backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

แอมเบียน® (Ambien®)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ข้อบ่งใช้ แอมเบียน®

แอมเบียน® (โซลพิเดม) ใช้สำหรับ

แอมเบียน® (Ambien®) ประกอบด้วยตัวยาโซลพิเดม (Zolpidem) ออกฤทธิ์เป็นยาระงับประสาท (sedative) และยังเรียกว่ายานอนหลับ (hypnotic) นั้นส่งผลกระทบต่อสารสื่อประสาทในสมองที่อาจจะไม่สมดุล ในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ

แอมเบียน® ใช้เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ ยาเม็ดแบบออกฤทธิ์ทันทีนั้น จะใช้เพื่อช่วยให้คุณนอนหลับเมื่อเข้านอน ยาเม็ดแบบออกฤทธิ์นานแอมเบียน®ซีอาร์ (Ambien® CR) ซึ่งมีชั้นแรกที่ละลายเร็ว เพื่อช่วยให้คุณนอนหลับ และชั้นที่สองจะละลายอย่างช้าๆ เพื่อช่วยให้คุณยังคงนอนหลับต่อไป

แพทย์อาจจะเป็นผู้กำหนดว่าแอมเบียน®รูปแบบไหนเหมาะสมกับคุณที่สุด

วิธีการใช้แอมเบียน® (โซลพิเดม)

ใช้แอมเบียน®ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามวิธีการใช้ยาทั้งหมดบนฉลากยา อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่าหรือนานกว่าที่กำหนด

แอมเบียน®อาจทำให้เกิดการเสพติดได้ อย่าแบ่งยานี้กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้ยาในทางที่ผิดหรือติดยา ควรเก็บยานี้ไว้ในสถานที่ที่ห่างไกลจากมือของผู้อื่น การขายหรือแจกจ่ายยานี้นั้นผิดกฏหมาย

ขนาดแอมเบียน®ที่แนะนำนั้น แตกต่างกันสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย และยานี้ไม่ได้รับการยอมรับการใช้ในเด็ก การใช้ยาในทางที่ผิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย

อย่าใช้ยานี้ หากคุณไม่มีเวลานอนเต็มที่ 7 ถึง 8 ชั่วโมง ก่อนจะต้องตื่นอีกครั้ง

แอมเบียน®นั้นใช้ชั่วคราวเท่านั้น โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการนอนไม่หลับของคุณไม่ดีขึ้น หรือหากมีอาการรุนแรงขึ้น หลังจากที่ใช้ยาเป็นเวลานาน 7 ถึง 10 คืนติดต่อกัน อย่าใช้ยานี้นานกว่า 4 หรือ 5 สัปดาห์โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

อย่าหยุดใช้แอมเบียน®อย่างกะทันหัน หลังจากใช้ยาเป็นเวลานาน ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะมีอาการถอนยาที่ไม่พึงประสงค์ได้ โปรดสอบถามแพทย์ ถึงวิธีในการหลีกเลี่ยงอาการถอนยา เมื่อคุณหยุดใช้ยานี้

อาการนอนไม่หลับนั้น อาจจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่คุณหยุดใช้แอมเบียน®อาการเหล่านี้มักจะรุนแรง มากกว่าก่อนที่คุณเริ่มใช้ยานี้ โปรดติดต่อแพทย์ หากคุณยังมีอาการนอนไม่หลังอย่างรุนแรง ในไม่กี่คืนแรกหลังจากที่หยุดใช้ยาโซลพิเดม

อย่าบด เคี้ยว หรือหักยาเม็ดแอมเบียน®ซีอาร์ ควรกลืนยาลงไปทั้งเม็ด

การเก็บรักษาแอมเบียน® (โซลพิเดม)

แอมเบียน®ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง แอมเบียน®บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งแอมเบียน®ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้แอมเบียน® (โซลพิเดม)

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก

  • คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณมีความตั้งใจหรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
  • หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
  • หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่มีฤทธิ์ในการรักษาของแอมเบียน® หรือยาอื่นๆ
  • หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ

บางคนที่ใช้แอมเบียน® ซึ่งทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การขับรถ การเดิน การคุยโทรศัพท์ หรือมีเพศสัมพันธ์ และอาจจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับการทำกิจกรรมนั้นในภายหลัง หากเกิดอาการนี้ควรหยุดใช้แอมเบียน® และปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการอื่นในการรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับของคุณ

แอมเบียน®อาจจะทำให้ความคิดหรือปฏิกิริยาของคุณบกพร่อง คุณอาจจะรู้สึกง่วงในตอนเช้าหลังจากใช้ยานี้ โดยเฉพาะหากคุณใช้ยาเม็ดแบบออกฤทธิ์นาน หรือหากคุณเป็นผู้หญิง ควรรออย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือจนกว่าคุณจะตื่นอย่างเต็มที่ ก่อนจะทำกิจกรรมที่ต้องการการตื่นอย่างเต็มตาและความตื่นตัว

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

แอมเบียน®จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้แอมเบียน® (โซลพิเดม)

ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้

  • ง่วงซึมในตอนกลางวัน
  • วิงเวียน
  • อ่อนแรง
  • รู้สึกเหมือนถูกวางยาหรือหน้ามืด
  • รู้สึกเหนื่อยล้า
  • สูญเสียการเคลื่อนไหวที่สอดประสาน
  • คัดจมูก
  • ปากแห้ง
  • ระคายเคืองจมูกหรือลำคอ
  • คลื่นไส้
  • ท้องผูก
  • ท้องร่วง
  • ท้องไส้ปั่นป่วน
  • ปวดหัว
  • ปวดกล้ามเนื้อ

หยุดใช้แอมเบียน® และติดต่อแพทย์ในทันทีถ้าหาก

  • ปวดหน้าอก
  • หัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ
  • หายใจไม่อิ่ม
  • มีปัญหากับการหายใจหรือการกลืน
  • รู้สึกคล้ายจะหมดสติ
  • ซึมเศร้า
  • วิตกกังวล
  • ก้าวร้าว
  • กระวนกระวาย
  • สับสน
  • มีความคิดที่ผิดปกติ
  • มองเห็นภาพหลอน
  • มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ
  • ลักษณะนิสัยเปลี่ยน
  • มีพฤติกรรมชอบเสี่ยง
  • ความยับยั้งชั่งใจลดลง
  • ไม่มีความกลัวต่ออันตราย
  • มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเอง

แอมเบียน®อาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรง หยุดใช้แอมเบียน®และรับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ต่อยาโซลพิเดม เช่น ลมพิษ หายใจติดขัด อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

แอมเบียน®อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่

  • คลอร์โปรมาซีน (Chlorpromazine)
  • ไอทราโคนาโซล (Itraconazole) หรือคีโตโคนาโซล (ketoconazole)
  • ไรแฟมพิน (Rifampin)
  • ยาต้านซึมเศร้า (antidepressant) – อิมิพรามีน (imipramine) เซอร์ทราลีน (sertraline)

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

แอมเบียน®อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

แอมเบียน®อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

โรคที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่

  • โรคไต
  • โรคตับ
  • โรคปอด เช่น โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ (bronchitis) โรคถุงลมโป่งพอง (emphysema) หรือโรคปอดอักเสบเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease)
  • โรคหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep apnea)
  • โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอ็มจี (Myasthenia gravis)
  • เคยเป็นโรคซึมเศร้า ป่วยทางจิต หรือมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
  • เคยติดยาหรือติดสุรา

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดแอมเบียน® (โซลพิเดม) สำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาที่แนะนำคือ 5 มก. สำหรับผู้หญิง และ 5 หรือ 10 มก. สำหรับผู้ชาย รับประทานวันละครั้งในตอนกลางคืนทันทีก่อนนอน ภายในเวลาอย่างน้อย 7 ถึง 8 ชั่วโมงก่อนเวลาที่คาดว่าจะตื่นนอน

หากขนาดยา 5 มก. ไม่ได้ผล อาจเพิ่มขนาดยาเป็น 10 มก.

สำหรับผู้ป่วยบางราย ระดับของยาภายในเลือดที่สูงกว่าในตอนเช้าหลังจากที่ใช้ยาในขนาด 10 มก.นั้น จะเพิ่มความเสี่ยงในการลดประสิทธิภาพในการขับรถ และการทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัวอย่างเต็มที่ในวันถัดไป

ขนาดยาเริ่มต้นที่แนะนำสำหรับผู้หญิงและผู้ชายนั้นแตกต่างกัน เพราะความสามารถในการกำจัดยาโซลพิเดมในผู้หญิงนั้นจะต่ำกว่า

ขนาดแอมเบียน® (โซลพิเดม) สำหรับเด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาเม็ดเคลือบฟิล์มโซพิเดมทาร์เทรต (zolpidem tartrate) ขนาด 5 มก.

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา