backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

บริโมนิดีน (Brimonidine)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

บริโมนิดีน (Brimonidine)

ข้อบ่งใช้ บริโมนิดีน

บริโมนิดีน ใช้สำหรับ

บริโมนิดีน (Brimonidine) ยานี้เป็นยาในกลุ่มอัลฟ่าอะโกนิสต์ (alpha agonist) ใช้เพื่อรักษาโรคต้อกระจกมุมเปิด (open-angle glaucoma) หรือมีความดันภายในดวงตาสูง ลดความดันภายในดวงตาที่สูงนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียการมองเห็น ความเสียหายต่อระบบประสาท หรือตาบอด ยานี้จะลดระดับของความดันโลหิตโดยการทำให้น้ำระบายออกจากภายในดวงตาได้ดีขึ้น

ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น หายใจขัดข้อง โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

วิธีการใช้ บริโมนิดีน

  • ควรล้างมือก่อนจะใช้ยาหยอดตา เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน อย่าให้สัมผัสกับปลายขวดหรือให้ปลายขวดสัมผัสกับดวงตา
  • หากคุณสวมคอนแทคเลนส์ ควรถอดออกก่อนใช้ยา และควรรออย่างน้อย 15 นาทีก่อน แล้วจึงค่อยสวมคอนแทคเลนส์กลับคืน
  • เงยหน้าขึ้นมองขึ้นไปด้านบน แล้วดึงเปลือกตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง ถือขวดยาหยอดตาไว้เหนือดวงตา แล้วหยอดยาหนึ่งหยดลงไป โดยปกติคือวันละ 3 ครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด มองลงมาแล้วค่อยๆ หลับตานาน 1-2 นาที ใช้นิ้วกดลงไปเบาๆ บริเวณหัวตา (ใกล้กับจมูก) พยายามอย่ากระพริบตาหรือขยี้ตา การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันไม่ยาไหลออกจากดวงตา ทำตามขั้นตอนนี้ซ้ำที่ดวงตาอีกข้างหนึ่ง
  • อย่าล้างขวดยาหยอดตาและปิดฝาหลังจากใช้งาน
  • หากคุณกำลังใช้ยาอื่นสำหรับดวงตา เช่น ยาหยอดตาหรือขี้ผึ้งทาตา ควรรออย่างน้อย 5-10 นาที

    ควรใช้ยาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการใดๆ ใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด และง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน อย่าหยุดใช้ยานี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์

    โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากมีอาการที่รุนแรงขึ้น

    การเก็บรักษา บริโมนิดีน

    • ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
    • เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
    • ไม่ควรทิ้งบริโมนิดีนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน

    บริโมนิดีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

    ข้อควรระวังและคำเตือน

    ข้อควรรู้ก่อนใช้ บริโมนิดีน

    • ก่อนใช้บริโมนิดีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณมีอาการแพ้ยาชนิดนี้ หรือหากคุณมีอาการแพ้ยาอื่นๆ เนื่องจากมีส่วนประกอบของบริโมนิดีน ควรปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
    • แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติโรคประจำตัวทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือด ความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต อย่างภาวะสมองขาดเลือด โรคซึมเศร้า โรคหัวใจระดับรุนแรง โรคไต โรคตับ โรคเรเนาด์ (Raynaud’s disease) ภาวะความดันโลหิตต่ำขณะยืน (orthostatic hypotension)

    ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัดในขณะใช้ยานพาหนะหรือเครื่องจักร รวมถึงการทำกิจกรรมที่มีความตื่นตัวสูง จนกว่าอาการของคุณจะดีขึ้น

    ควรระมัดระวังการใช้ยานี้กับเด็ก เนื่องจากเด็กอาจจะมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากยานี้ได้

    ในช่วงขณะการตั้งครรภ์หรือระหว่างการให้นมบุตรควรใช้บริโมนิดีนเมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้เสมอ

    ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

    บริโมนิดีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

    การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด
  • ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงของการใช้ บริโมนิดีน

    อาการที่สามารถพบได้ทั่วไปมื่อใช้ยานี้

    • มีความรู้สึกไม่สบายที่ดวงตา คันตา หรือตาแดง
    • ปากแห้ง มีรสสัมผัสที่ผิดปกติภายในปาก
    • ง่วงซึม หรือเหนื่อยล้า

    หากคุณเริ่มมีอาการรุนแรงเหล่านี้ ควรหยุดการใช้ยานี้และเข้ารับการรักษาโดยแพทย์

    • อัตราหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
    • ปวดหัวบ่อยครั้ง
    • แสบร้อน หรือบวมบริเวณดวงตา
    • การมองเห็นเปลี่ยนแปลง
    • ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ)
    • วิงเวียนขั้นรุนแรง

    หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้นโปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบในทันที

    โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และผู้ที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่มักไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ

    ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณ

    ปฏิกิริยาของยา

    ปฏิกิริยากับยาอื่น

    ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่

    • ยาในกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ (beta-blockers) เช่น เอเทโนลอล (atenolol) เมโทโพรลอล (metoprolol) หรือยาหยอดตาทิโมลอล (timolol eye drops) ยาไดจอกซิน (digoxin)
    • ยารักษาภาวะความดันโลหิตสูง เช่น โคลนิดีน (clonidine) หรือเทราโซซิน (terazosin)
    • ยาต้านซึมเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก (tricyclic antidepressants) เช่น อะมิทริปไทลีน (amitriptyline)

    โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม เช่น

  • ยาต้านฮีสตามีน (antihistamines)
  • ยาต้านวิตกกังวล เช่น ไดอาเซแพม (diazepam) ยาบาร์บิทูเรต (barbiturates) อย่างฟีโนบาร์บิทอล (phenobarbital)
  • ยานอนหลับ เช่น ซอลพิเดม (zolpidem) และยาชนิดอื่นๆ
  • ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่นไซโคลเบนซาปีน (cyclobenzaprine) และยาชนิดอื่นๆ
  • ยาแก้ปวดแบบเสพติด (narcotic pain relievers) เช่น โคเดอีน (codeine)
  • ยารักษาทางจิตเวช เช่น คลอร์โปรมาซีน (chlorpromazine)
  • ยาคลายเครียด (tranquilizers)
  • โปรดตรวจสอบฉลากยาทั้งหมดของคุณอย่างละเอียด เนื่องจากยาเหล่านี้อาจจะมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม โปรดสอบถามเภสัชกรถึงวิธีการใช้อย่างปลอดภัย

    บริโมนิดีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

    ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    บริโมนิดีนอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

    บริโมนิดีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนใช้

    ขนาดยา บริโมนิดีน สำหรับผู้ใหญ่

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะความดันตาสูง (Intraocular Hypertension)

    หยอดยา 1 หยดลงในดวงตาข้างที่มีอาการวันละ 3 ครั้ง เว้นระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

    คำแนะนำ

    • สามารถยานี้ร่วมกับยาเฉพาะที่สำหรับดวงตาอื่นๆ ได้
    • หากใช้ยาเฉพาะที่สำหรับดวงตามากกว่า 1 ชนิด ควรเว้นระยะเวลาห่างระหว่างการใช้ยาแต่ละชนิด อย่างน้อย 5 นาที

    การใช้งาน 

    เพื่อลดความดันภายในดวงตาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อหินมุมเปิดหรือภาวะความดันตาสูง

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคต้อหินมุมเปิด

    หยอดยา 1 หยดลงในดวงตาข้างที่มีอาการวันละ 3 ครั้ง เว้นระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

    คำแนะนำ

    • สามารถยานี้ร่วมกับยาเฉพาะที่สำหรับดวงตาอื่นๆ ได้
    • หากใช้ยาเฉพาะที่สำหรับดวงตามากกว่า 1 ชนิด ควรเว้นระยะเวลาห่างระหว่างการใช้ยาแต่ละชนิด อย่างน้อย 5 นาที

    การใช้งาน 

    เพื่อลดความดันภายในดวงตาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อหินมุมเปิดหรือภาวะความดันตาสูง

    ขนาดยา บริโมนิดีน สำหรับเด็ก

    ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาภาวะความดันตาสูง

    อายุ 2 ปีขึ้นไป

    หยอดยา 1 หยดลงในดวงตาข้างที่มีอาการวันละ 3 ครั้ง เว้นระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

    คำแนะนำ

    • สามารถยานี้ร่วมกับยาเฉพาะที่สำหรับดวงตาอื่นๆ ได้
    • หากใช้ยาเฉพาะที่สำหรับดวงตามากกว่า 1 ชนิด ควรเว้นระยะเวลาห่างระหว่างการใช้ยาแต่ละชนิด อย่างน้อย 5 นาที

    การใช้งาน

    เพื่อลดความดันภายในดวงตาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อหินมุมเปิดหรือภาวะความดันตาสูง

    ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคต้อหินมุมเปิด

    อายุ 2 ปีขึ้นไป

    หยอดยา 1 หยดลงในดวงตาข้างที่มีอาการวันละ 3 ครั้ง เว้นระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

    คำแนะนำ

    • สามารถยานี้ร่วมกับยาเฉพาะที่สำหรับดวงตาอื่นๆ ได้
    • หากใช้ยาเฉพาะที่สำหรับดวงตามากกว่า 1 ชนิด ควรเว้นระยะเวลาห่างระหว่างการใช้ยาแต่ละชนิดนานอย่างน้อย 5 นาที

    การใช้งาน

    เพื่อลดความดันภายในดวงตาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อหินมุมเปิดหรือภาวะความดันตาสูง

    การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต

    ไตบกพร่อง ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคตับ

    ตับบกพร่อง ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    รูปแบบของยา

    รูปแบบของยามี ดังนี้

    • ยาหยอดตา

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณลืมรับประทานบริโมนิดีนอาจควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา