- การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- การใช้เข็มฉีดยาหรือเข็มสักร่วมกับผู้อื่น
- การมีคนรักติดเชื้อ HIV
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV
คุณหมอสามารถวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV ได้ ด้วยการตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดี้ ซึ่งความแม่นยำในการตรวจหาเชื้อ HIV ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการรับเชื้อไวรัสเอชไอวีครั้งล่าสุด โดยควรตรวจประมาณ 3 เดือนหลังจากวันที่คาดว่าจะได้รับเชื้อ
- ตรวจเลือดเพื่อหาแอนติเจนหรือแอนติบอดี้ โดยการเจาะเลือดจากเส้นเลือดที่แขนและส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ควรตรวจประมาณ 3 เดือนหลังจากวันที่คาดว่าจะได้รับเชื้อ
- การตรวจคัดกรองเอชไอวีแบบรวดเร็ว โดยเจาะเลือดจากนิ้วมือ หรือตรวจน้ำลายเพื่อหาแอนติบอดี้ สามารถทำได้ตั้งแต่ 3-12 สัปดาห์หลังจากวันที่คาดว่าได้รับเชื้อ HIV
- การตรวจสารพันธุกรรม (Nucleic acid tests หรือ NATs) เป็นการตรวจเพื่อหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส HIV ภายในเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่คาดว่าจะได้รับเชื้อมาไม่นาน
หากผลตรวจเป็นบวก หมายความว่าติดเชื้อไวรัส HIV อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีผลการตรวจเป็นลบ หากทำการตรวจภายในระยะเวลาน้อยกว่า 3 เดือนหลังจากวันที่คาดว่าจะได้รับเชื้อ ควรตรวจซ้ำอีกครั้ง
การรักษาการติดเชื้อ HIV
ยังไม่มีการรักษาหรือวัคซีนสำหรับไวรัสเอชไอวี แต่มียาบางตัวที่ช่วยชะลอการเกิดโรค ให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด
ยาที่อาจช่วยชะลอความรุนแรงของการติดเชื้อไวรัส HIV อาจมีดังนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย