มิโดดรีน (Midodrine)

ข้อบ่งใช้

ยา มิโดดรีน ใช้สำหรับ

ยา มิโดดรีน (Midodrine) ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการความดันโลหิตต่ำเมื่อลุกขึ้นยืน หรือที่เรียกว่าภาวะความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ (orthostatic hypotension) ยามิโดดรีนใช้ในผู้ที่การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาวะนี้ แม้ว่าจะเคยใช้การรักษาด้วยวิธีอื่นแล้ว เช่น การใช้ถุงน่องที่ช่วยเพิ่มแรงดันบริเวณขาและเท้า ยานี้เป็นยาซิมพาโทมิเมติค (sympathomimetic) หรืออัลฟ่ารีเซพเตอร์ อะโกนิสต์ (alpha receptor agonist)ที่ส่งผลต่อหลอดเลือดทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น

วิธีการใช้ยา มิโดดรีน

รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหาก ตามที่แพทย์กำหนด ตามปกติ คือ วันละ 3 ครั้ง (อย่างน้อย 3 ถึง 4 ชั่วโมงระหว่างมื้อยาแต่ละครั้ง) ควรทำตามแนวทางของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ควรใช้ยานี้ในเวลากลางวัน ที่มักจะยืนบ่อยที่สุด ไม่ควรใช้ยานี้หลังจากมื้อเย็น หรือน้อยกว่า 4 ชั่วโมงก่อนนอน ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ หากคุณตั้งใจที่จะนอนพักผ่อนหลังจากรับประทานยา

ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา โดยปกติแล้วแพทย์จะให้คุณเริ่มใช้ยาที่ขนาดต่ำ แล้วค่อยๆ เพิ่มขนาดยาเพื่อลดผลข้างเคียง อย่าเพิ่มขนาดยา หรือใช้ยาบ่อยกว่าที่กำหนด

ใช้ยานี้เป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน

แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น ผู้ที่มีอาการดีขึ้นระหว่างการรักษาเท่านั้น จึงจะควรใช้ยานี้อย่างต่อเนื่อง

การเก็บรักษายา มิโดดรีน

ยามิโดดรีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยามิโดดรีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยา หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยามิโดดรีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง เมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา มิโดดรีน

ก่อนใช้ยามิโดดรีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนประกอบไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะความดันโลหิตสูง เนื้องอกต่อมหมวกไตชนิดฟีโอโครโมไซโตมา (pheochromocytoma) ภาวะต่อมหมวกไตทำงานเกิน (hyperthyroidism) ปัสสาวะติดขัด (เนื่องจากการคั่งของปัสสาวะหรือต่อมลูกหมากโต) โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวานควรลุกขึ้นจากท่านั่งหรือท่านอนอย่างช้าๆ เพื่อลดอาการวิงเวียน

ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงซึม หรือมองเห็นไม่ชัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกัญชา อาจทำให้อาการวิงเวียนหรือง่วงซึมรุนแรงขึ้นได้ อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัวหรือการมองเห็นที่ชัดเจนจนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย จำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปรึกษาแพทย์หากคุณใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค

ก่อนการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่า คุณกำลังใช้ยานี้

ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ระหว่างการตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ หากคุณตั้งครรภ์ หรือคาดว่าอาจจะตั้งครรภ์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้สามารถเข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ยามิโดดรีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยา มิโดดรีน

ผู้ใช้ยานี้อาจจะรู้สึกเสียวซ่าที่ผิวหนัง หนาวสั่น ขนลุก ปวดท้อง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ (เช่น มีความต้องการจะปัสสาวะอย่างรุนแรงหรือบ่อยครั้ง ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะติดขัด)

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อยกว่าคือ อาการปากแห้ง วิงเวียน นอนไม่หลับ หรือปวดขา หากอาการเหล่านี้ไม่หายไป หรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที

โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ

ยานี้อาจทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณนอนลงหรือ ภาวะความดันโลหิตสูงเมื่อนอนหงาย (supine hypertension) หยุดใช้ยานี้และติดต่อแพทย์ในทันที หากมีอาการของภาวะความดันโลหิตสูงเมื่อนอนหงายดังต่อไปนี้ หัวใจเต้นรัว มีเสียงกระหน่ำในหู ปวดหัว มองเห็นไม่ชัด

แจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้ หัวใจเต้นช้า รู้สึกผิดปกติที่หน้าอก หมดสติ รู้สึกมีแรงดันหรือรู้สึกแน่นภายในหัว สับสน วิตกกังวล อ่อนแรง มีปัญหากับการมองเห็น

การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาบางอย่างอาจเพิ่มระดับความดันโลหิตของคุณ แจ้งให้เภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ และสอบถามวิธีการใช้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะยาแก้ไอแก้หวัด ยาลดความอ้วน หรือยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (naproxen)

ยามิโดดรีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง

(ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์)

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยามิโดดรีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยามิโดดรีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยา มิโดดรีน สำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง (Hypotension)

• 10 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้งในช่วงเวลากลางวันในช่วงที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องยืน

คำแนะนำ

• การรับประทานยาวันละ 3 ครั้ง สามารถรับประทานห่างกัน 3 ชั่วโมงหากจำเป็น แต่ไม่ควรถี่กว่านี้
• ไม่ควรรับประทานยาหลังจากมื้อเย็นหรือน้อยกว่า 4 ชั่วโมงก่อนนอน
• ผู้ที่มีอาการดีขึ้นจากการใช้ยาในช่วงแรกเท่านั้นที่ควรจะใช้ยานี้ต่อ

การใช้งาน

• เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตต่ำเมื่อลุกยืนที่มีอาการในผู้ป่วยที่ได้รับการพิจารณาว่าดำเนินชีวิตได้ผิดปกติแม้ว่าจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานดัง รวมถึงการรักษาที่ไม่ใช้ยา เช่น Support Stocking, เพิ่มสารน้ำ(fluid expansion) และเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์

การปรับขนาดยาสำหรับไต

• ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ (CrCl) น้อยกว่า 90 มล./นาที: ขนาดยาเริ่มต้นคือ 2.5 มก.
• โรคไตเฉียบพลัน: ข้อห้ามในการใช้ยา

การปรับขนาดยาสำหรับตับ

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

การฟอกไต (Dialysis)

สามารถกำจัดยานี้จากการฟอกไตได้ แต่ไม่มีรายการแนวทางการปรับขนาดยา

คำแนะนำอื่นๆ

การเฝ้าระวัง

• หลอดเลือดและหัวใจ ความดันโลหิตขณะนอนหงาย ขณะยืน และขณะนั่ง สัญญาณหรืออาการที่บ่งบอกถึงภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ (bradycardia) เช่น อัตราหัวใจเต้นช้า มีอาการวิงเวียน วูบ หรือการรับรู้ของหัวใจเพิ่มขึ้น (cardiac awareness)
• ตับ ตรวจสมรรถภาพของตับก่อนเริ่มการรักษาและหลังจากนั้นเท่าที่จำเป็น
• ไต ตรวจสมรรถภาพของไตก่อนเริ่มการรักษาและหลังจากนั้นเท่าที่จำเป็น

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย

• แนะนำผู้ป่วยควรแจ้งในทันที หากมีอาการของความดันโลหิตสูงเมื่อนอนหงาย (อาการรับรู้ของหัวใจ มีเสียงกระหน่ำในหู ปวดหัว มองเห็นไม่ชัด)
• ผู้ป่วยควรหยุดการรักษา หากอาการความดันโลหิตสูงเมื่อนอนหงายไม่หายไป
• แจ้งให้ผู้ป่วยหยุดใช้ยา หากมีสัญญาณและอาการที่บ่งบอกถึงภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ เช่น อัตราหัวใจเต้นช้า มีอาการวิงเวียน วูบ หรือการรับรู้ของหัวใจเพิ่มขึ้น
• ผู้ป่วยควรรับประทานยาครั้งสุดท้ายของวันก่อนนอน 4 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อลดอาการความดันโลหิตในเวลากลางคืน สามารถลดอาการความดันโลหิตในเวลากลางคืนเพิ่มเติม ด้วยการยกศีรษะผู้ป่วยให้สูง
• แจ้งให้ผู้ป่วยทราบว่า ยาที่หาซื้อได้เองบางอย่าง (เช่น ยาแก้หวัด ยาลดความอ้วน) ควรใช้กับยานี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจเพิ่มระดับความดันโลหิตนี้

ขนาดยามิโดดรีนสำหรับเด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

• ยาเม็ดสำหรับรับประทาน

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด