backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ข้อบ่งใช้

ยาไตรแอมซิโนโลนใช้สำหรับ

ยาไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) อยู่ในกลุ่มของยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) เพื่อป้องกันการปล่อยสารบางอย่างในร่างกายที่ทำให้เกิดการอักเสบ

ยาไตรแอมซิโนโลนแบบรับประทาน ใช้เพื่อรักษาสภาวะต่างๆ เช่น สภาวะของโรคภูมิแพ้ สภาวะของผิวหนัง โรคลำไส้อักเสบชนิดเป็นแผล (Ulcerative Colitis) โรคข้ออักเสบ (arthritis) โรคลูปัส (lupus) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) หรือความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจ (breathing disorders)

ยาไตรแอมซิโนโลนยังอาจใช้สำหรับจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากที่มีอยู่ในแนวทางการใช้ยาได้อีกด้วย

วิธีการใช้ยาไตรแอมซิโนโลน

ใช้ยาไตรแอมซิโนโลนตามที่แพทย์กำหนด อย่าใช้ยาในขนาดที่มากกว่าหรือน้อยกว่าที่แนะนำ ควรทำตามแนวทางการใช้ยาบนฉลากยา

ในบางครั้งแพทย์อาจจะเปลี่ยนขนาดยาเพื่อให้แน่ใจว่า คุณได้รับผลที่ดีที่สุดจากยานี้

รับประทานยาไตรแอมซิโนโลนพร้อมกับอาหาร เพื่อป้องกันอาการท้องไส้ปั่นป่วน

คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนยาสเตียรอยด์ของคุณ หากมีความเครียดที่ผิดปกติ เช่น อาการป่วยอย่างหนัก เป็นไข้ หรือติดเชื้อ หรือหากคุณรับการผ่าตัด หรือการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น

ยานี้สามารถทำให้เกิดความผิดปกติกับผลการทดสอบทางการแพทย์บางชนิดได้ แจ้งให้แพทย์ทราบว่า คุณกำลังใช้ยาไตรแอมซิโนโลน

อย่าหยุดใช้ยาไตรแอมซิโนโลนในทันที ไม่อย่างนั้น อาจจะมีอาการถอนยาที่ไม่พึงประสงค์ได้ ปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับวิธีการหลีกเลี่ยงอาการถอนยา เมื่อหยุดใช้ยา ควรพกบัตรประจำตัวหรือสวมกำไลข้อมูลประจำตัวทางการแพทย์ที่บอกว่า คุณกำลังใช้ยาสเตียรอยด์ เพื่อที่ในกรณีฉุกเฉิน แพทย์ ทันตแพทย์ หรือผู้ดูแลฉุกเฉินจะได้ทราบว่า คุณกำลังใช้ยาสเตียรอยด์

การเก็บรักษายาไตรแอมซิโนโลน

ยาไตรแอมซิโนโลนควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไตรแอมซิโนโลนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยาไตรแอมซิโนโลนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง เมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาไตรแอมซิโนโลน

ระหว่างที่กำลังพิจารณาเลือกใช้ยา แพทย์จะพิจารณาความเสี่ยงของการใช้ยาต่อประโยชน์ของยาเสียก่อน สำหรับยานี้ควรพิจารณาดังต่อไปนี้

โรคภูมิแพ้

แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณเคยมีอาการที่ผิดปกติ หรืออาการแพ้ต่อยานี้ นอกจากนี้ยังควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้อื่นๆ ที่คุณเป็น เช่น แพ้อาหาร สีย้อม สารกันบูด หรือสัตว์ สำหรับยาที่หาซื้อเองควรอ่านฉลากยา หรือส่วนประกอบของยาอย่างละเอียด

เด็ก

ยังไม่มีงานวิจัยที่เหมาะสมในปัจจุบัน ที่แสดงให้เห็นถึงปัญหาสำหรับผู้ป่วยเด็ก โดยเฉพาะที่จะจำกัดประสิทธิภาพของยาไตรแอมซิโนโลนเฉพาะที่ต่อผู้ป่วยเด็ก แต่ควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากความเป็นพิษของยานี้ เด็กอาจจะดูดซึมยาในปริมาณมากเข้าสู่ผิวหนัง และทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ หากลูกของคุณกำลังใช้ยานี้ ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ผู้สูงอายุ

ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอายุ กับประสิทธิภาพของยาไตรแอมซิโนโลนแบบเฉพาะที่สำหรับผู้ป่วยสูงอายุ

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยในผู้หญิงที่เพียงพอ ที่จะบ่งชี้ความเสี่ยงของการใช้ยานี้ ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษากับแพทย์ เพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาไตรแอมซิโนโลน

รับการรักษาในทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ดังนี้ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ

แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น:

  • ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น
  • มีอาการบวม น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รู้สึกหายใจไม่อิ่ม
  • รู้สึกซึมเศร้าอย่างรุนแรง มีความคิดหรือพฤติกรรมที่ผิดปกติ อาการชัก
  • อุจจาระสีดำคล้ายยางมะตอย ไอเป็นเลือด
  • โรคตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) อาการปวดอย่างรุนแรงที่กระเพาะส่วนแพร่กระจายไปยังด้านหลัง คลื่นไส้และอาเจียน หัวใจเต้นเร็ว
  • โพแทสเซียมต่ำ (สับสน อัตราหัวใจเต้นผิดปกติ กระหายน้ำอย่างรุนแรง ปัสสาวะเพิ่มขึ้น รู้สึกไม่สบายที่ขา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือรู้สึกปวกเปียก)
  • ระดับความดันโลหิตสูงจนอันตราย (ปวดหัวรุนแรง มองเห็นไม่ชัด มีเสียงหึ่งๆ ในหู วิตกกังวล สับสน ปวดหน้าอก หายใจไม่อิ่ม อัตราหัวใจเต้นไม่เท่ากัน ชัก)

ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่ามีดังต่อไปนี้

  • นอนไม่หลับ อารมณ์เปลี่ยนแปลง
  • เป็นสิว ผิวแห้ง ผิวบาง มีรอยช้ำหรือผิวเป็นฝ้า
  • แผลหายได้ช้า
  • มีเหงื่อออกเพิ่มขึ้น
  • ปวดหัว วิงเวียน รู้สึกโลกหมุน
  • คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องอืด
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ไขมันในร่างกายเปลี่ยนรูปร่างหรือเปลี่ยนตำแหน่ง (โดยเฉพาะที่แขน ขา ใบหน้า คอ เต้านม และเอว)

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาไตรแอมซิโนโลนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาไตรแอมซิโนโลนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาไตรแอมซิโนโลนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะ

  • กลุ่มอาการคุชชิ่ง (Cushing’s syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติของต่อมหมวกไต (adrenal gland disorder)
  • โรคเบาหวาน
  • ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia)
  • ภาวะความดันโลหิตภายในกระโหลกศีรษะสูง (Intracranial hypertension) ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ยานี้อาจทำให้อาการนี้แย่ลงได้
  • การติดเชื้อที่ผิวหนังใกล้กับบริเวณที่ให้ยา
  • ที่ผิวหนังมีแผลขนาดใหญ่ ผิวแตก หรือมีการบาดเจ็บที่ผิวหนังที่รุนแรงในบริเวณที่ให้ยา โอกาสในการเกิดผลข้างเคียงอาจเพิ่มขึ้น

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาไตรแอมซิโนโลนสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ (Adrenocortical Insufficiency)

  • รับประทาน 4 มก. ถึง 12 มก. ต่อกวัน เพิ่มเติมสำหรับการรักษาด้วยมินเนอราโลคอร์ติคอยด์ (mineralocorticoid therapy)

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด (Ankylosing Spondylitis)

ขนาดยาเริ่มต้น

  • รับประทาน 8 มก. ถึง 16 มก. ต่อวัน อีกทางเลือกหนึ่งคือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 3 มก. ถึง 48 มก. ต่อวัน แบ่งให้เท่าๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
  • ฉีดยาเข้าภายในข้อ (Intra-articular) และภายในไขข้อ (intrasynovial) 5 มก. ถึง 40 มก. หนึ่งครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของข้อต่อ ค่าเฉลี่ยสำหรับหัวเข่าคือ 25 มก.
  • ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์สำหรับยาไตรแอมซิโนโลนไดอะซิเตท (triamcinolone diacetate) คือ 75 มก.

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเบอร์ไซติส (Bursitis)

  • รับประทาน 8 มก. ถึง 16 มก. ต่อวัน อีกทางเลือกหนึ่งคือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 3 มก. ถึง 48 มก. ต่อวัน แบ่งให้เท่าๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
  • ฉีดยาเข้าภายในข้อ (Intra-articular) และภายในไขข้อ (intrasynovial) 5 มก. ถึง 40 มก. หนึ่งครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของข้อต่อ ค่าเฉลี่ยสำหรับหัวเข่าคือ 25 มก.
  • ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์สำหรับยาไตรแอมซิโนโลนไดอะซิเตท (triamcinolone diacetate) คือ 75 มก.

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)

  • รับประทาน 8 มก. ถึง 16 มก. ต่อวัน อีกทางเลือกหนึ่งคือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 3 มก. ถึง 48 มก. ต่อวัน แบ่งให้เท่าๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
  • ฉีดยาเข้าภายในข้อ (Intra-articular) และภายในไขข้อ (intrasynovial) 5 มก. ถึง 40 มก. หนึ่งครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของข้อต่อ ค่าเฉลี่ยสำหรับหัวเข่าคือ 25 มก.
  • ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์สำหรับยาไตรแอมซิโนโลนไดอะซิเตท (triamcinolone diacetate) คือ 75 มก.

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis)

  • รับประทาน 8 มก. ถึง 16 มก. ต่อวัน อีกทางเลือกหนึ่งคือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 3 มก. ถึง 48 มก. ต่อวัน แบ่งให้เท่าๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
  • ฉีดยาเข้าภายในข้อ (Intra-articular) และภายในไขข้อ (intrasynovial) 5 มก. ถึง 40 มก. หนึ่งครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของข้อต่อ ค่าเฉลี่ยสำหรับหัวเข่าคือ 25 มก.
  • ขนาดยาสูงสุดต่อสัปดาห์ สำหรับยาไตรแอมซิโนโลนไดอะซิเตท (triamcinolone diacetate) คือ 75 มก.

ขนาดยาไตรแอมซิโนโลนสำหรับเด็ก

ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัย และประสิทธิภาพของขนาดยานี้ สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาสำหรับฉีด 40 มก./มล.

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา