ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ลิปิเตอร์® (Lipitor®) อยู่ในกลุ่มของยายังยั้งเอ็นไซม์เอชเอ็มจี ซีโอเอ รีดัคเตส (HMG CoA reductase inhibitors) หรือสแตติน (statins) ยาอะโทรวาสแตตินจะลดระดับของคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ (triglycerides) ภายในเลือด ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
ลิปิเตอร์® ใช้เพื่อรักษาภาวะคอเลสเตอรอลสูง และใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย หรือภาวะแทรกซ้อนในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ
ลิปิเตอร์®ใช้กับผู้ใหญ่และเด็กที่อายุอย่างน้อย 10 ปี
ใช้ลิปิเตอร์®ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามวิธีการใช้ยาทั้งหมดบนฉลากยาที่กำหนด ในบางครั้งแพทย์อาจจะเปลี่ยนขนาดยาเพื่อให้แน่ใจว่า คุณได้รับผลที่ดีที่สุด อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือใช้ยานานกว่าที่แนะนำ
ลิปิเตอร์®มักจะรับประทานวันละครั้ง พร้อมกับอาหารหรือแยกต่างหาก ควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน อย่าหักเม็ดลิปิเตอร์®ก่อนใช้
ลิปิเตอร์®ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ลิปิเตอร์®บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งลิปิเตอร์®ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
คุณอาจจะจำเป็นต้องหยุดใช้ยานี้ในเวลาสั้นๆ หากคุณมีอาการ
ขณะที่กำลังใช้ลิปิเตอร์® คุณอาจจะต้องรับการตรวจเลือดเป็นประจำ
ลิปิเตอร์®เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของโปรแกรมการรักษา ที่มีทั้งการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการควบคุมน้ำหนักควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ลิปิเตอร์®สามารถทำให้เกิดสภาวะที่ส่งผลให้เกิดการสลายตัวของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อลาย (skeletal muscle tissue) ส่งผลให้ไตวาย สภาวะนี้มักจะเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคไต หรือมีภาวะขาดไทรอยด์ (hypothyroidism) ที่ควบคุมได้ไม่ดี
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้ลิปิเตอร์®จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด X โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้
โปรดติดต่อแพทย์ในทันทีหาก
ในกรณีหายาก ลิปิเตอร์®สามารถทำให้เกิดสภาวะที่ส่งผลให้เกิดการสลายตัวของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อลาย ที่ส่งผลให้ไตวาย โปรดติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการปวดกล้ามเนื้อที่สาเหตุไม่ได้ อาการกดเจ็บ หรืออาการอ่อนแรง โดยเฉพาะหากคุณเป็นไข้ เหนื่อยล้าผิดปกติ และปัสสาวะสีคล้ำผิดปกติร่วมด้วย
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ลิปิเตอร์®อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
ลิปิเตอร์®อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ลิปิเตอร์®อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะไขมันในเลือดสูง
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงจากยีนในตระกูลเฮเทอโรไซกัส (Heterozygous Familial Hypercholesterolemia)
อายุ 10 ถึง 17 ปี 10 มก. ต่อวัน (ขนาดยาสูงสุดคือ 20 มก. ต่อวัน) ควรปรับขนาดยาโดยเว้นช่วงระยะเวลามากกว่า 4 สัปดาห์ขึ้นไป
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย