backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

Cloxacillin ข้อบ่งใช้ และผลข้างเคียง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/10/2023

Cloxacillin ข้อบ่งใช้ และผลข้างเคียง

Cloxacillin (คลอกซาซิลลิน) ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ยาคลอกซาซิลลินเป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลินชนิดหนึ่ง (penicillin antibiotic) ทำงานโดยการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย

ข้อบ่งใช้

Cloxacillin ใช้สำหรับ

ยา คลอกซาซิลลิน (Cloxacillin) ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ยาคลอกซาซิลลินเป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลินชนิดหนึ่ง (penicillin antibiotic) ทำงานโดยการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย

ยาคลอกซาซิลลินเป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่ได้ผลกับการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นหรือใช้มากเกินไปอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้

วิธีการใช้ Cloxacillin

รับประทานยาคลอกซาซิลลินตามที่แพทย์กำหนด ยาคลอกซาซิลลินจะดูดซึมได้ดีที่สุดหากรับประทานขณะท้องว่าง (1 ชั่วโมงก่อน หรือ 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหาร)

หากคุณใช้ยาคลอกซาซิลลินรูปแบบยาน้ำแขวนตะกอน ควรเขย่าขวดให้ดีก่อนใช้ยาทุกครั้ง

ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา สำหรับเด็กนั้น ขนาดยายังขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและอายุอีกด้วย

ยาปฏิชีวนะนั้นจะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อมีปริมาณของยาภายในร่างกายอยู่ในระดับที่คงที่ ดังนั้น จึงควรรับประทานยาโดยเว้นระยะเวลาที่เท่ากัน

ใช้ยาคลอกซาซิลลินอย่างต่อเนื่องจนครบกำหนด แม้ว่าอาการของคุณจะหายไปหลังจากรักษาไปไม่กี่วัน การหยุดใช้ยาเร็วเกินไป อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตต่อไป และอาจส่งผลให้การติดเชื้อกำเริบอีกครั้ง

โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น

การเก็บรักษา Cloxacillin

ยาคลอกซาซิลลินควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาคลอกซาซิลลินบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรทิ้งยาคลอกซาซิลลินลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาคลอกซาซิลลิน

รับประทานยาคลอกซาซิลลินตามที่กำหนด แม้ว่าคุณจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว เนื่องจากอาการของคุณอาจเริ่มดีขึ้นก่อนที่จะรักษาการติดเชื้อได้อย่างเสร็จสิ้น

อย่าหักยา เคี้ยวยา แกะยา หรือบดยาแคปซูล ควรกลืนยาทั้งเม็ด

ยาคลอกซาซิลลินอาจลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดได้ ควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นขณะที่กำลังใช้ยาคลอกซาซิลลินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ยาคลอกซาซิลลินจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A = ไม่มีความเสี่ยง
  • B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C = อาจจะมีความเสี่ยง
  • D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X = ห้ามใช้
  • N = ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาคลอกซาซิลลิน

หากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาคลอกซาซิลลินและรับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที

  • อาการแพ้ เช่น หายใจสั้น ลำคอปิด ลมพิษ มีอาการบวมที่ริมฝีปาก ใบหน้า หรือลิ้น มีผดผื่น หรือหมดสติ
  • ชัก
  • ท้องร่วงไหลเป็นน้ำอย่างรุนแรง และปวดท้องเนื่องจากตะคริว
  • มีเลือดออกหรือรอยช้ำผิดปกติ

ผลข้างเคียงอื่นที่รุนแรงน้อยกว่า อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า ควรหยุดใช้ยาคลอกซาซิลลิน และปรึกษาแพทย์ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้

  • คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้องระดับเบา
  • มีรอยฝ้าขาวที่ลิ้น (ติดเชื้อราหรือการติดเชื้อยีสต์)
  • อาการคันหรือมีสารคัดหลั่งจากช่องคลอด (ติดเชื้อยีสต์ที่ช่องคลอด)
  • ลิ้นมีสีดำและเป็นขนหรือมีแผลในปากหรือที่ลิ้น

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาคลอกซาซิลลินอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ยาบางอย่างอาจลดประสิทธิภาพของยาคลอกซาซิลลิน และทำให้ยาไม่สามารถรักษาอาการติดเชื้อของคุณได้อย่างเต็มที่ ก่อนใช้ยาคลอกซาซิลลิน โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณกำลังใช้ยาดังต่อไปนี้

  • ยาคอเลสไทรามีน (cholestyramine) เช่น เควสทราน (Questran) หรือยาคอเลสติพอล (colestipol) เช่น คอเลสทิด (Colestid)
  • ยาปฏิชีวนะอื่นๆ สำหรับการติดเชื้อชนิดเดียวกันหรือการติดเชื้อที่แตกต่างกัน เช่น ยาอิริโทมัยซิน (erythromycin) อย่างอิรีแท็บ (Ery-Tab) อีมัยซิน (E-Mycin) อี อี เอส (E.E.S.) หรืออื่นๆ ยาเตตราไซคลีน (tetracycline) อย่างซูมัยซิน (Sumycin) หรืออื่นๆ ยามิโนไซคลีน (minocycline) อย่างมิโนซิน (Minocin) ยาด็อกซีไซคลิน (doxycycline) อย่างดอร์ริกซ์ (Doryx) ไวบรามัยซิน (Vibramycin) หรืออื่นๆ

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาคลอกซาซิลลินอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาคลอกซาซิลลินอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาคลอกซาซิลลินสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน

  • 250 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 ถึง 14 วัน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและความรุนแรงของการติดเชื้อ
  • ขนาดยาสูงสุด 4 กรัม/วัน

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคปอดบวม (Pneumonia)

  • 500 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลาสูงสุดถึง 21 วัน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและความรุนแรงของการติดเชื้อ
  • ขนาดยาสูงสุด 4 กรัม/วัน

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษา การติดเชื้อที่ผิวหนัง

  • 500 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน หรือจนถึง 3 วันหลังจากที่อาการอักเสบเฉียบพลันหายแล้ว ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและความรุนแรงของการติดเชื้อ
  • ขนาดยาสูงสุด 4 กรัม/วัน

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)

  • 250 มก. รับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 3 ถึง 7 วัน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติและความรุนแรงของการติดเชื้อ ยาคลอกซาซิลลินแทบจะไม่ใช้เป็นข้อบ่งชี้ในการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  • ขนาดยาสูงสุด 4 กรัม/วัน

ขนาดยาคลอกซาซิลลินสำหรับเด็ก

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคปอดบวม

ยังไม่มีการพิสูจน์ขนาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี ยานี้อาจไม่ปลอดภัยต่อเด็ก ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจให้เต็มที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

  • อายุ 1-18 ปี : 50 ถึง 100 มก./กก./วันแบ่งรับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
  • ขนาดยาสูงสุด 4 กรัม/วัน

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน

ยังไม่มีการพิสูจน์ขนาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี ยานี้อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับลูกคุณได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจให้เต็มที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

  • อายุ 1-18 ปี : 50 ถึง 100 มก./กก./วันแบ่งรับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
  • ขนาดยาสูงสุด 4 กรัม/วัน

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อที่ผิวหนังและโครงสร้างกล้ามเนื้อ

ยังไม่มีการพิสูจน์ขนาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี ยานี้อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับลูกคุณได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจให้เต็มที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

  • อายุ 1-18 ปี : 50 ถึง 100 มก./กก./วันแบ่งรับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง
  • ขนาดยาสูงสุด 4 กรัม/วัน

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาแคปซูล 250 มก. 500 มก.
  • ยาผง 250 มก. 500 มก.
  • ยาสารละลาย 125 มก.

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/10/2023

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา