backup og meta

ยาเลื่อนประจำเดือน และยาคุมกำเนิดเลื่อนประจำเดือน ทำงานอย่างไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 29/08/2023

    ยาเลื่อนประจำเดือน และยาคุมกำเนิดเลื่อนประจำเดือน ทำงานอย่างไร

    วางแผนจะไปทะเลกับเพื่อนสาว แต่ประจำเดือนดันมาช่วงนั้นพอดี ทำให้สาว ๆ จำเป็นต้องเลื่อนประจำเดือนด้วยการใช้ ยาเลื่อนประจำเดือน แต่สำหรับคนที่กินยาคุมกำเนิดอยู่แล้ว ก็อาจสามารถใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อการเลื่อนประจำเดือนได้เช่นกันนะ วันนี้ Hello คุณหมอ จึงมีข้อมูลมาฝากสาว ๆ ที่ต้องการเลื่อนประจำเดือน ในวันที่มีโอกาสพิเศษ เพื่อดำเนินกิจกรรมไปได้อย่างราบรื่นมีความสุขกันค่ะ

    ยาเลื่อนประจำเดือน คืออะไร

    ยาเลื่อนประจำเดือน คือ ยานอร์อิทิสเตอโรน 5 มิลลิกรัม (Norethisterone 5 mg) เป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) สังเคราะห์ชนิดหนึ่งชื่อ โปรเจสติน การทำงานของยานอร์อิทิสเตอโรนคือ จะหยุดการเจริญเติบโตตามปกติของผนังมดลูก ในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน และเปลี่ยนแปลงการส่งสัญญาณของฮอร์โมนในมดลูก เพื่อฟื้นฟูรอบประจำเดือนให้เป็นปกติ โดยมีการใช้งานในกรณีดังต่อไปนี้

    • ใช้เพื่อ เลื่อนประจำเดือน
    • ใช้เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกผิดปกติจากมดลูก
    • ใช้เพื่อบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS Pre-menstrual syndrome) เช่น เจ็บหน้าอก ปวดหัว ไมเกรน ภาวะคั่งน้ำ และอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิด
    • การเจ็บปวดหรือการมีประจำเดือนมาก
    • ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
    • มะเร็งเต้านมบางชนิด

    วิธีกิน ยาเลื่อนประจำเดือน

    กรณีที่ต้องการ เลื่อนประจำเดือน ให้กินยานอร์อิทิสเตอโรน 5 มิลลิกรัม ก่อนวันที่ต้องการเลื่อนประจำเดือนประมาณ 3 วัน และกินยาไปจนกระทั่งถึงวันที่ต้องการเลื่อนประจำเดือน เมื่อหยุดกินยานอร์อิทิสเตอโรนแล้ว คุณจะมีประจำเดือนภายในเวลา 2-3 วัน สำหรับวิธีการกินยา ถ้าคุณมีน้ำหนักน้อยกว่า 60 กิโลกรัม ให้กินยานอร์อิทิสเตอโรน 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง ส่วนถ้าคุณมีน้ำหนักมากกว่า 60 กิโลกรัม ให้กินยานอร์อิทิสเตอโรน 5 มิลลิกรัม 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง

    ผลข้างเคียงจากการกินยา

    ควรแจ้งให้คุณหมอทราบอย่างละเอียดหากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา และหากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาหมอหรือเภสัชกรทันที

    • วิงเวียนศีรษะ และอาเจียน
    • ปวดหัว
    • อารมณ์แปรปรวน
    • มีปัญหาการนอนหลับ
    • น้ำหนักขึ้นหรือน้ำหนักลดลง
    • เต้านมคัด
    • ความสนใจทางเพศเปลี่ยนแปลง

    ผู้ที่ไม่ควรใช้ ยาเลื่อนประจำเดือน

    ไม่แนะนำให้วัยเด็ก และวัยรุ่นกินยาเลื่อนประจำเดือน รวมถึงผู้ที่แพ้ยานอร์อิทิสเตอโรน หรือส่วนผสมในตัวยานอร์อิทิสเตอโรน และผู้ที่มีอาการโรคดังต่อไปนี้

  • สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือมีแนวโน้มว่าจะตั้งครรภ์
  • มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด
  • มีอาการของการมีลิ่มเลือด (blood clot) เช่น เจ็บหน้าอก หายใจสั้น หรือการไอ
  • เบาหวานที่ทำให้หลอดเลือดเสียหาย
  • ผิวเหลือง เนื่องจากโรคดีซ่านจากการตั้งครรภ์โดยไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic jaundice of pregnancy)
  • มีอาการคันทั่วร่างกาย เนื่องจากอาการคันจากการตั้งครรภ์ (pruritus of pregnancy)
  • การใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อเลื่อนประจำเดือน

    นอกเหนือจากการใช้ยานอร์อิทิสเตอโรน เพื่อเลื่อนประจำเดือนแล้ว หากคุณกินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 21 เม็ดและ 28 เม็ด คุณอาจสามารถใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อ เลื่อนประจำเดือน ได้ โดยมีวิธีการดังนี้

    • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 21 เม็ด

    ปกติแล้วคุณต้องกินจนหมดแผง และหยุดกิน 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่ ซึ่งหลังจากหยุดกินยาคุมกำเนิดประมาณ 1-3 วันจะมีประจำเดือน แต่หากต้องการเลื่อนประจำเดือน ให้เริ่มกินยาคุมกำเนิดแผงใหม่โดยไม่ต้องหยุดกินเป็นระยะเวลา 7 วัน

    • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 24 เม็ด

    ชนิดแผง 24 เม็ดจะมีตัวยา 24 เม็ดและเม็ดแป้ง 4 เม็ด โดยเม็ดแป้งจะมีสีและขนาดต่างจากยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างชัดเจน หากต้องการกินยาคุมกำเนิดเพื่อเลื่อนประจำเดือน ให้เริ่มกินยาคุมกำเนิดแผงใหม่ โดยไม่ต้องกินเม็ดแป้ง 4 เม็ด

    • ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 28 เม็ด

    ยาคุมแบบแผง 28 เม็ดจะมีตัวยา 21 เม็ดและเม็ดแป้ง 7 เม็ด โดยเม็ดแป้งจะมีสีและขนาดต่างจากยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างชัดเจน หากต้องการกินยาคุมกำเนิดเพื่อ เลื่อนประจำเดือน ให้เริ่มกินยาคุมกำเนิดแผงใหม่ โดยไม่ต้องกินเม็ดแป้ง 7 เม็ด

    ทำไมยาคุมกำเนิดถึงเลื่อนประจำเดือนได้

    ยาเม็ดคุมกำเนิดได้รับการออกแบบมาให้เลียนแบบการมีรอบเดือนตามธรรมชาติ โดยยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 28 เม็ด จะบรรจุยา 28 เม็ดแต่มีเพียง 21 เม็ดที่มีฮอร์โมนเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ และอีก 7 เม็ดที่เหลือไม่ส่งผล หรือที่เรียกกันว่า ‘เม็ดแป้ง’

    การมีเลือดออกที่เกิดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่คุณกินยาคุมกำเนิด เรียกว่า เลือดคล้ายประจำเดือน (withdrawal bleeding) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อการหยุดฮอร์โมน ถ้าคุณข้ามการกินเม็ดแป้ง 7 เม็ด และเริ่มกินยาแผงใหม่ทันที คุณจะไม่มีภาวะเลือดคล้ายประจำเดือน

    เลือดคล้ายประจำเดือนที่เกิดขึ้นในช่วงที่คุณกินเม็ดแป้ง ไม่เหมือนกับประจำเดือนปกติ และเป็นการมีเลือดออกที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย คุณจึงสามารถกินยาคุมกำเนิดเพื่อ เลื่อนประจำเดือน ได้

    ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อเลื่อนประจำเดือน

    เกิดภาวะเลือดออกมาก (Breakthrough bleeding) หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยในช่วงที่มีประจำเดือน ถือเป็นอาการที่พบบ่อยเมื่อคุณกินยาคุมกำเนิดเพื่อ เลื่อนประจำเดือน โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรก ภาวะเลือดออกมากตามปกติจะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อร่างกายของคุณปรับตัวได้ นอกจากนี้การเลื่อนประจำเดือนอาจทำให้ยากในการบอกว่าคุณตั้งครรภ์หรือไม่ หากมีอาการแพ้ท้อง เต้านมคัด หรือรู้สึกเหนื่อยผิดปกติ ควรเข้าขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทันที

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย Sopista Kongchon · แก้ไขล่าสุด 29/08/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา