backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ทิโมลอล (Timolol)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย ปราโมทย์ วงศ์คำ · แก้ไขล่าสุด 31/12/2019

ข้อบ่งใช้

ยาทิโมลอลใช้สำหรับ

ยาทิโมลอล (Timolol) ใช้เป็นยาเดี่ยวหรือใช้ร่วมกับยาตัวอื่นในการรักษาภาวะความดันโลหิตสูง (hypertension) การลดระดับความดันโลหิตสูงจะช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองแตก หัวใจวายและปัญหาไต ยาตัวนี้ยังนำมาใช้หลังจากเกิดหัวใจวายเพื่อช่วยป้องกันการกำเริบซ้ำของโรคหัวใจวาย

ยาตัวนี้จัดอยู่ในตระกูลยาที่เรียกว่ายาปิดกั้นการทำงานของเบต้ารีเซ็ปเตอร์ (Beta Blocker) ตัวยาจะทำงานโดยไปอุดตันการเคลื่อนที่ของสารเอพิเนฟรีน (epinephrine) บนหัวใจและหลอดเลือด ผลของยาจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และความตึงเครียดบนหัวใจ

ยาตัวนี้ยังใช้ป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วย

วิธีใช้ยาทิโมลอล

รับประทานยาตัวนี้อย่างเดียวหรือพร้อมอาหาร วันละครั้งหรือสองครั้งต่อวัน หรือตามที่หมอสั่ง

ขนาดยาขึ้นอยู่กับอาการทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษาของคุณ ขนาดยาสูงสุดสำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงคือ 60 มิลลิกรัม ขนาดยาสูงสุดสำหรับการป้องกันอาการไมเกรนคือ 30 มิลลิกรัม

ใช้ยาตัวนี้เป็นประจำ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด การใช้ยาเวลาเดิมในทุกๆวัน จะช่วยให้คุณจำได้ง่ายขึ้น

สำหรับการรักษาความดันโลหิตสูง มันอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ก่อนที่คุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้อย่างเต็มที่ เป็นเรื่องสำคัญในการรับประทานยาตัวนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว หลายคนที่มีความดันโลหิตสูง ไม่มีอาการป่วย

เป็นสิ่งสำคัญในการรับประทานยาตัวนี้ตามที่หมอสั่งเป็นประจำเพื่อป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนหรือเจ็บหน้าอก ไม่ควรใช้ยาตัวนี้ในการรักษาอาการเจ็บหน้าอกหรือไมเกรน ใช้ยาตัวอื่นในการบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นฉับพลัน ยกตัวอย่างเช่น ยาเม็ดวางใต้ลิ้นไนโตรกลีเซอรีน (nitroglycerin) สำหรับอาการเจ็บหน้าอก ยาตระกูล “ทริปแทน’ อย่างเช่น ยาซูมาทริปแทน (sumatriptan) สำหรับอาการไมเกรน ปรึกษาหมอหรือเภสัชกรของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

แจ้งหมอของคุณ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือทรุดลง (ตัวอย่างเช่น หากค่าความดันโลหิตของคุณยังสูงอยู่หรือเพิ่มขึ้น หากอาการเจ็บหน้าอกหรือไมเกรนของคุณเกิดบ่อยมากขึ้น)

วิธีเก็บรักษายาทิโมลอล

ควรเก็บยาทิโมลอลในอุณหภูมิห้อง ห่างไกลจากแสงแดดและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของตัวยา คุณไม่ควรเก็บยาทิโมลอลในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง อาจมียาทิโมลอลหลายยี่ห้อที่ต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญเสมอในการตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ของยาสำหรับคำแนะนำในการเก็บรักษาหรือสอบถามเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง

คุณไม่ควรทิ้งยาทิโมลอลลงในชักโครก หรือทิ้งลงท่อระบายน้ำ นอกจากได้รับคำแนะนำเช่นนั้น เป็นเรื่องสำคัญในการทิ้งยาให้เหมาะสม เมื่อยาหมดอายุ หรือไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว ปรึกษากับเภสัชกรของคุณสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการทิ้งยาของคุณให้ปลอดภัย

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาทิโมลอล

ก่อนใช้ยาทิโมลอล ควรแจ้งให้หมอหรือเภสัชกรทราบหากคุณแพ้ยาตัวนี้ หรือหากคุณมีอาการแพ้อื่นๆ ยาตัวนี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ออกฤทธิ์ในการรักษา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่นๆ พูดคุยกับเภสัชกรของคุณสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

ไม่ควรใช้ยาตัวนี้ หากคุณมีอาการทางแพทย์บางประการ ก่อนใช้ยาตัวนี้ ปรึกษากับหมอหรือเภสัชกรของคุณก่อนใช้ยาตัวนี้ หากคุณมีอาการ ได้แก่ ภาวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ (อย่างเช่น หัวใจเต้นช้า คลื่นไฟฟ้าหัวใจถูกขัดขวางระดับสองหรือระดับสาม) หัวใจล้มเหลวรุนแรง ปัญหาการหายใจ (อย่างเช่น หอบหืด หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง)

ก่อนใช้ยาตัวนี้ แจ้งหมอหรือเภสัชกรเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว โรคไต โรคตับ ต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ (hyperthyroidism) ปฏิกิริยาภูมิแพ้ขั้นรุนแรง รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องรักษาด้วยยาเอพิเนฟรีน (epinephrine) มีปัญหาระบบหมุนเวียนโลหิต อย่างเช่น โรคเรย์นาร์ด (Raynaud’s disease) โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดส่วนปลาย (peripheral vascular disease) ความผิดปกติทางอารมณ์และจิตใจ (อย่างเช่น โรคซึมเศร้า) โรคทางกล้ามเนื้อบางชนิด (myasthenia gravis)

หากคุณเป็นเบาหวาน การรับประทานยาตัวนี้จะไปบดบังอาการที่มักแสดง เมื่อเกิดภาวะน้ำตาลต่ำเช่น หัวใจเต้นเร็วได้ ส่วนอาการอื่นๆ ของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น เวียนหัวและเหงื่อออก จะไม่ได้รับผลกระทบจากยาตัวนี้ ยาตัวนี้อาจทำให้คุณควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยากขึ้น จึงควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำตามที่หมอสั่ง และนำผลตรวจให้หมอของคุณดู แจ้งหมอของคุณทันที หากคุณมีอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อย่างเช่น กระหายน้ำ/ปัสสาวะมากขึ้น หมอของคุณอาจต้องปรับยาเบาหวาน โปรแกรมออกกำลังกาย หรือการกินอาหารของคุณ

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด บอกหมอหรือทันตแพทย์ว่า คุณกำลังใช้ยาตัวนี้อยู่

ยาตัวนี้อาจทำให้คุณเวียนหัวได้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกัญชา สามารถทำให้คุณเวียนหัวได้มากขึ้น อย่าขับรถ อย่าใช้เครื่องจักร หรืออย่าทำอะไรที่จำเป็นต้องมีการตื่นตัว จนกว่าคุณจะทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พูดคุยกับหมอของคุณหากคุณมีการใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค

ตับจะเสื่อมประสิทธิภาพการทำงานเมื่อคุณอายุมากขึ้น ยาตัวนี้จะถูกขับออกด้วยไต ดังนั้น ผู้สูงอายุอาจมีอาการตอบสนองต่อผลข้างเคียงของยาตัวนี้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น ได้แก่ เวียนหัวและอ่อนเพลีย

ยาตัวนี้ควรใช้เมื่อถูกวินิจฉัยว่าจำเป็นเท่านั้น หากอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เพราะยาตัวนี้อาจสร้างความอันตรายต่อเด็กในท้อง ปรึกษาถึงความเสี่ยงและประโยชน์กับหมอของคุณ

ยาตัวนี้ผ่านเข้าสู่น้ำนม และอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อเด็กในครรภ์ได้ ปรึกษาถึงความเสี่ยงและประโยชน์กับหมอของคุณ ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ไม่มีงานวิจัยเพียงพอในผู้หญิง ที่จะระบุความเสี่ยงเมื่อใช้ยาทิโมลอล ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษากับหมอของคุณทุกครั้ง เพื่อชั่งน้ำหนักถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ก่อนใช้ยาทิโมลอล

ยานี้มีดัชนีความปลอดภัยของการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ประเภท C (pregnancy risk category C) อ้างอิงจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA)

ระดับความเสี่ยงของยาที่ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ อ้างอิงจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ได้แก่

  • A=ไม่มีความเสี่ยง
  • B=ไม่พบความเสี่ยงในงานวิจัยบางชิ้น
  • C=อาจมีความเสี่ยง
  • D=มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X=ห้ามใช้
  • N=ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาทิโมลอล

อาจเกิดอาการเหนื่อยล้า อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง และอาการเวียนหัว มีรายงานเรื่องประสิทธิภาพทางเพศลดลงบ้างแต่หาได้ยาก หากผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่หายไปอยู่หรือทรุดลง แจ้งหมอหรือเภสัชกรทันที

เพื่อลดความเสี่ยงของอาการเวียนหัวหรือหน้ามืด ลุกขึ้นจากท่านั่งหรือท่านอนอย่างช้าๆ

ยาตัวนี้อาจไปลดการไหลเวียนโลหิตที่มือและเท้าของคุณ และทำให้รู้สึกหนาวทั้งสองที่ แต่งกายให้อบอุ่นและหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ที่อาจทำให้อาการทรุดลง

จำไว้ว่า หมอของคุณจ่ายยาตัวนี้ให้คุณ เพราะหมอพิจารณาแล้วว่า คุณจะได้รับประโยชน์ มากกว่าความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง หลายคนที่ใช้ยาตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ

บอกหมอของคุณทันที หากมีผลข้างเคียงที่พบได้ยากแต่รุนแรงเกิดขึ้น ได้แก่ อัตราการเต้นของหัวใจช้ามาก เวียนหัวรุนแรง เป็นลม นิ้วมือ/นิ้วเท้าช้ำ ปัญหาการหายใจ อาการใหม่หรืออาการของโรคหัวใจล้มเหลวที่ทรุดลง (อย่างเช่น หายใจถี่ อาการบวมที่ข้อเท้า/ฝ่าเท้า อาการเหนื่อยล้าผิดปกติ น้ำหนักฉับพลัน/ผิดปกติ) การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และจิตใจ (อย่างเช่น อาการสับสน อารมณ์แปรปรวน โรคซึมเศร้า)

ปฏิกิริยาแพ้แบบรุนแรงต่อยาชนิดนี้เป็นเรื่องที่พบได้ยาก อย่างไรก็ตาม ควรเข้ารับการดูแลทางการแพทย์ทันที หากมีอาการแพ้ขั้นรุนแรง ได้แก่ ผื่น อาการคันหรือบวม (โดยเฉพาะ หน้า ลิ้น คอ) เวียนหัวอย่างรุนแรง ปัญหาการหายใจ

ไม่ใช่ทุกคนจะพบผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีผลข้างเคียงบางอาการที่ไม่มีอยู่ด้านบน หากคุณมีความกังวลใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับหมอหรือเภสัชกรของคุณ

ปฏิกิริยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ก่อนใช้ยาตัวนี้ บอกหมอหรือเภสัชกรของคุณ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์/ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่คุณอาจใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาฟินโกลิมอด (fingolimod) ยาที่ส่งผลกระทบต่อเอนไซม์ตับในการขจัดยาทิโมลอลออกจากร่างกาย อย่างเช่น ยาควินิดีน (quinidine) ยาต้านซึมเศร้า กลุ่ม SSRI อย่างเช่น ยาฟลูออกซิทีน (fluoxetine)

ยาบางชนิดมีส่วนผสมที่อาจเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ หรือความดันโลหิตของคุณได้ แจ้งเภสัชกรถึงตัวยาที่คุณใช้อยู่ และสอบถามถึงวิธีการใช้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาแก้ไอและยาลดไข้ ยาลดความอ้วน ยาตระกูล NSAIDs อย่างเช่น ยาไอบูโพรเฟน หรือ ยานาพรอคเซน (naproxen)

ยาทิโมรอล อาจทำปฏิกิริยากับยาตัวอื่นที่คุณใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาของยา คุณควรจดรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้อยู่ (ทั้งยาที่ต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์ ยาที่ไม่ใช้ใบสั่งแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร) และให้หมอและเภสัชกรของคุณดู เพื่อความปลอดภัยของคุณอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนปริมาณยาใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหมอ

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาทิโมลอลอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษากับหมอหรือเภสัชกรของคุณ ถึงปฎิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ก่อนใช้ยาตัวนี้

ปฏิกิริยากับอาการโรค

ยาทิโมลอลอาจทำปฎิกิริยากับอาการโรคของคุณ โดยอาจทำให้อาการโรคของคุณทรุดลง หรือเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะบอกให้หมอและเภสัชกรรู้ ถึงอาการโรคที่คุณกำลังเป็น

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ใดๆ ควรปรึกษาหมอหรือเภสัชกรของคุณทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพื่อเติม ก่อนใช้ยาทิโมลอล

ขนาดยาทิโมลอลสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาทิโมลอลสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นความดันโลหิตสูง

ขนาดยาเริ่มต้น: รับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน

ขนาดยาควบคุม: รับประทานครั้งละ 10 ถึง 20 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน

ขนาดยาสูงสุด: รับประทานครั้งละ 30 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน

ความเห็น

-ควรมีระยะห่างอย่างน้อย 7 วัน ระหว่างช่วงเพิ่มขนาดยา

-อาจใช้ยาตัวนี้ร่วมกับยาขับปัสสาวะไทอะไซด์ หรือยาต้านความดันชนิดอื่น

การใช้: สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูงเท่านั้น หรือใช้ร่วมกับยาต้านความดันตัวอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยาขับปัสสาวะประเภทไทอะไซด์

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจ

ขนาดยาเริ่มต้น: รับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน

การใช้: สำหรับผู้ป่วยที่ผ่านภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ที่มีอาการทางการแพทย์คงที่แล้ว เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ และลดอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายซ้ำอีก

ขนาดยาสำหรับการป้องกันอาการไมเกรน

ขนาดยาเริ่มต้น: รับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน

ขนาดยาควบคุม: 10 ถึง 30 มิลลิกรัม ใน 1 ครั้งหรือแบ่งเป็น 2 ครั้ง

การใช้: สำหรับการป้องกันโรคปวดหัวไมเกรน

การปรับขนาดยาในผู้ป่วยโรคไต

การลดขนาดยาอาจเป็นสิ่งที่จำเป็น

การปรับขนาดยาในผู้ป่วยโรคตับ

การลดขนาดยาอาจเป็นสิ่งที่จำเป็น

การฟอกไต

ควรระมัดระวังในการให้ยา เนื่องจากพบการเกิดปฏิกิริยาตอบสนองของความดันโลหิตต่ำในผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางไต ในขณะที่เข้ารับการฟอกไต หลังได้รับขนาดยา 20 มิลลิกรัม

ความเห็นอื่น ๆ

ข้อควรจำในการเก็บรักษา

-ปรึกษาผู้ผลิตสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ยา

เทคนิคการเตรียมยา/ทำยา

-ปรึกษาผู้ผลิตสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ยา

ความเข้ากันได้ของยา

-ปรึกษาผู้ผลิตสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ยา

ขนาดยาทิโมลอลสำหรับเด็ก

ไม่เป็นที่แน่ชัดสำหรับขนาดยาในผู้ป่วยวัยเด็ก ยาตัวนี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับลูกของคุณ เป็นเรื่องสำคัญเสมอในการเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความปลอดภัยของยาก่อนใช้ โปรดปรึกษากับหมอหรือเภสัชกรของคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

รูปแบบยา

ยาทิโมลอลมีให้เลือกใช้ในรูปแบบและฤทธิ์ยาดังต่อไปนี้

  • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
  • ยาผง

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด แจ้งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินท้องถิ่นหรือไปยังห้องฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาทิโมลอล กลับมาใช้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม หากใกล้ถึงเวลาที่คุณจะต้องใช้ยาครั้งต่อไป ข้ามยามื้อที่ลืมและใช้ขนาดยาตามกำหนดการเดิม อย่าเพิ่มขนาดยา

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย ปราโมทย์ วงศ์คำ · แก้ไขล่าสุด 31/12/2019

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา