ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรพิมพ์จิต วัฒนชโนบล
ยา โบรโมคริปทีน (Bromocriptine) ใช้เพียงอย่างเดียว หรือใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น ยาลีโวโดพา (levodopa) เพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน ยานี้ทำให้ความสามารถของคุณ ในการเคลื่อนไหวร่างกายดีขึ้น และลดอาการสั่น ความเมื่อยล้า การเคลื่อนไหวที่ช้าลง และการทรงตัวไม่ได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดจำนวนระยะเวลาที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
นอกจากนี้ ยา โบรโมคริปทีน ยังใช้เพื่อรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมน ที่เกิดจากปริมาณสารเคมีชนิดหนึ่งในระดับสูงที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้น (โพรแล็กติน) อาการผิดปกติดังกล่าว ได้แก่ มีน้ำนมในปริมาณมากเกินไป ประจำเดือนเว้นระยะ/หยุด ตั้งครรภ์ได้ยาก การผลิตเชื้ออสุจิลดลง และสมรรถภาพทางเพศลดลง เนื่องจากผลข้างเคียงรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ (เช่น ความดันโลหิตสูง อาการชัก ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง) ไม่แนะนำให้ใช้ยาโบรโมคริปทีนสำหรับหยุดการสร้างน้ำนม หลังจากตั้งครรภ์หรือการแท้ง
นอกจากนี้ ยาโบรโมคริปทีนยังใช้เพียงตัวเดียว หรือใช้ร่วมกับยาอื่น เพื่อลดระดับฮอร์โมน ที่ทำให้กระดูกในร่างกายเติบโตเกินปกติ (acromegaly) นอกจากนี้ยังใช้เพื่อรักษาเนื้องอกที่หลั่งโพรแล็กติน ยาโบรโมคริปทีนอาจใช้เพื่อลดขนาดเนื้องอก ก่อนการผ่าตัด หรือใช้เพื่อควบคุมอาการจนกว่ายาอื่นๆ จะเริ่มออกฤทธิ์
ยาโบรโมคริปทีนเป็นยาในกลุ่มเออร์กอต (ergot) ที่ออกฤทธิ์โดยการช่วยฟื้นฟูความสมดุลของสารตามธรรมชาติประเภทหนึ่ง (โดพามีน) ในสมอง อีกทั้งยังช่วยป้องกันการหลั่งของฮอร์โมนบางชนิด (โกรทฮอร์โมน โพรแล็กติน) โบรโมคริปทีนสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมนเหล่านี้ได้ แต่ไม่สามารถจัดการที่ต้นเหตุของระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้นได้
การใช้อื่นๆ มีดังนี้
โบรโมคริปทีนเป็นยากลุ่มเออร์กอต ที่เชื่อกันว่าทำให้การทำงานของอินซูลินในร่างกายดีขึ้น ซึ่งช่วยให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดดีขึ้น
การควบคุมน้ำตาลที่สูงในเลือด ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดกับไต อาการตาบอด อาการทางประสาท การสูญเสียแขนขา และปัญหาสุขภาวะทางเพศ การควบคุมโรคเบาหวานที่เหมาะสม ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย
ใช้ยา โบรโมคริปทีน โดยการรับประทานพร้อมอาหาร ตามปกติ 1-2 ครั้งต่อวัน หรือตามที่แพทย์สั่ง แพทย์อาจเริ่มการรักษาในขนาดยาที่ต่ำ แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มขนาดยาขึ้น เพื่อหาขนาดยาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ โบรโมคริปทีนมักทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ โดยเฉยาะอย่างยิ่งหลังจากใช้ยาครั้งแรก ให้นอนลงทันทีหลังจากใช้ยาครั้งแรก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการหกล้ม
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคุณ อาการที่กำลังรักษา และการตอบสนองต่อยา
ให้ใช้ยาโบรโมคริปทีนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อได้รับประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยให้สามารถจดจำการใช้ยา ให้ใช้ในเวลาเดิมทุกวัน
สำหรับการรักษาโรคพาร์กินสัน แพทย์จะปรับขนาดยาตามอาการ และผลข้างเคียง แพทย์อาจสั่งให้คุณลดขนาดยาเลโวโดพา (levodopa) ลงหลังจากใช้ยาโบรโมคริปทีน ห้ามเปลี่ยนหรือหยุดยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
สำหรับโพรแล็กตินในระดับที่สูง อาจใช้เวลา 6-8 สัปดาห์เพื่อให้ผลของโพรแล็กตินในปริมาณที่สูงลดลง อาจใช้เวลาถึง 12 เดือน ก่อนได้รับประโยชน์ที่เต็มที่จากการใช้ยานี้
สำหรับภาวะที่กระดูกมีการเจริญเติบโตมากเกินไป จนทำให้ร่างกายใหญ่โตกว่าปกติ แพทย์จะเฝ้าดูระดับโกรทฮอร์โมนของคุณ และปรับขนาดยา
ห้ามหยุดใช้ยานี้โดยที่แพทย์ไม่อนุญาต หากคุณหยุดใช้ยานี้ทันที ปฏิกิริยาจากการหยุดยาอาจเกิดขึ้น ปฏิกิริยาดังกล่าวได้แก่ อาการไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และสับสน มึนงง ให้แจ้งอาการดังกล่าวให้แพทย์ทราบทันที เมื่อหยุดการรักษาที่ขยายเวลา หรือการรักษาโดยใช้ยานี้ตามปกติ การลดขนาดยาทีละน้อยตามที่แพทย์สั่ง จะช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาจากการหยุดยา ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ให้แจ้งแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
การเก็บรักษายาโบรโมคริปทีนที่ดีที่สุด ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาโบรโมคริปทีนไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาโบรโมคริปทีนมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
คุณไม่ควรทิ้งยาโบรโมคริปทีนลงในโถส้วม หรือในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสม เมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาอย่างปลอดภัย
ข้อควรรู้ก่อนใช้
ก่อนใช้ยา โบรโมคริปทีน
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเพียงพอ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยาโบรโมคริปทีน ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อเปรียบเทียบประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้ยาก่อนการใช้ยานี้ ยาโบรโมคริปทีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดย FDA มีดังนี้
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ปวดศีรษะเล็กน้อย เวียนศีรษะ รู้สึกเหนื่อย ง่วงซึมเล็กน้อย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ไม่อยากอาหาร ท้องเสีย ท้องผูก รู้สึกเย็นหรือชาที่นิ้วมือ ปากแห้ง หรือคัดจมูก
ให้เข้ารับการรักษาฉุกเฉิน หากคุณมีอาการแพ้ยา ได้แก่ ลมพิษ หายใจลำบาก อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ
ให้หยุดใช้ยานี้และติดต่อแพทย์ทันที หากคุณมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง ได้แก่
อาการข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่า ได้แก่
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษากับแพทย์
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยา โบรโมคริปทีน อาจเกิดอันตรกิริยากับยาชนิดอื่นที่คุณใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาของยาที่อาจเกิดขึ้น คุณควรทำรายการยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด (ยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร) และแจ้งแก่แพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยของคุณ ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ถึงแม้ว่ายาบางชนิดไม่ควรมีการใช้ร่วมกัน แต่ในผู้ป่วยรายอื่น การใช้ยาต่างชนิดกันสองชนิดอาจถูกใช้ร่วมกันได้ ถึงแม้ว่าอาจมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น ในกรณีนี้ แพทย์อาจเปลี่ยนขนาดยา หรืออาจต้องคำนึงถึงข้อควรระวังที่สำคัญอื่นๆ ในการใช้ยา เมื่อคุณใช้ยานี้ เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่แพทย์ต้องทราบ ถ้าคุณกำลังใช้ยาตามที่ระบุข้างล่างนี้ ปฏิกิริยาระหว่างยาดังกล่าวได้ถูกเลือกบนพื้นฐานของศักยภาพที่มีนัยสำคัญของยา และไม่ใช่ว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้พร้อมกับยาดังต่อไปนี้ แพทย์อาจตัดสินใจไม่รักษาคุณด้วยยานี้หรือเปลี่ยนการใช้ยาชนิดอื่นๆ
ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้พร้อมกับยาดังต่อไปนี้ แต่อาจจำเป็นในผู้ป่วยบางราย หากสั่งยาทั้งสองชนิดพร้อมกัน แพทย์อาจเปลี่ยนขนาดยา หรือความถี่ในการใช้ยาชนิดเดียว หรือทั้งสองชนิด
การใช้ยานี้กับยาดังต่อไปนี้ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลข้างเคียงบางประการ แต่การใช้ยาทั้งสองชนิด อาจเป็นการรักษาที่ดีสำหรับคุณ หากสั่งยาทั้งสองชนิดพร้อมกัน แพทย์อาจเปลี่ยนขนาดยา หรือความถี่ในการใช้ยา ชนิดเดียวหรือทั้งสองชนิด
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาโบรโมคริปทีนอาจทำปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นกับอาหารหรือแอลกอฮอล์ ก่อนการใช้
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาโบรโมคริปทีนอาจทำปฏิกิริยากับสภาวะทางสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจทำให้สภาวะทางสุขภาพเสื่อมลง หรือเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเสมอ เกี่ยวกับสภาวะทางสุขภาพทั้งหมดของคุณในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เสมอ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษาภาวะระดับโปรแลคตินในเลือดสูง (Hyperprolactinemia)
ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษาภาวะที่กระดูกเจริญเติบโตเกินปกติจนทำให้ร่างกายใหญ่โตกว่าปกติ (Acromegaly)
ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษาโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease)
ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษาโรคเบาหวาน ประเภท 2 (Diabetes Type 2)
สำหรับยาโบรโมคริปทีนในชื่อการค้า Cycloset (R) เท่านั้น
ขนาดยาไทเทรต : เมื่อถึงระดับที่ร่างกายทนยาแล้ว เพิ่ม 0.8 มก. ต่อสัปดาห์
ขนาดยาสำหรับเด็ก
ขนาดยาปกติในเด็กสำหรับรักษาภาวะระดับโปรแลคตินสูง (Hyperprolactinemia)
อายุ 11-15 ปี
รูปแบบยา
ยาโบรโมคริปทีนมีรูปแบบการใช้และปริมาณตัวยา ดังต่อไปนี้
แคปซูล สำหรับรับประทาน
ยาเม็ด สำหรับรับประทาน
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ให้โทรแจ้งบริการฉุกเฉิน หรือไปยังห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ
กรณีลืมใช้ยา
หากลืมใช้ยาโบรโมคริปทีน ให้ใช้ยาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ดี หากใกล้เวลาใช้รอบถัดไป ให้ข้ามรอบที่ลืมใช้ไปแล้วใช้ยาในรอบถัดไปตามปกติที่กำหนดไว้ ห้ามใช้เพิ่มเป็นสองเท่า
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย
เภสัชกรพิมพ์จิต วัฒนชโนบล
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย