้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ การทดสอบภูมิแพ้ที่ทำให้ทราบว่าตนเองเป็นโรคภูมิแพ้หรือไม่ และมีสารชนิดใดเป็นสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ที่อาจส่งผลให้ใต้ตาดำคล้ำได้ด้วย ปัจจุบันมีวิธีการทางการแพทย์สำหรับทดสอบภูมิแพ้มากมาย เช่น การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยการสะกิด การทดสอบภูมิแพ้โดยการฉีดสารเข้าใต้ผิวหนัง (เฉพาะทดสอบอาการแพ้ยา) การทดสอบภูมิแพ้โดยการเจาะเลือด การกระตุ้นโดยการใช้สารก่อภูมิแพ้ จึงควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อหาวิธีทดสอบภูมิแพ้ที่เหมาะสมที่สุด
วิธีปกปิดรอยคล้ำใต้ตา
หากวิธีป้องกันและลดรอยคล้ำใต้ตาที่แนะนำข้างต้นให้ผลไม่เร็วทันใจ การแต่งหน้าก็อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยอำพรางหรือปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ชั่วคราวหรือในช่วงเวลาจำเป็น โดยวิธีที่อาจช่วยปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ คือการทาคอนซีลเลอร์ที่มีเฉดสีสว่างกว่าผิวประมาณ 1 เฉดสีที่บริเวณผิวใต้ตาและเกลี่ยให้เรียบเนียน วิธีนี้อาจช่วยให้รอยคล้ำดูจางลงได้
อย่างไรก็ตาม การปกปิดรอยคล้ำใต้ตาด้วยคอนซีลเลอร์หรือเครื่องสำอางอาจช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลงได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น การแก้ไขสาเหตุของรอยคล้ำใต้ตาหรือหาวิธีป้องกันด้วยการดูแลตนเอง จึงเป็นวิธีที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจช่วยลดเลือนและป้องกันใต้ตาดำคล้ำได้ดีและยาวนานกว่า
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย