ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยาอีลีทริปแทน (Eletriptan) มักใช้เพื่อรักษาโรคไมเกรน ยานี้ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว อาการปวด และอาการของโรคไมเกรนอื่นๆ (รวมถึงคลื่นไส้ อาเจียน มีปฏิกิริยาไวต่อแสงหรือเสียง) การรักษาในทันทีจะช่วยให้คุณกลับสู่การใช้กิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ และอาจลดความจำเป็นในการใช้ยาแก้ปวดอื่นๆ ยาอีลีทริปแทนนั้นอยู่ในกลุ่มของยาทริปแทน (Triptans) อาจส่งผล ยานี้ส่งผลกระทบต่อสารในร่างกาย เช่น เซโรโทนิน (serotonin) ที่ทำให้หลอดเลือดในสมองแทบลงได้ ยานี้ยังอาจช่วยบรรเทาอาการปวดโดยการส่งผลกระทบกับเส้นประสาทบางอย่างในสมอง
ยาอีลีทริปแทนนั้น ไม่สามารถป้องกันโรคไมเกรนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหรือลดความถี่ในการเกิดอาการไมเกรนกำเริบได้
รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหาก ตามที่แพทย์กำหนด เมื่อมีสัญญาณแรกของไมเกรน ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา หากอาการไม่ดีขึ้นไม่ควรรับประทานยานี้อีกก่อนปรึกษาแพทย์ หากอาการดีขึ้นบางส่วน หรือมีอาการปวดหัวกลับมาอีก อาจรับประทานยาอีกครั้ง หลังจากรับประทานยาครั้งแรกผ่านไป 2 ชั่วโมง สำหรับยาจากอเมริกานั้น ไม่ควรรับประทานมากกว่า 80 มก. ภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับยาจากแคนาดานั้น ผู้ผลิตแนะนำว่า ขนาดยาสูงสุดคือ 40 มก. ภายใน 24 ชั่วโมง
หากคุณมีความเสี่ยงสูงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ (อ่านเพิ่มเติมในส่วนข้อควรระวัง) แพทย์อาจให้คุณทำการตรวจหัวใจก่อนเริ่มใช้ยาอีลีทริปแทน แพทย์อาจสั่งให้คุณใช้ยานี้ครั้งแรกที่ห้องทำงานของแพทย์ หรือคลินิก เพื่อเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่รุนแรง (เช่น ปวดหน้าอก) ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
หากคุณใช้ยานี้สำหรับอาการไมเกรนกำเริบ เป็นเวลา 10 วันขึ้นไปต่อเดือน ยานี้อาจทำให้อาการปวดหัวรุนแรงขึ้น (อาการปวดหัวจากการใช้ยาเกินขนาด) อย่าใช้ยานี้บ่อยหรือนานเกินกว่าที่กำหนด แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณจำเป็นต้องใช้ยานี้บ่อยกว่า ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดี หรืออาการปวดหัวรุนแรงขึ้น
ยาอีลีทริปแทนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอีลีทริปแทนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาอีลีทริปแทนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยาอีลีทริปแทน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยานี้ หรือมีโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีสารออกฤทธิ์ที่ทำให้ให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับการหมุนเวียนของเลือด (ที่บริเวณขา แขน มือ หรือกระเพาะอาหาร) อาการปวดหัวบางชนิด เช่น โรคไมเกรนชนิดอัมพาตครึ่งซีก (hemiplegic migraine) หรือโรคไมเกรนบาซิลาร์ (basilar migraine) ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ (เช่น ปวดหน้าอก หัวใจเต้นผิดปกติ เคยเกิดอาการหัวใจขาดเลือดฉับพลัน) โรคตับ อาการชัก โรคหลอดเลือดสมองหรือโรคเส้นเลือดสมองตีบชั่วคราว (transient ischemic attack)
สภาวะบางอย่างสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจได้ แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้ ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน ประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคหัวใจ น้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ อยู่ในวัยหลังหมดประจำเดือน (เพศหญิง) อายุมากกว่า 40 ปี (เพศชาย)
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนหรือง่วงซึม อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว จนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ควรจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ก่อนการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาตามใบสั่งยา ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ)
ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงนั้น จะเพิ่มขึ้นตามอายุ ผู้สูงอายุอาจจะมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ได้มากกว่า โดยเฉพาะความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้นและปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
ในช่วงตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยา
ยานี้สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
ยาอีลีทริปแทนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
อาจเกิดอาการคลื่นไส้ รู้สึกเป็นเหน็บชา อ่อนแรง เหนื่อยล้า ง่วงซึม หรือวิงเวียน หากผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน หรือมีอาการแย่ลง ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบโดยทันที
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
ยานี้อาจเพิ่มระดับของความดันโลหิต ควรตรวจระดับความดันโลหิตเป็นประจำ และแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณมีความดันโลหิตสูง
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้า และเล็บเป็นสีน้ำเงิน มือหรือขาเย็น
ยาอีลีทริปแทนมักทำให้เกิดอาการแน่น อาการปวด หรือความดันที่บริเวณหน้าอก กราม หรือคอ และมักจะไม่เป็นอันตราย แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้ คล้ายกับอาการของอาการหัวใจขาดเลือดฉับพลัน ที่มีทั้งอาการปวดที่บริเวณหน้าอก กราม หรือแขนด้านซ้าย หายใจไม่อิ่ม หรือเหงื่อออกผิดปกติ รับการรักษาทันที หากเกิดอาการเหล่านี้ หรืออาการหัวใจเต้นเร็วอย่างรุนแรงหรือผิดปกติ ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องเสียเป็นเลือด มีสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง (เช่น อ่อนแรงที่ด้านหนึ่งของร่างกาย มีปัญหากับการพูด การมองเห็นเปลี่ยนแปลงฉับพลัน สับสน)
ยานี้อาจเพิ่มระดับของเซโรโทนิน และในกรณีหายาก อาจทำให้เกิดสภาวะที่รุนแรงมาก อย่างกลุ่มอาการเซโรโทนิน (serotonin syndrome) หรือเซโรโทนินเป็นพิษ (serotonin toxicity) ความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้น หากคุณใช้ยาอื่นที่สามารถเพิ่มระดับของเซโรโทนินได้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (อ่านเพิ่มเติมในส่วนปฏิกิริยาของยา) รับการรักษาในทันทีหากเกิดอาการดังต่อไปนี้ คือ หัวใจเต้นเร็ว มองเห็นภาพหลอน สูญเสียการเคลื่อนไหวที่สอดประสาน วิงเวียนอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงอย่างรุนแรง กล้ามเนื้อกระตุก เป็นไข้ที่หาสาเหตุไม่ได้ ร้อนรนหรือกระสับกระส่ายผิดปกติ
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
หลีกเลี่ยงยาบางชนิด ที่อาจส่งผลกระทบต่อการกำจัดยาอีลีทริปแทนออกจากร่างกาย ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาอีลีทริปแทน ยกตัวอย่างเช่น โคบิซิสแตท (Cobicistat) เนฟาโซโดน (nefazodone) ริโบซิคลิบ (ribociclib) ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals) เช่น คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) หรือไอทราโคนาโซล (itraconazole) ยาปฏิชีวนะแมคโครไลด์ (macrolide antibiotics) เช่น คลาริโทรมัยซิน (clarithromycin) หรืออิริโทรมัยซิน (erythromycin) ยาต้านเชื้อไวรัสตับอักเสบซีบางชนิด (hepatitis C virus protease inhibitors) เช่น โบซีพรีเวียร์ (Boceprevir) ทีลาพรีเวียร์ (Telaprevir) ยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV protease inhibitors) เช่น เนวฟินนาเวียร์ (nelfinavir) หรือริโทนาเวียร์ (ritonavir) และอื่นๆ
หากคุณใช้ยาเออร์โกตามีน (Ergotamine) เช่น ไดไฮโดรเออร์โกตามีน (dihydroergotamine) หรือทริปแทนอื่นๆ เช่น ซูมาทริปแทน (sumatriptan) หรือไรซาทริปแทน (rizatriptan) ควรเว้นช่วงเวลาการใช้ยาอีลีทริปแทนใ ห้ห่างจากการใช้ยาเหล่านี้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
ความเสี่ยงในการเกิดกลุ่มอาการเซโรโทนิน หรือเซโรโทนินเป็นพิษนั้น จะเพิ่มขึ้น หากคุณใช้ยาที่อาจเพิ่มสารเซโรโทนิน ยกตัวอย่างเช่น ยาเมทิลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน (MDMA) หรือยาอี (ecstasy) สมุนไพรเซนต์จอห์น (St. John’s wort) ยาต้านซึมเศร้าบางชนิด (antidepressants) เช่น ยาในกลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (SSRIs) อย่างฟลูออกซิทีน (fluoxetine) หรือพาร็อกซีทีน (paroxetine) ยาในกลุ่มเอสเอ็นอาร์ไอ (SNRIs) อย่างดูล็อกซีทีน (duloxetine) หรือเวนลาฟาซีน (venlafaxine) และอื่นๆ ความเสี่ยงในการเกิดกลุ่มอาการเซโรโทนิน หรือเซโรโทนินเป็นพิษนั้นมักจะเพิ่มขึ้น เมื่อคุณเริ่มใช้ยาหรือเพิ่มขนาดยาเหล่านี้
ยาอีลีทริปแทนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่าคุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาอีลีทริปแทนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาอีลีทริปแทนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคไมเกรน (Migraine)
คำแนะนำ
การใช้งาน
เพื่อการรักษาโรคไมเกรนที่มีหรือไม่มีอาการเตือนเฉียบพลัน
การปรับขนาดยาสำหรับไต
ไม่มีการปรับขนาดยาที่แนะนำ
การปรับขนาดยาตับ
ตับบกพร่องระดับรุนแรง : ข้อห้ามในการใช้ยา
ตับบกพร่องระดับเบาหรือถึงปานกลาง : ไม่มีการปรับขนาดยาที่แนะนำ
การปรับขนาดยา
ยายับยั้งเอนไซม์ CYP450 3A4
ผู้สูงอายุ : ควรเลือกขนาดยาด้วยความระมัดระวัง ควรพิจารณาเริ่มต้นใช้ยาในช่วงขนาดยาต่ำ และเฝ้าระวังความดันโลหิต
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้
เรื่องทั่วไป
การเฝ้าระวัง
คำแนะนำผู้ป่วย
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย