นอกจากนี้ ยังมีสารซาลิไซเลต (Salicylate) ไดเบนโซอิลมีเทน (Dibenzoylmethane) และซินนาเมต (Cinnamate) ที่ต้องระวัง หากครีมกันแดดยี่ห้อไหนมีสารที่กล่าวมามากกว่าหนึ่งชนิด แนะนำว่าไม่ควรซื้อมาใช้งาน หรือหากซื้อมาแล้ว ให้ทดสอบอาการแพ้โดยทาครีมประมาณเท่าเหรียญสิบบริเวณใต้ท้องแขน หรือข้อพับ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ติดต่อกันประมาณ 3-5 วัน หรือแต้มครีมกันแดดบริเวณหลังใบหู ประมาณ 3 วัน หากไม่มีอาการคัน ผื่นแดง หรืออาการแพ้ใด ๆ เกิดขึ้น ก็อาจาทาหน้าได้ แต่นี่เป็นเพียงวิธีทดสอบอาการแพ้เบื้องต้นเท่านั้น จึงไม่สามารถการันตีได้ว่าจะใช้ครีมกันแดดนั้นได้โดยไม่แพ้จริง ๆ
ครีมกันแดดแบบไหนที่ใช้ได้ไม่แพ้
หากรู้ว่าตัวเองแพ้สารเคมีตัวไหน ก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดด รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกายที่ไม่มีสารเคมีนั้น ๆ เป็นส่วนประกอบ หรือหลีกเลี่ยงสารกันแดดแบบเคมี หรือแบบเคมิคอล (Chemical Absorbers) แล้วใช้ครีมกันแดดที่มีสารกันแดดแบบกายภาพ หรือแบบฟิสิคอล (Physical Blockers) แทน เช่น ไทเทเนียม ไดออกไซด์ (Titanium dioxide) ซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) เพราะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังน้อยกว่าสารกันแดดแบบเคมี แต่ข้อเสียก็คือ ครีมกันแดดแบบกายภาพนั้นจะมีเนื้อหนักกว่า หรือเหนียวเหนอะหนะกว่า ทาแล้วหน้าอาจดูวอกหรือขาวเกินไป ทั้งยังล้างออกได้ยากกว่า จึงควรทาแต่พอดี และล้างออกด้วยผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง อย่าใช้แค่น้ำเปล่าเพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขนจนทำให้เกิดสิว
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย