backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

เพรดนิคาร์เบท (Prednicarbate)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ข้อบ่งใช้ เพรดนิคาร์เบท

เพรดนิคาร์เบท ใช้สำหรับ

เพรดนิคาร์เบท (Prednicarbate) เป็นยาใช้เพื่อรักษาสภาวะของผิวหนังต่างๆ เช่น โรคผื่นผิวหนังอักเสบ โรคผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้ หรือผดผื่น ยาเพรดนิคาร์เบทจะลดอาการบวม คัน และรอยแดงที่เกิดขึ้นจากสภาวะเหล่านี้ ยานี้เป็นยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroid) ความแรงระดับกลาง

วิธีการใช้ยา เพรดนิคาร์เบท

ยานี้ใช้กับผิวหนังเท่านั้น อย่าทายาที่ใบหน้า ขาหนีบ ใต้วงแขน ภายในช่องคลอด หรือใช้รักษาโรคผื่นผ้าอ้อม (diaper rash) นอกเสียจากแพทย์จะสั่ง

ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนใช้ยา ทำความสะอาดบริเวณที่มีอาการและเช็ดให้แห้ง ทายาบางๆ ลงบนบริเวณที่มีอาการ แล้วนวดเบาๆ โดยปกติคือวันละสองครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด อย่าพันผ้าพันแผล หรือปกปิดบริเวณที่ทายา นอกเสียจากแพทย์จะสั่งให้ทำ หากคุณใช้ยานี้กับทารกในบริเวณที่สวมผ้าอ้อม อย่าให้ผ้าอ้อมที่รัดแน่น หรือเป็นกางเกงพลาสติก

หลังจากทายา ควรล้างมือให้สะอาด เว้นแต่ว่าบริเวณที่รักษาคือที่มือ เมื่อทายาใกล้กับดวงตา ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ยาเข้าสู่ดวงตา เพราะอาจทำให้เกิดโรคต้อหิน หรือทำให้โรคต้อหินรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ยาเข้าจมูกหรือปาก หากยานี้เข้าดวงตา จมูก หรือปากควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดในปริมาณมาก

ใช้ยานี้เฉพาะกับอาการที่กำหนดเท่านั้น ห้ามใช้ยานี้ในเด็กเป็นเวลานานเกินกว่า 3 สัปดาห์ติดต่อกัน นอกเสียจากแพทย์จะสั่งให้ทำ

แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากอาการไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์

การเก็บรักษายาเพรดนิคาร์เบท

ยาเพรดนิคาร์เบทควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเพรดนิคาร์เบทบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยาเพรดนิคาร์เบทลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ไ้ด้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง เมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา เพรดนิคาร์เบท

ก่อนใช้ยาเพรดนิคาร์เบท แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณแพ้ต่อยาคอร์ติโคสเตียรอยด์อื่นๆ (corticosteroids) เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone) หรือเพรดนิโซน (prednisone) หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ออกฤทธิ์ในการรักษา ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะการไหลเวียนของเลือดไม่ดี โรคเบาหวาน ปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน สภาวะผิวหนังอื่นๆ เช่น โรคโรซาเชีย (rosacea) หรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบรอบปาก (perioral dermatitis)

อย่าใช้ยานี้หากมีการติดเชื้อหรือบาดแผลในบริเวณที่จะทำการรักษา

ยานี้อาจลดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของยางได้ เช่น ถุงยางอนามัย

การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เป็นเวลานาน หรือใช้กับผิวหนังเป็นบริเวณกว้าง สามารถทำให้ร่างกายตอบสนองต่อความตึงเครียดทางกายภาพได้ยากขึ้น ดังนั้น ก่อนการผ่าตัดหรือรับการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน หรือหากคุณมีอาการป่วย หรือการบาดเจ็บที่รุนแรง โปรดแจ้งให้แพทย์ในแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่า คุณกำลังใช้หรือเคยใช้ยานี้ภายในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

แม้ว่าไม่ค่อยจะเกิดขึ้น แต่ยานี้อาจจะชะลอการเจริญเติบโตของเด็กได้ หากใช้เป็นเวลานาน ผลต่อส่วนสูงสุดท้ายในวัยผู้ใหญ่นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด โปรดไปหาแพทย์เป็นประจำ เพื่อทำการวัดส่วนสูงของลูก

ในช่วงขณะการตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาความเสี่ยงและประโยชน์กับแพทย์

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยานี้สามารถส่งผ่านน้ำนมแม่ เมื่อทายาลงบนผิวหนังได้หรือไม่ ยาที่คล้ายกันนั้นสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้เมื่อรับประทาน โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาถึงประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ยาเพรดนิคาร์เบทจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยา เพรดนิคาร์เบท

อาจเกิดอาการปวดเหมือนถูกแมลงต่อย แสบร้อน คัน ระคายเคือง แห้ง หรือรอยแดง เมื่อทายาครั้งแรกที่ผิวหนัง อาการเหล่านี้ควรจะหายไปภายในเวลาไม่กี่วัน เมื่อร่างกายปรับตัวเข้ากับยา หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรในทันที

โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ

โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นแต่รุนแรงดังต่อไปนี้ ได้แก่ รอยแตกลาย ผิวบางลงหรือเปลี่ยนสี เป็นสิว มีผมร่วงมากเกินไป รูขุมขนอักเสบ (folliculitis)

ปฏิกิริยาที่ผิวหนังอาจจะรุนแรงขึ้นขณะที่ใช้ยานี้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากอาการรอยแดง บวม หรือระคายเคืองนั้นไม่ดีขึ้น

เมื่อใช้ยานี้นานครั้ง อาจมีโอกาสที่ยานี้จะถูกดูดซึมจากผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงของการมีปริมาณของยาคอร์ติโคสเตียรอยด์มากเกินไปได้ ผลข้างเคียงนี้มักจะเกิดขึ้นในเด็ก และผู้ที่ใช้ยาเป็นเวลานาน หรือใช้บนผิวในบริเวณกว้าง โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากเกิดผลข้างเคียงดังต่อไปนี้ ได้แก่ เหนื่อยล้าผิดปกติหรือมากเกินไป น้ำหนักลด ปวดหัว มีอาการบวมที่ข้อเท้าหรือเท้า ปัสสาวะเพิ่มขึ้น หรือกระหายน้ำเพิ่มขึ้น มีปัญหากับการมองเห็น

การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้คือ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด

ไม่ใช่ทุกคนจะพบกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ ทั้งยาตามใบสั่งยา ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ โดยเฉพาะ ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์แบบรับประทาน เช่น เพรดนิโซน (prednisone) ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่อื่นๆ เช่น ไฮโดรคอร์ทิโซน (hydrocortisone) ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ไซโคลสปอรีน (cyclosporine)

ยาเพรดนิคาร์เบทอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาเพรดนิคาร์เบทอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาเพรดนิคาร์เบทอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาเพรดนิคาร์เบทสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษารอยแดง อาการคัน และอาการบวมที่ผิวหนัง:

  • ยาครีม: ทายาลงบนผิวหนังบริเวณที่มีอาการวันละสองครั้ง
  • ยาขี้ผึ้ง: ทายาลงบนผิวหนังบริเวณที่มีอาการวันละสองครั้ง

ขนาดยาเพรดนิคาร์เบทสำหรับเด็ก

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษารอยแดง อาการคัน และอาการบวมที่ผิวหนัง:

  • ยาครีม: เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป —ทายาลงบนผิวหนังบริเวณที่มีอาการวันละสองครั้ง เด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี — ไม่แนะนำให้ใช้ยา
  • ยาขี้ผึ้ง: เด็กอายุ 10 ปีขึ้นไปทายาลงบนผิวหนังบริเวณที่มีอาการวันละสองครั้ง เด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี — การใช้และขนาดยานั้นจะต้องกำหนดโดยแพทย์เท่านั้น

ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้:

  • ยาครีมทาเฉพาะที่
  • ยาขี้ผึ้งทาเฉพาะที่

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา