backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

Hydroxyzine (ไฮดรอกไซซีน) ข้อบ่งใช้ และผลข้างเคียง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 29/06/2023

Hydroxyzine (ไฮดรอกไซซีน) ข้อบ่งใช้ และผลข้างเคียง

Hydroxyzine ใช้เพื่อรักษาอาการคันที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ ยานี้เป็นยาต้านฮีสตามีน (antihistamine) และทำงานโดยการปิดกั้นสารตามธรรมชาติอย่างสารฮีสตามีน (histamine) ที่ร่างกายผลิตขึ้นเมื่อเกิดอาการแพ้

ข้อบ่งใช้ Hydroxyzine

ไฮดรอกไซซีน (Hydroxyzine) ใช้สำหรับ

ยา ไฮดรอกไซซีน (Hydroxyzine) ใช้เพื่อรักษาอาการคันที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ ยานี้เป็นยาต้านฮีสตามีน (antihistamine) และทำงานโดยการปิดกั้นสารตามธรรมชาติอย่างสารฮีสตามีน (histamine) ที่ร่างกายผลิตขึ้นเมื่อเกิดอาการแพ้ ยาไฮดรอกไซซีนยังอาจใช้ในระยะสั้นเพื่อรักษาอาการวิตกกังวลหรือใช้เพื่อช่วยให้คุณรู้สึกง่วงหรือผ่อนคลายก่อนและหลังจากการผ่าตัด

วิธีการใช้ยาไฮดรอกไซซีน

  • รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหาก ตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละสามหรือสี่ครั้ง หากคุณใช้ยาในรูปแบบน้ำ ควรตวงยาอย่างระมัดระวัง โดยใช้เครื่องมือหรือช้อนสำหรับตวงยาโดยเฉพาะ อย่าใช้ช้อนธรรมดา เนื่องจากอาจได้ขนาดยาที่ไม่ถูกต้อง
  • ขนาดยาขึ้นอยู่กับอายุ สภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา สำหรับเด็กนั้นขนาดยายังขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวอีกด้วย อย่าเพิ่มขนาดยาหรือรับประทานยาบ่อยเกินกว่าที่แพทย์กำหนด
  • โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
  • การเก็บรักษายา ไฮดรอกไซซีน

    ยาไฮดรอกไซซีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไฮดรอกไซซีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

    ไม่ควรทิ้งยาไฮดรอกไซซีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

    ข้อควรระวังและคำเตือน

    ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาไฮดรอกไซซีน

    ก่อนใช้ยาไฮดรอกไซซีน

    • โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยาไฮดรอกไซซีน แพ้ต่อยาอื่น หรือหากคุณใช้ส่วนประกอบของยาไฮดรอกไซซีนรูปแบบเม็ด ยาแคปซูล ยาน้ำเชื่อม หรือยาแขวนตะกอน โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับรายชื่อของส่วนผสม
    • โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ หรือมีแผนที่จะใช้ ทั้งยาตามในสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อเอง วิตามิน อาหารเสริม วิตามินเอ และสมุนไพรต่างๆ โดยเฉพาะ ยาต้านฮีสตามีน ยาแก้หวัด ยารักษาโรคภูมิแพ้ หรือยารักษาโรคไข้ละอองฟาง (hay fever) ยารักษาโรคซึมเศร้าหรืออาการชัก ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวดแบบเสพติด (narcotics) ยาระงับประสาท (sedatives) ยานอนหลับ และยาคลายเครียด (tranquilizers) แพทย์อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนขนาดยา หรือเฝ้าระวังผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิด
    • โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณเป็นหรือเคยเป็นโรคหอบหืด โรคต้อหิน แผลเปื่อย ปัสสาวะติดขัด (เนื่องจากภาวะต่อมลูกหมากโต) โรคหัวใจ โรคตับ ภาวะความดันโลหิตสูง ชัก หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน
    • โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณตั้งครรภ์ มีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร หากคุณตั้งครรภ์ ขณะที่กำลังใช้ยาไฮดรอกไซซีนโปรดติดต่อแพทย์
    • โปรดปรึกษากับแพทย์ เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยาไฮดรอกไซซีน หากคุณอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุมักจะไม่ควรใช้ยาไฮดรอกไซซีน เนื่องจากยานี้อาจจะไม่ปลอดภัยเท่ากับยาอื่น ที่ใช้เพื่อรักษาสภาวะเดียวกัน
    • หากคุณกำลังจะรับการผ่าตัด รวมถึงการผ่าตัดทำฟัน โปรดแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยาไฮดรอกไซซีน
    • คุณควรจะทราบว่ายานี้อาจทำให้คุณเกิดอาการง่วงซึม อย่าขับรถหรือใช้เครื่องจักร จนกว่าคุณจะทราบว่ายานี้ส่งผลต่อคุณอย่างไร
    • สอบถามแพทย์เกี่ยวกับความปลอดภัยของการดื่มสุรา ขณะที่กำลังใช้ยานี้ แอลกอฮอล์นั้นอาจทำให้ผลข้างเคียงของยาไฮดรอกไซซีนนั้นรุนแรงขึ้น

    ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

    ยาไฮดรอกไซซีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

    การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

    • A= ไม่มีความเสี่ยง
    • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
    • C= อาจจะมีความเสี่ยง
    • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
    • X= ห้ามใช้
    • N= ไม่ทราบแน่ชัด

    ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงของการใช้ยาไฮดรอกไซซีน

    รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันทีหากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ

    หยุดใช้ยาไฮดรอกไซซีน และติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้

    • อาการกล้ามเนื้อขยับที่บริเวณดวงตา ลิ้น กราม หรือคอ
    • สั่นเทา (อาการสั่นที่ควบคุมไม่ได้)
    • สับสน
    • ชัก
    • ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่าอาจมีดังนี้
    • วิงเวียน ง่วงซึม
    • มองเห็นไม่ชัด ปากแห้ง

    ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

    ปฏิกิริยาของยา

    ปฏิกิริยากับยาอื่น

    ยาไฮดรอกไซซีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

    ก่อนใช้ยาไฮดรอกไซซีน โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยาอื่นที่สามารถทำให้คุณมีอาการง่วงนอนได้เป็นประจำ (เช่น ยาแก้หวัดหรือยาแก้แพ้ ยาระงับประสาท ยาแก้ปวดแบบเสพติด ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ และยารักษาอาการชัก โรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล) ยาเหล่านี้อาจจะเพิ่มอาการง่วงนอนที่เกิดจากยานี้ได้

    ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    ยาไฮดรอกไซซีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

    ยาไฮดรอกไซซีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ

    • โรคลมชัก หรือโรคชักอื่นๆ
    • โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง หรือปัญหาเกี่ยวกับการหายใจอื่นๆ
    • โรคต้อหิน
    • โรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง
    • แผลในกระเพาะอาหาร มีการอุดตันที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้
    • โรคไทรอยด์
    • ภาวะต่อมลูกหมากโต หรือปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ
    • โรคตับ
    • โรคไต

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    ขนาดยาไฮดรอกไซซีนสำหรับผู้ใหญ่

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรควิตกกังวล

    • 50 ถึง 100 มก. รับประทานหรือฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ วันละ 4 ครั้ง

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการคัน เนื่องจากโรคภูมิแพ้ อย่างโรคลมพิษเรื้อรังโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatoses) และโรคผื่นแพ้จากการสัมผัส หรืออาการคันเนื่องจากสารฮีสตามีน (histamine mediated pruritus)

    • 25 มก. รับประทานหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อวันละ 3 ถึง 4 ครั้ง

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อทำให้เกิดภาวะสงบ (Sedation) ก่อนและหลังจากการให้ยาระงับความรู้สึกทั่วไป

    • 50 ถึง 100 มก. รับประทานหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการปวด

    • 25 ถึง 100 มก. ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ก่อนหรือหลังจากการผ่าตัด หรือหลังคลอด

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน

    • 25 ถึง 100 มก. ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ก่อนหรือหลังจากการผ่าตัด หรือหลังคลอด

    ขนาดยาไฮดรอกไซซีนสำหรับเด็ก

    ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อทำให้เกิดภาวะสงบ (Sedation)

    ใช้เป็นยาระงับประสาทก่อนและหลังจากการให้ยาระงับความรู้สึกทั่วไป

    • รับประทาน 0.6 มก./กก./ครั้ง
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 0.5 ถึง 1 มก./กก./ครั้ง

    ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรควิตกกังวล

    สำหรับการบรรเทาอาการวิตกกังวลและความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องกับโรคประสาท (psychoneurosis) และเป็นการรักษาเสริมสำหรับโรคทางกายที่มีอาการวิตกกังวล และใช้สำหรับการจัดการอาการคันเนื่องจากโรคภูมิแพ้ เช่น โรคลมพิษเรื้อรัง โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และโรคผื่นแพ้จากการสัมผัส หรืออาการคันเนื่องจากสารฮีสตามีน

    อายุน้อยกว่า 6 ปี

    • 50 มก. ต่อวันโดยแบ่งรับประทาน

    อายุ 6 ปีขึ้นไป

    • 50 ถึง 100 มก. ต่อวันโดยแบ่งรับประทาน

    ขนาดยาอีกทางเลือกหนึ่ง

    • รับประทาน 2 มก./กก./วัน แบ่งรับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 0.5 ถึง 1 มก./กก./ครั้ง ทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมงเท่าที่จำเป็น

    ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการคัน

    สำหรับการบรรเทาอาการวิตกกังวลและความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องกับโรคประสาท และเป็นการรักษาเสริมสำหรับโรคทางกายที่มีอาการวิตกกังวล และใช้สำหรับการจัดการอาการคันเนื่องจากโรคภูมิแพ้ เช่นโรคลมพิษเรื้อรัง โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และโรคผื่นแพ้จากการสัมผัส หรืออาการคันเนื่องจากสารฮีสตามีน

    อายุน้อยกว่า 6 ปี

    • 50 มก. ต่อวันโดยแบ่งรับประทาน

    อายุ 6 ปีขึ้นไป

    • 50 ถึง 100 มก. ต่อวันโดยแบ่งรับประทาน

    ขนาดยาอีกทางเลือกหนึ่ง

    • รับประทาน 2 มก./กก./วัน แบ่งรับประทานทุกๆ 6 ถึง 8 ชั่วโมง
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 0.5 ถึง 1 มก./กก./ครั้ง ทักๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมงเท่าที่จำเป็น

    ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน

    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 1.1 มก./กก./ครั้ง

    รูปแบบของยา

    ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

    • ยาแคปซูลสำหรับรับประทาน เป็นพาโมต (pamoate) 25 มก. 50 มก. 100 มก.
    • ยาสารละลายสำหรับฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เป็นไฮโดรคลอไรด์ (hydrochloride) 25 มก./มล. (1 มล.) 50 มก./มล. (1 มล. 2 มล. 10 มล.)
    • ยาสารละลายสำหรับรับประทาน เป็นไฮโดรคลอไรด์ 10 มก./5 มล. (473 มล.)
    • ยาน้ำเชื่อมสำหรับรับประทาน เป็นไฮโดรคลอไรด์ 10 มก./5 มล. (118 มล. 473 มล.)
    • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน เป็นไฮโดรคลอไรด์ 10 มก. 25 มก. 50 มก.

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 29/06/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา