ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา สตาวูดีน (Stavudine) ใช้ร่วมกับยารักษาเอชไอวีอื่นๆ เพื่อช่วยควบคุมการติดเชื้อเอชไอวี ยานี้จะช่วยลดปริมาณของเชื้อเอชไอวีภายในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคแทรกซ้อนจากเชื้อเอชไอวี เช่น การติดเชื้อครั้งใหม่ หรือโรคมะเร็ง และช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต ยาสตาวูดีนอยู่ในกลุ่มของยา nucleoside reverse transcriptase inhibitors
รับประทานยานี้โดยไม่ต้องคำนึงถึงอาหาร โดยปกติ คือ ทุกๆ 12 ชั่วโมงหรือตามที่แพทย์กำหนด
ขนาดยาขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว สภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรรับประทานยาโดยเว้นระยะเวลาให้เท่ากัน เพื่อให้ง่ายต่อการจำ ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
ควรใช้ยานี้อย่างต่อเนื่อง ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด อย่าข้ามมื้อยาใดๆ ควรรับยาเพิ่มก่อนที่ยาจะหมด
อย่าใช้ยานี้มากกว่าหรือน้อยกว่าที่กำหนด หรือหยุดใช้ยานี้แม้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ นอกเสียจากแพทย์จะสั่งให้ทำ การข้ามมื้อยาหรือเปลี่ยนขนาดยาโดยที่แพทย์ไม่อนุมัตินั้น อาจทำให้ปริมาณของเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น ทำให้การติดเชื้อนั้นรักษาได้ยากขึ้น (ดื้อยา) หรือทำให้ผลข้างเคียงรุนแรงขึ้นได้
เก็บยาแคปซูลสตาวูดีนไว้ ที่อุณหภูมิห้องให้ห่างไกลจากความชื้นและความร้อน ปิดฝาขวดให้แน่น
เก็บยาน้ำไว้ในตู้เย็นที่ไม่แช่ช่องแช่แข็ง ทิ้งยาน้ำที่ไม่ได้ใช้หลังจากผ่านไป 30 วัน
ทิ้งยาสตาวูดีนใดๆ ที่ไม่ได้ใช้หรือหมดอายุในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิดหรือถุงซีล คุณสามารถสอบถามเภสัชกรเกี่ยวกับแผนการกำจัดหรือคืนยาในชุมชน
ยาสตาวูดีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาสตาวูดีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยาสตาวูดีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ออกฤทธิ์ในการรักษาที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะ โรคตับอ่อนอักเสบ ปัญหาเกี่ยวกับไต เช่นโรคตับอักเสบ หรือโรคตับแข็ง ปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท เช่น โรคปลายประสาทเสื่อม (peripheral neuropathy) ดื่มสุรา ปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี เช่น โรคนิ่วในถุงน้ำดี
ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับตับ และโรคตับอ่อนอักเสบได้
ก่อนการผ่าตัดแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาตามใบสั่งยา ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ)
การทำงานของไตนั้นจะลดลง เมื่อคุณมีอายุเพิ่มมากขึ้น ยานี้จะได้รับการกำจัดโดยไต ดังนั้นจึงควรใช้ยาด้วยความระมัดระวังในผู้สูงอายุเนื่องจากผู้สูงอายุอาจมีปฏิกิริยาไวตอผลของยานี้ได้มากกว่า โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ของปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณตั้งครร์ก่อนใช้ยานี้ การรักษานี้สามารถลดความเสี่ยงในการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีไปยังลูกของคุณได้ โปรดปรึกษาความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยากับแพทย์
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยานี้สามารถส่งผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ แต่เนื่องจากน้ำนมแม่นั้น สามารถถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีได้ จึงไม่แนะนำการให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาถึงประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาสตาวูดีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
อาจเกิดอาการปวดหัวหรือท้องร่วง หากอาการเหล่านี้ไม่หายไป หรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณแข็งแรงขึ้น ก็อาจจะเริ่มต่อตู้กับการติดเชื้อที่คุณมีอยู่แล้ว และอาจทำให้อาการของโรคนั้นกลับมาได้ คุณยังอาจจะมีอาการของระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไป ปฏิกิริยานี้สามารถเกิดขึ้นเวลาใดก็ได้ (ทันทีหลังจากเริ่มต้นการรักษาเอชไอวี หรือหลายเดือนหลังจากนั้น)
รับการรักษาในทันที หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ ได้แก่ น้ำหนักลดอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เหนื่อยล้าอย่างรุนแรง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่หายไป ปวดหัวรุนแรงหรือไม่หายไป ปวดข้อต่อ เหน็บชาที่มือ เท้า แขน หรือขา การมองเห็นเปลี่ยนแปลง มีสัญญาณของการติดเชื้อ (เช่น เป็นไข้ หนาวสั่น ต่อมน้ำเหลืองบวม หายใจติดขัด ไอ แผลบนผิวหนังที่ไม่ยอมหาย) มีสัญญาณของต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (เช่น หงุดหงิด ประหม่า แพ้ความร้อน หัวใจเต้นเร็ว รัว หรือผิดปกติ ตาโปน คอพอก) มีสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท อย่าง Guillain-Barre syndrome เช่น หายใจติดขัด กลืนลำบาก ขยับลูกตาลำบาก ใบหน้าเบี้ยว อัมพาต พูดลำบาก
ยานี้สามารถทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทที่รุนแรงได้ที่มือ เท้า หรือขา (โรคปลายประสาทเสื่อม) อาจมีอาการดังนี้ เช่น มีอาการเหน็บ ชา ปวด กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือการควบคุมกล้ามเนื้อลดลง หากคุณมีอาการเหล่านี้ โปรดติดต่อแพทย์ในทันที เพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แพทย์อาจจะตัดสินใจลด หรือหยุดใช้ยาสตาวูดีน
อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงของไขมันในร่างกาย (เช่น มีไขมันเพิ่มขึ้นที่บริเวณหลังส่วนบนและกระเพาะอาหาร มีไขมันลดลงที่แขนหรือขา) เกิดขึ้นขณะที่คุณกำลังใช้ยารักษาเอชไอวี ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุและผลในระยะยาว โปรดปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงและประโยชน์ของการรักษา เช่นเดียวกับบทบาทที่เป็นไปได้ของการออกกำลังกาย เพื่อลดผลข้างเคียงนี้
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้ คือ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่ ไดดาโนซีน (didanosine) ด็อกโซรูบิซิน (doxorubicin) ไฮดรอกซียูเรีย (hydroxyurea) ออริสแตต (orlistat) ซิโดวูดีน (zidovudine) ยาที่สำหรับเกิดปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท เช่น ไอโซไนอาซิด (isoniazid) หรือวินคริสทีน (vincristine)
ยาสตาวูดีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาสตาวูดีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาสตาวูดีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี
คำแนะนำ
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วน (รวมถึงองค์การอนามัยโลก [WHO]) ได้แนะนำขนาดยาสูงสุดที่ 30 มก. รับประทานวันละสองครั้งโดยไม่ขึ้นกับน้ำหนักตัว
การใช้งาน
ใช้ร่วมกับยาต้านรีโทรไวรัสอื่นๆ (antiretroviral agents) เพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี-1
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV หลังจากสัมผัสที่ไม่ใช่จากการทำงาน
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา (US CDC)
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HIV ในบุคคลากรทางการแพทย์หลังจากสัมผัสจากการทำงาน
คำแนะนำจากกลุ่มงานบริการสาธารณสุขแห่งสหรัฐอเมริกา
คำแนะนำ
การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ผู้ป่วยผู้ใหญ่
ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ (CrCl) 26 ถึง 50 มล./นาที
ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ 10 ถึง 25 มล./นาที
กระบวนการไดอะไลซิส (Dialysis)
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis):
ผู้ป่วยผู้ใหญ่
คำแนะนำ
คำแนะนำการใช้
การเก็บรักษา
เทคนิคการคืนรูปหรือการเตรียมการ
การเฝ้าระวัง
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี
แรกเกิด ถึง 13 วัน
14 วันขึ้นไป
การใช้งาน
รายการคำแนะนำการรักษาต้านรีโทรไวรัสและการจัดการทางการแพทย์สำหรับเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี
คำแนะนำ
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย