ทั้งการฉายรังสีและเคมีบำบัดจะทำลายเซลล์ปกติบางส่วน พร้อมกับเซลล์มะเร็ง ผลข้างเคียงอาจรวมถึงอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย รวมถึงความเป็นพิษต่อเซลล์เม็ดเลือด แต่อาการมักจะหายไปใน 2-3 สัปดาห์หลังจากการรักษาด้วยรังสีเสร็จสิ้น
การรักษามะเร็งตับอ่อนชั้นสูงเฉพาะที่ (ไม่สามารถผ่าตัดได้)
ในมะเร็งตับอ่อนขั้นสูงเฉพาะที่ การผ่าตัดไม่สามารถเอาเนื้องอกทั้งหมดออกได้ เนื่องจาก การผ่าตัดเพื่อเอามะเร็งตับอ่อนออกเพียงบางส่วนไม่ได้ช่วยอะไร การรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดจึงดีที่สุด การรักษาประกอบด้วยเคมีบำบัด โดยอาจจะมีหรือไม่มีรังสีบำบัด ทั้งฟลูออโรยูราซิลหรือเจมไซตาบีน สามารถยืดอายุในผู้ที่เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะลุกลามได้
การรักษามะเร็งตับอ่อนระยะแพร่กระจาย
ในมะเร็งตับอ่อนระยะแพร่กระจาย การผ่าตัดจะใช้เพื่อควบคุมอาการเท่านั้น เช่น ปวด ดีซ่าน หรือกระเพาะอาหารอุดตัน อาจใช้การฉายรังสีเพื่อบรรเทาอาการได้เช่นกัน ยาเคมีบำบัดยังสามารถช่วยปรับปรุงอาการของมะเร็งตับอ่อนได้
เจมไซตาบีน เป็นยาเคมีบำบัดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษามะเร็งตับอ่อนระยะแพร่กระจาย การผสมยาอื่น ๆ ได้แก่ เจมไซตาบีนกับเออร์โลทินิบ (Tarceva) เจมไซตาบีนที่มีเคปไซตาบีน (Capecitabine) เจมไซตาบีนกับซิสพลาติน (Cisplatin) และเจมไซตาบีนกับแนบแพคลิแท๊กเซิล (Nab-paclitaxel)
หากคุณมีสุขภาพที่ดีพอสมควรคุณอาจได้รับ FOLFIRINOX (5-FU / Leucovorin / Oxaliplatin / Irinotecan) การผสมยาอื่น ๆ ได้แก่ เจมไซตาบีนเพียงอย่างเดียวหรือยาตัวอื่น ๆ เช่น แนบแพคลิแท็กเซิล หรือเคปไซตาบีน
การรักษาแบบประคับประคองสำหรับมะเร็งตับอ่อน
เมื่อมะเร็งตับอ่อนดำเนินไประยะเวลาหนึ่ง การักษาจะเปลี่ยนจากการยืดอายุเป็นการบรรเทาอาการ โดยพาะอย่างยิ่ง ความเจ็บปวด การรักษาหลายวิธีสามารถช่วยป้องกันความรู้สึกไม่สบายจากมะเร็งตับอ่อนขั้นสูง สำหรับขั้นตอนในการรักษา มีดังนี้
- การขดท่อน้ำดีสามารถบรรเทาอาการตัวเหลืองได้ ซึ่งจะช่วยลดอาการคันและเบื่ออาหารที่เกี่ยวข้องกับการอุดตันของน้ำดี
- ยาระงับปวดกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid Analgesics) และการบล็อกเส้นประสาทที่เรียกว่า การทำลายเส้นประสาท Celiac (Celiac Plexus Blockade) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้
- ยาซึมเศร้าและการให้คำปรึกษา สามารถช่วยรักษาภาวะซึมเศร้าที่พบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนระยะลุกลาม
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองที่ช่วยรับมือกับมะเร็งตับอ่อน
หากคุณต้องการลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับอ่อนได้ สามารถทำได้ดังนี้
- หยุดการสูบบุหรี่ ถ้าคุณสูบบุหรี่และพยายามที่จะหยุด ลองพูดคุยกับคุณหมอเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณหยุด รวมทั้งกลุ่มสนับสนุนและการบำบัดนิโคติน ถ้าคุณไม่สูบบุหรี่อย่าคิดที่จะเริ่มสูบ
- รักษาน้ำหนักให้แข็งแรง หากคุณมีน้ำหนักที่เหมาะสม พยายามรักษาน้ำหนักเอาไว้ให้คงที่ หากคุณต้องการลดน้ำหนัก ให้ตั้งเป้าไปที่การลดน้ำหนักอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ ออกกำลังกายทุกวันร่วมกับการกินอาหารที่อุดมด้วยผัก ผลไม้ และเมล็ดธัญพืชในปริมาณที่น้อยลง เพื่อช่วยลดน้ำหนัก
- เลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาการที่เต็มไปด้วยผักและผลไม้หลากสี เมล็ดธัญพืช อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้
พิจารณาการเข้าพบกับที่ปรึกษาทางพันธุกรรม หากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งตับอ่อน คุณสามารถตรวจสอบประวัติสุขภาพในครอบครัวของคุณและพิจารณาว่า คุณอาจจะได้รับประโยชน์จากการทดสอบทางพันธุกรรม เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเป็นตับอ่อนหรือมะเร็งอื่น ๆ หรือไม่
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย