backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ไมน็อกซิดิล (Minoxidil)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ไมน็อกซิดิล (Minoxidil)

ข้อบ่งใช้

ยา ไมน็อกซิดิล ใช้สำหรับ

ยาไมน็อกซิดิล (Minoxidil) ชนิดสารละลายและโฟม ใช้เพื่อช่วยในการเจิญเติบโตของเส้นผม ในการรักษาอาการศีรษะล้านของผู้ชาย ไม่ได้ใช้สำหรับอาการศีรษะล้านที่บริเวณหนังศีรษะด้านหน้า หรือแนวเส้นผมถอยหลังในผู้ชาย ยาไมน็อกซิดิลชนิดสารละลาย และโฟมร้อยละ 2 ยังใช้เพื่อช่วยในการเจิญเติบโตของเส้นผม ในผู้หญิงที่มีผมบาง

ยาไมน็อกซิดิลจัดอยู่ในประเภทของยาที่เรียกว่า ยาขยายหลอดเลือด ไม่เป็นที่ทราบเกี่ยวกับวิธีที่ยาไมน็อกซิดิลทำให้เกิดการเจิญเติบโตของเส้นผม ยานี้ไม่ได้ใช้สำหรับอาการผมร่วงเฉียบพลัน ผมร่วงเป็นหย่อมๆ อาการผมร่วงที่ไม่ทราบสาเหตุ เช่น ไม่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวมีอาการผมร่วง หรืออาการผมร่วงหลังคลอดบุตร

ห้ามใช้ยานี้หากคุณอายุ 18 ปีหรือต่ำกว่า

วิธีใช้ยา ไมน็อกซิดิล

ให้ใช้ยานี้ตามคำแนะนำในฉลากยาหรือตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ในปริมาณที่มากกว่าหรือน้อยกว่าหรือเป็นเวลานานกว่าที่แนะนำ

การใช้ยานี้มากกกว่าที่แนะนำจะไม่ได้ช่วยให้การเจริญเติบโตของเส้นผมเร็วขึ้น และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย

ยานี้มีคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยสำหรับการใช้ที่ปลอดภัยและได้ผล ให้ปฏิบัติคำแนะนำเหล่านี้อย่างระมัดระวัง ให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรหากมีคำถามใดๆ

  • ให้เช็ดผมและหนังศีรษะให้แห้ง ก่อนใช้ยาไมน็อกซิดิลเฉพาะที่
  • ให้ใช้ยาในปริมาณที่แนะนำในบริเวณหนังศีรษะที่มีอาการ มักใช้ยาไมน็อกซิดิลเฉพาะที่วันละสองครั้ง ในตอนเช้าและตอนกลางคืน
  • ให้ล้างมือหลังจากใช้ยาไมน็อกซิดิลเฉพาะที่
  • ให้ใช้ยาไมน็อกซิดิลเฉพาะที่บนหนังศีรษะเท่านั้น ห้ามใช้ในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

อาจใช้เวลาถึง 4 เดือนหรือมากกว่าก่อนที่จะสังเกตได้ถึงการเจริญเติบโตของเส้นผมขึ้นมาใหม่ เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่อาจอ่อนนุ่ม ไม่มีสี และเกือบจะมองไม่เห็น ด้วยการรักษาที่ต่อเนื่อง เส้นผมควรเริ่มมีสีและความหนา เช่นเดียวกับเส้นผมที่มีอยู่ของคุณ

ให้แจ้งแพทย์ หากคุณมองไม่เห็นการเจริญเติบโตของเส้นผม หลังจากการใช้ยา 4 เดือน

ให้เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้นและความร้อน

ให้เก็บภาชนะใส่ยาไมน็อกซิดิลเฉพาะที่ชนิดโฟม ให้ห่างจากเปลวไฟหรือความร้อนสูง เช่น ในรถหรืออากาศร้อน ภาชนะอาจระเบิดหากร้อนเกินไป ห้ามเจาะหรือเผาภาชนะที่ใช้หมดแล้ว

การเก็บรักษา

ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องให้พ้นแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาไมน็อกซิดิลไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไมน็อกซิดิลมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรเทยาไมน็อกซิดิลทิ้งลงในโถส้วมหรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสม เมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้

ก่อนใช้ยาไมน็อกซิดิลให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณแพ้ยานี้ หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ออกฤทธิ์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรืออาการอื่นๆ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพใดๆ ดังต่อไปนี้ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา ได้แก่ โรคเกี่ยวกับหนังศีรษะ เช่น ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ มีบาดแผล อาการเกี่ยวกับหัวใจ เช่น เจ็บหน้าอก หัวใจวาย ภาวะหัวใจล้มเหลว (heart failure) โรคไต โรคตับ

ในระหว่างการตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและสรรพคุณของยานี้

ยังไม่มีการศึกษาว่า ยานี้สามารถแพร่เข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเพียงพอ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยาไมน็อกซิดิลในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบประโยชน์ที่จะได้รับกับความเสี่ยงจากการใช้ยานี้ ยาไมน็อกซิดิลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดย FDA มีดังนี้

  • A=ไม่มีความเสี่ยง
  • B=ไม่มีความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C=อาจจะมีความเสี่ยง
  • D=มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X=ห้ามใช้
  • N=ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียง

อาจเกิดรอยไหม้ อาการแสบคัน หรือรอยแดง ในบริเวณที่ใช้ยา หากผลข้างเคียงเหล่านี้มีอาการเรื้อรังหรือแย่ลง ให้ติดต่อแพทย์หรือเภสัชกรทันที

หากแพทย์ได้สั่งให้คุณใช้ยานี้ โปรดตระหนักไว้ว่าแพทย์ได้ตัดสินใจแล้วว่า สรรพคุณของยานี้ต่อคุณมีมากกว่าความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ผู้ป่วยจำนวนมากที่ใช้ยานี้ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง

ยานี้มักไม่ค่อยซึมเข้าสู่ผิวหนัง และก่อให้เกิดผลข้างเคียง ให้หยุดใช้ยานี้และแจ้งแพทย์ทันที หากคุณมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง ได้แก่

  • มีขนขึ้นที่ใบหน้า ร่างกาย
  • เวียนศีรษะ
  • หัวใจเต้นเร็ว เต้นผิดปกติ
  • เป็นลม
  • เจ็บหน้าอก
  • มีอาการบวมที่มือหรือเท้า
  • น้ำหนักขึ้นผิดปกติ
  • อ่อนเพลีย
  • หายใจลำบากโดยเฉพาะเวลานอนลง

อาการแพ้ยาที่รุนแรงมักพบได้น้อย อย่างไรก็ดี ให้เข้ารับการรักษาโดยทันที หากคุณสังเกตได้ถึงอาการแพ้ยาที่รุนแรง ได้แก่ มีผื่น อาการคัน บวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้น ลำคอ เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก

อาการข้างเคียงเหล่านี้พบไม่ได้ในผู้ใช้ยาทุกคน และอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่ได้ระบุข้างต้น หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงใดๆ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาบางประเภทที่อาจมีอันตรกิริยากับกับยาไมน็อกซิดิล ได้แก่ ยาสำหรับความดันโลหิตสูง เช่น ยากัวเนธิดีน (guanethidine) ยาที่มีปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ เช่น ยาไดซัลฟิแรม (disulfiram) ยาเมโทรนิดาโซล (metronidazole)

ยาไมน็อกซิดิลอาจเกิดอันตรกิริยากับยาชนิดอื่นที่คุณใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาของยาที่อาจเกิดขึ้น คุณควรทำรายการยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด ทั้งยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร และแจ้งแก่แพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยของคุณ ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาไมน็อกซิดิลอาจทำปฏิกิริยากับอาหาร หรือแอลกอฮอล์ โดยการเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นของยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ ก่อนการใช้ยา

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น ๆ

ยาไมน็อกซิดิลอาจทำปฏิกิริยากับสภาวะทางสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจทำให้สภาวะทางสุขภาพเสื่อมลง หรือเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเสมอ เกี่ยวกับสภาวะทางสุขภาพทั้งหมดของคุณในปัจจุบัน

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนใช้ยาไมน็อกซิดิลเสมอ

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับอาการศีรษะล้าน

ชนิดสารละลาย

ใช้ยา 1 มล. เฉพาะที่ในบริเวณหนังศีรษะที่มีอาการ วันละ 2 ครั้ง ขนาดใช้ไม่ควรเกิน 2 มล. ต่อวัน

ชนิดโฟม

ใช้ยาในปริมาณครึ่งฝาปิดเฉพาะที่ในบริเวณหนังศีรษะที่มีอาการ วันละสองครั้ง

ข้อแนะนำอื่นๆ

  • ผู้ป่วยอาจไม่สามารถสังเกตได้ถึงการเจริญเติบโตของเส้นผมในช่วง 4 เดือนแรก หรือมากกว่า โดยใช้ยาชนิดสารละลายร้อยละ 2  หรือในช่วง 2 เดือนหรือมากกว่า โดยใช้ยาชนิดสารละลายหรือโฟมร้อยละ 5 
  • หากใช้ยาด้วยมือแทนการฉีดด้วยสเปรย์ ควรล้างมือให้สะอาดหลังใช้ยาหรือควรทำลายถุงมือ
  • อาการผมร่วงการเกิดขึ้นภายในเวลา 3 ถึง 4 เดือนหลังหยุดการรักษาด้วยยาไมน็อกซิดิลเฉพาะที่
  • ขนาดยาสำหรับเด็ก

    ขนาดยาไม่ได้มีการกำหนดสำหรับผู้ป่วยวัยเด็ก อาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เป็นสิ่งสำคัญเสมอที่ต้องทำความเข้าใจ เกี่ยวกับความปลอดภัยของยาอย่างถ่องแท้ก่อนใช้ยานี้ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

    รูปแบบยา

    ยาไมน็อกซิดิลมีรูปแบบการใช้และปริมาณตัวยา ดังต่อไปนี้

    • รูปแบบสารละลายใช้เฉพาะที่
    • รูปแบบโฟมใช้เฉพาะที่

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ให้โทรแจ้งบริการฉุกเฉิน หรือไปยังห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ

    กรณีลืมใช้ยา

    หากลืมใช้ยาไมน็อกซิดิล ให้ใช้ยาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ดี หากใกล้เวลาใช้รอบถัดไป ให้ข้ามรอบที่ลืมใช้ไปแล้วใช้ยาในรอบถัดไปตามปกติที่กำหนดไว้ ห้ามใช้เพิ่มเป็นสองเท่า

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย ธีรวิทย์ บุญราศรี · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา