อสซิตาโลแพรมใช้เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (depression) และโรควิตกกังวล (anxiety) โดยช่วยฟื้นฟูความสมดุลของสารเคมีตามธรรมชาติในสมองอย่างสารเซโรโทนิน (serotonin)
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
อสซิตาโลแพรมใช้เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (depression) และโรควิตกกังวล (anxiety) โดยช่วยฟื้นฟูความสมดุลของสารเคมีตามธรรมชาติในสมองอย่างสารเซโรโทนิน (serotonin)
ยาเอสซิตาโลแพรม (Escitalopram) อยู่ในกลุ่มของยาเอสเอสอาร์ไอ (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors ; SSRIs) ยาเอสซิตาโลแพรมใช้เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (depression) และโรควิตกกังวล (anxiety) ยาเอสซิตาโลแพรมทำงานโดยช่วยฟื้นฟูความสมดุลของสารเคมีตามธรรมชาติในสมองอย่างสารเซโรโทนิน (serotonin) ยาเอสซิตาโลแพรมอาจช่วยเพิ่มระดับพลังงานและความรู้สึกเป็นสุขและช่วยลดความประหม่า
การใช้งานในด้านอื่น
ในส่วนนี้จะมีวิธีการใช้ยาที่ไม่ได้อยู่ในฉลากยาที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญแห่งอเมริกา แต่ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพของคุณอาจจะสั่งให้ใช้ได้ หากผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพของคุณสั่งให้คุณใช้ยานี้ควรใช้ยานี้สำหรับสภาวะที่มีอยู่ในรายการนี้เท่านั้น
ยาเอสซิตาโลแพรมอาจใช้เพื่อรักษาความผิดปกติทางจิตใจหรืออารมณ์อื่นๆ เช่นโรคย้ำคิดย้ำทำ (obsessive-compulsive disorder) โรคแพนิค (panic disorder) และอาการร้อนวูบวาบ (hot flashes) ที่เกิดขึ้นพร้อมกับวัยหมดประจำเดือน (menopause)
รับประทานยาเอสซิตาโลแพรมพร้อมกับอาหารหรือรับประทานแยกต่างหากตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละครั้งในตอนเช้าหรือตอนเย็น ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ การตอบสนองต่อการรักษา อายุ และยาอื่นๆ ที่คุณอาจจะกำลังใช้อยู่ โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรของคุณทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ)
หากคุณกำลังใช้ยาเอสซิตาโลแพรมในรูปแบบยาน้ำ ควรตวงยาอย่างระมัดระวังโดยใช้เครื่องมือหรือช้อนสำหรับตวงยา อย่าใช้ช้อนธรรมดาเพราะอาจได้รับขนาดยาที่ไม่ถูกต้อง
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง แพทย์อาจจะสั่งให้คุณเริ่มใช้ยาในขนาดต่ำแล้วค่อยๆ เพิ่มขนาดยา ควรทำตามวิธีการใช้ยาของแพทย์อย่างระมัดระวัง อย่าเพิ่มขนาดยาหรือใช้ยานี้บ่อยกว่าหรือนานกว่าที่กำหนด อาการของคุณจะไม่หายเร็วขึ้นและความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอาจจะเพิ่มขึ้น ควรใช้ยาเอสซิตาโลแพรมเป็นประจำเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
คุณควรจะใช้ยานี้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะรู้สึกสบายดี อย่าหยุดใช้ยาเอสซิตาโลแพรมโดยไม่ปรึกษาแพทย์ สภาวะบางอย่างอาจจะมีอาการแย่ลงหากคุณหยุดใช้ยาอย่างกะทันหัน และคุณอาจจะมีอาการ เช่น อารมณ์แปรปรวน ปวดหัว เหนื่อยล้า การนอนหลับเปลี่ยนแปลง และรู้สึกคล้ายกับถูกไฟฟ้าช็อตเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อป้องกันอาการเหล่านี้ขณะที่คุณหยุดใช้ยาเอสซิตาโลแพรม แพทย์อาจจะค่อยๆ ลดขนาดยาลงมา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากมีอาการแย่ลงหรืออาการใหม่ขึ้น
อาจต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์กว่าคุณจะรู้สึกถึงผลลัพธ์จากยา และ 4 สัปดาห์กว่าที่คุณจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากยาเอสซิตาโลแพรม โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
ยาเอสซิตาโลแพรม ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเอสซิตาโลแพรมบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเอสซิตาโลแพรมลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยาเอสซิตาโลแพรม
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
ยาเอสซิตาโลแพรมจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ขณะการให้นมบุตร งานวิจัยเกี่ยวกับผู้หญิงที่ให้นมบุตรนั้นแสดงให้เห็นถึงผลที่เป็นอันตรายต่อทารก ควรสั่งยาที่เป็นทางเลือกของยาเอสซิตาโลแพรมหรือไม่คุณก็ควรที่จะหยุดให้นมบุตรขณะที่กำลังใช้ยานี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปนั้นอาจมีทั้งง่วงซึม วิงเวียน นอนไม่หลับ คลื่นไส้ น้ำหนักเปลี่ยนแปลง และมีความต้องการทางเพศลดลง
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันทีหากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีอาการใหม่หรืออาการแย่ลง เช่น มีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือพฤติกรรม วิตกกังวล อาการแพนิคกำเริบ นอนไม่หลับ หรือรู้สึกกระวนกระวาย หงุดหงิด กระสับกระส่าย ไม่เป็นมิตร ก้าวร้าว ร้อนรน อยู่ไม่สุข (ทางจิตใจหรือร่างกาย) ซึมเศร้ามากขึ้น หรือมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเอง
โปรดติดต่อแพทย์ในทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังนี้
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่าอาจมีดังนี้ ง่วงซึม วิงเวียน นอนไม่หลับ คลื่นไส้ระดับเบา มีแก๊ส แสบร้อนกลางอก ท้องไส้ปั่นป่วน ท้องผูก น้ำหนักเปลี่ยนแปลง ความต้องการทางเพศลดลง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือสำเร็จความใคร่ได้ยาก หรือปากแห้ง หาว มีเสียงอื้อในหู
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาเอสซิตาโลแพรมอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ โดยเฉพาะ
รายชื่อนี้ไม่ใช่รายชื่อยาทั้งหมด อาจจะมียาอื่นที่มีปฏิกิริยากับยาเอสซิตาโลแพรม รวมถึงยาตามใบสั่งแพทย์และยาที่หาซื้อได้เอง วิตามิน และสมุนไพรต่างๆ ปฏิกิริยาของยาที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งหมดนั้นไม่ได้อยู่ในคู่มือการใช้ยา
ยาเอสซิตาโลแพรมอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาเอสซิตาโลแพรมอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder)
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคซึมเศร้า
ขนาดยาสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
ยาเม็ด 10 มก. 20 มก.
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย