backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ซัลฟานิลาไมด์ (Sulfanilamide)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ข้อบ่งใช้

ยา ซัลฟานิลาไมด์ ใช้สำหรับ

ยา ซัลฟานิลาไมด์ (Sulfanilamide) ใช้สำหรับรักษาการติดเชื้อราในช่องคลอด ยา ซัลฟานิลาไมด์ ช่วยลดอาการแสบ และคันที่ช่องคลอด รวมถึงตกขาวที่อาจเกิดพร้อมอาการเหล่านี้ ยานี้รู้จักกันว่าเป็นยาต้านเชื้อราในกลุ่มซัลโฟนาไมด์ (sulfonamide antifungal) ยานี้ออกฤทธิ์โดยหยุดการเติบโตของเชื้อรา (fungus) ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ

วิธีใช้ยาซัลฟานิลาไมด์

ยานี้ใช้ในช่องคลอดเท่านั้น ล้างมือก่อนและหลังใช้ยา ปกติแล้วจะใช้ยาซัลฟานิลาไมด์ 1 หรือ 2 ครั้งต่อวัน หรือตามที่แพทย์สั่ง

วิธีใช้ยา

  1. นอนราบลง งอเข่าเข้าหาหน้าอก
  2. สอดหลอดฉีดที่บรรจุยาไว้เข้าไปในช่องคลอดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้
  3. ค่อยๆกดลูกสูบของหลอดฉีดจนสุด เพื่อส่งยาเข้าไปข้างใน

หากคุณมีอาการคับหรือแสบนอกช่องคลอด (ปากช่องคลอด) ทาครีมที่บริเวณนั้นด้วย หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ใช้ยานี้อย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง แม้คุณจะหายดีหลังจากทายาไม่กี่วัน หรือเริ่มมีประจำเดือน การหยุดยาก่อนกำหนด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้กลับไปติดเชื้อหนักขึ้นกว่าเดิม

อย่าใช้ผ้าอนามัยแบบสอดระหว่างใช้ยานี้ หากอยู่ในช่วงไม่มีประจำเดือน อาจใช้แผ่นอนามัยได้ หรือเพื่อป้องกันการไหลของยาออกมาเปื้อนเสื้อผ้า

แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่หายไปหรือกลับมาเป็นอีกภายใน 2 เดือน หลังใช้ยาครบตามที่แพทย์สั่ง แจ้งแพทย์ทันทีหากคุณเป็นไข้ หนาวสั่น มีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ รวมถึงปวดท้องหรือกระเพาะอาหาร นี่หมายความว่า คุณอาจติดเชื้ออย่างรุนแรงและต้องการการรักษาด้วยวิธีอื่น

การเก็บรักษายาซัลฟานิลาไมด์

ยาซัลฟานิลาไมด์ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาซัลฟานิลาไมด์บางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรทิ้งยาซัลฟานิลาไมด์ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาซัลฟานิลาไมด์

ก่อนใช้ยาซัลฟานิลาไมด์ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาชนิดนี้ หรือยาซัลฟาชนิดอื่น เช่น ยาซัลฟาเมทอกซาโซล รวมถึงหากคุณมีอาการแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ออกฤทธิ์ แต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือปัญหาอื่นๆ โปรดปรึกษาเภสัชกร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วย โดยเฉพาะ

  • โรคเบาหวาน
  • ปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น การติดเชื้อเอชไอวี
  • การติดเชื้อราในช่องคลอด 4 ครั้ง หรือมากกว่านั้นต่อปี
  • ความผิดปกติของเลือด เช่น โรคโลหิตจาง
  • ความผิดปกติของระบบเผาผลาญบางชนิด เช่น ภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (G6PD deficiency) หรือ โรคพอร์ฟีเรีย (porphyria)

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ ทั้งยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ และสมุนไพร

ถามแพทย์ว่าคุณสามารถมีเพศสัมพันธ์ระหว่างใช้ยานี้ได้หรือไม่ ยานี้อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เช่น ถุงยางอนามัย แผ่นครอบปากมดลูก (diaphragm) หมวกยางครอบปากมดลูก (cervical cap) มีคุณภาพแย่ลงและทำให้การคุมกำเนิดล้มเหลว ซึ่งจะนำไปสู่การตั้งครรภ์ ดังนั้นอย่าใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ระหว่างรักษาด้วยยานี้ ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น เช่น ถุงยางอนามัยที่ทำจากโพลียูรีเทน (polyurethane condom) ในช่วงที่ใช้ยานี้

ในช่วงขณะการตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ก่อนใช้ยานี้

ยานี้ซึมผ่านเข้าสู่น้ำนม แต่ไม่มีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อทารกที่สุขภาพดี อย่างไรก็ตาม ทารกที่ป่วยหรือคลอดก่อนกำหนด อาจเสี่ยงที่จะมีผลข้างเคียงมากกว่า ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ยาคลีมาสทีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A = ไม่มีความเสี่ยง
  • B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C = อาจจะมีความเสี่ยง
  • D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X = ห้ามใช้
  • N = ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาซัลฟานิลาไมด์

แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่มักจะไม่ค่อยเกิดขึ้นแต่รุนแรงเหล่านี้ ได้แก่ อาการแสบ คัน หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณช่องคลอด หรือมีอาการหนักขึ้น

แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ยาก เช่น ความเหนื่อยล้าผิดปกติและรุนแรง ปัสสาวะสีเข้ม ช้ำหรือเลือดออกง่าย

การแพ้ต่อยานี้อย่างรุนแรงไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก อย่างไรก็ตาม ควรเข้ารับการรักษาทันทีหากคุณสังเกตเห็นอาการแพ้ ได้แก่ วิงเวียนศีรษะรุนแรง มีปัญหาเรื่องการหายใจ ผื่น คันผิวหรือผิวบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้น หรือลำคอ

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาซัลฟานิลาไมด์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น

คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือยาอื่น

ยาซัลฟานิลาไมด์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาซัลฟานิลาไมด์อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาซัลฟานิลาไมด์สำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคเชื้อราในช่องคลอด

ครีม : สอดหลอดฉีด 1 หลอด (ประมาณ 6 กรัม) 1 – 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 30 วัน

ข้อควรระวัง

ผู้ป่วยควรสังเกตผื่นที่ผิวหนังหรืออาการของพิษต่อร่างกาย ควรหยุดการรักษาหากมีอาการของพิษ หรืออาการแพ้เกิดขึ้นตามร่างกาย

ควรหยุดใช้ยา หากมีอาการคันหรือแสบเฉพาะบริเวณเกิดขึ้นอย่างผิดปกติ หรือมีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ไม่ควรเริ่มใช้ยานี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม

หลอดฉีดหรือสารสำหรับสอดทางช่องคลอดควรใช้ด้วยความระมัดระวังหลังจากอายุครรภ์ 7 เดือน

คำแนะนำอื่น

อาการควรจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน แต่ควรใช้ยาต่อไปจนถึง 30 วัน

เพื่อสุขอนามัยที่ดี อาจแนะนำให้สวนล้างช่องคลอดด้วยสารละลายที่เหมาะสมก่อนการสอดยาทางช่องคลอด

ขนาดยาซัลฟานิลาไมด์สำหรับเด็ก

ไม่ได้มีการกำหนดขยาดยาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ยานี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก สิ่งที่สำคัญคือ ต้องศึกษาการใช้ยาอย่างปลอดภัยก่อนใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

รูปแบบของยา

ยาซัลฟานิลาไมด์มีรูปแบบดังต่อไปนี้

  • ครีมทาช่องคลอด
  • ยาเหน็บช่องคลอด

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา