backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

คลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ (Chlorpromazine hydrochloride)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 08/02/2021

ข้อบ่งใช้

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ใช้สำหรับ

คลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ (Chlorpromazine hydrochloride) เป็นยาในกลุ่มฟีโนไทอาซีน (phenothiazine) เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาอาการผิดปกติทางจิตและอารมณ์ เช่น โรคจิตเภท ระยะกำเริบของอาการฟุ้งพล่าน (manic) ที่พบในโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar) อาการวิตกกังวล หรือกระสับกระส่ายก่อนการผ่าตัด กลุ่มอาการพอร์ฟิเรีย อาการผิดปกติรุนแรงทางพฤติกรรมต่างๆ ในเด็ก อาการคลื่นไส้อาเจียน และอาการสะอึกรุนแรง

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ ยังใช้ควบคู่กับยาชนิดอื่น เพื่อรักษาอาการบาดทะยัก และอาจใช้รักษาอาการอื่นๆ ด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์

วิธีใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ มักให้ด้วยการฉีดในโรงพยาบาลหรือคลินิก หากคุณฉีดยาเองที่บ้าน ผู้ให้บริการทางการแพทย์จะแนะนำวิธีการฉีดยา และการใช้ยาให้คุณอย่างชัดเจน คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาอย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

ไม่ควรใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ หากมีตะกอน ขุ่น สีของตัวยาเปลี่ยนไป หรือหากหลอดบรรจุยาแตกหรือเสียหาย

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์อาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวยาหรือไม่ให้ถูกเสื้อผ้า และควรสวมถุงมือขณะยาใช้ยา

ไม่ควรหยุดใช้ยาโดยทันที หรือหยุดใช้ยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ควรเก็บรักษายา รวมถึงเข็มฉีดยาให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง ไม่ควรใช้เข็มและอุปกรณ์ในการฉีดยาซ้ำ ปรึกษาผู้ให้บริการทางการแพทย์ถึงวิธีการทิ้งอุปกรณ์ต่างๆ อย่างถูกวิธี ควรปฏิบัติตามข้อบังคับการทิ้งยาและอุปกรณ์ที่ออกโดยท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด

การเก็บรักษายาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์

ควรเก็บรักษายาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ในอุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสียหายหรือเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาคลอเฟนิรามีนบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย

ไม่ควรทิ้งยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ลงในชักโครกหรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนการใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์

ก่อนการใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีภาวะ ดังต่อไปนี้

  • มีอาการแพ้ส่วนผสมในยาคลอร์โปรมาซีนหรือยาในกลุ่มฟีโนไทอาซีน เช่น ยาไทโอริดาซีน (thioridazine)
  • มีอาการง่วงซึมอย่างรุนแรง
  • ดื่มเหล้าหรือใช้ยาในปริมาณมาก จนทำให้เกิดอาการง่วงซึม เช่น ยาบาร์บิทูเรต (barbiturates) อย่าง ยาฟิโนบาร์บิทอล (phenobarbital) หรือยาในกลุ่มระงับปวดชนิดเสพติด เช่น ยาโคเดอีน (codeine)
  • อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือมีแผนในการตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • อยู่ระหว่างการใช้ยา ทั้งที่แพทย์สั่งและยาที่ซื้อมารับประทานเอง รวมทั้งยาสมุนไพรหรืออาหารเสริมต่างๆ
  • มีอาการแพ้ยาชนิดอื่น จากอาหารหรือสารเคมีต่างๆ
  • มีอาการจากผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เช่น ปัญหาเกี่ยวกับเลือด ผิวหนังหรือตาเหลือง ขณะที่ใช้ยากลุ่มฟีโนไทอาซีนตัวอื่น เช่น ไธโอริดาซีน (Thioridazine)
  • สุขภาพไม่แข็งแรง หรืออยู่ในบริเวณที่ร้อนจัด หรือมีสารฆ่าแมลง (สารพิษในกลุ่มที่ถูกดูดซึมได้ดีทางผิวหนัง)
  • มีประวัติติดเหล้า ดื่มเหล้าเป็นประจำ หรือกำลังเลิกเหล้า
  • ได้รับหรือเคยได้รับการตรวจไขสันหลัง
  • อยู่ระหว่างใช้ยาที่อาจเพิ่มความเสี่ยงอาการหัวใจเต้นผิดปกติ (Prolonged QT interval) ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณไม่แน่ใจว่ายาที่คุณใช้อยู่อาจส่งผลให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดปกติ

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม มึนศีรษะ หรือมองเห็นไม่ชัดเจน อาการเหล่านี้จะรุนแรงขึ้น หากคุณใช้ยาในขณะที่ดื่มเหล้า หรือใช้ร่วมกับยาตัวอื่น คุณควรใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรขับรถหรือทำกิจกรรมใดที่เป็นอันตราย จนกว่าคุณจะรู้วิธีการจัดการภาวะเหล่านั้น

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม มึนงง หรือหมดสติ ซึ่งอากาศร้อน การออกกำลังกายหรืออาการไข้อาจเพิ่มความรุนแรงของผลข้างเคียงเหล่านี้ คุณควรป้องกันอาการด้วยการลุกยืนอย่างช้าๆ โดยเฉพาะในช่วงเช้า ควรนั่งหรือนอนราบหากมีสัญญาณของอาการเกิดขึ้น

ไม่ควรใช้ยาเกินกว่าที่แพทย์แนะนำ

ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับการใช้ยา

ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาซึ่งอาจออกฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม เช่น ยานอนหลับ ยาคลายกล้ามเนื้อ ขณะที่คุณใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ เพราะอาจเพิ่มความรุนแรงของอาการได้ ควรปรึกษาเภสัชกรหากมีคำถามเกี่ยวกับยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม

แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่า คุณกำลังใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์อยู่ ก่อนรับการรักษาทางการแพทย์หรือทันตกรรม หรือการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือก่อนเข้ารับการผ่าตัด

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่เพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A = ไม่เสี่ยง
  • B = ไม่เสี่ยง (อ้างอิงจากงานวิจัยบางงาน)
  • C = อาจมีความเสี่ยงบางอย่าง
  • D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X = ห้ามใช้
  • N = ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์

ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียง แต่คนส่วนมากมักมีอาการข้างเคียงน้อยหรือไม่มีเลย ควรปรึกษาแพทย์หากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ หรือมีอาการแย่ลง

  • กระสับกระส่าย
  • ท้องอืด
  • เวียนศีรษะ
  • ง่วงซึม
  • ปากแห้ง
  • ม่านตาขยาย
  • สั่นกระตุก
  • คลื่นไส้
  • คัดจมูก

หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ ควรเข้ารับความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที

  • อาการแพ้อย่างรุนแรง ได้แก่ ผื่นแดง ผื่นลมพิษ คัน แน่นหน้าอกหรือในคอ ปาก หน้า ริมฝีปากและลิ้นบวม เสียงแหบผิดปกติ และมีเสียงวี้ดขณะหายใจ
  • เจ็บหน้าอก
  • มึนงง
  • การประสานงานการเคลื่อนไหวน้อยลง
  • น้ำลายไหล
  • เป็นลม
  • หัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นช้าผิดปกติ
  • หน้าตาย ไม่มีการแสดงออกทางอารมณ์
  • กล้ามเนื้อใบหน้า ลำคอหรือหลังหดเกร็ง
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • มีปัญหาทางอารมณ์หรือทางจิตที่เกิดขึ้นใหม่ หรือรุนแรงขึ้น
  • แขนขาชา
  • อวัยวะเพศแข็งตัวนาน หรือเจ็บขณะแข็งตัว
  • กระสับกระส่าย
  • อาการชัก
  • ท้องผูกรุนแรงหรือเรื้อรัง
  • อาการง่วงซึม เวียนศีรษะ หรือปวดศีรษะรุนแรงหรือเรื้งรัง
  • เดินซอยเท้า
  • นอนไม่หลับ
  • กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง
  • หายใจไม่ทันหรืออาเจียน
  • มือ ข้อเท้า หรือเท้าบวม
  • อาการเกี่ยวกับการติดเชื้อ เช่น ไข้ หนาวสั่น เจ็บคอเรื้อรัง
  • อาการเกี่ยวกับตับ เช่น ตัวหรือตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด คลื่นไส้รุนแรงหรือเรื้อรัง ปวดท้อง เบื่ออาหาร
  • อาการสั่น
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการขับปัสสาวะ
  • อาหารกระตุก
  • ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ เช่น กล้ามเนื้อใบหน้าหรือลิ้นกระตุก เสียการทรงตัว ควบคุมแขนขาไม่ได้ พูด หายใจ หรือกลืนอาหารลำบาก
  • มีรอยช้ำหรือเลือดออกผิดปกติ
  • กรอกตาไม่ได้หรือผิดปกติ
  • เหงื่อออกมากผิดปกติ
  • เหนื่อยหรืออ่อนแรงผิดปกติ
  • ผิวซีดผิดปกติ
  • การมองเห็นเปลี่ยนไป เช่น เห็นภาพไม่ชัด

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยาของยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์กับยาชนิดอื่น

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์าจเกิดอันตรกิริยาต่อยาตัวอื่นที่คุณกำลังรับประทานอยู่ และอาจส่งผลให้ยาที่คุณรับประทานออกฤทธิ์ต่างไปจากเดิม หรือเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยาที่อาจเป็นไปได้ คุณควรแจ้งรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ ทั้งยาที่จำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ยาที่จำหน่ายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ สมุนไพร และอาหารเสริม และแจ้งให้แพทย์รวมถึงเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่มหรือ หยุดใช้ยา รวมถึงเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณอยู่ระหว่างการใช้ยา ดังนี้

ยาอะมิโอดาโรน (amiodarone) ยาเบรทีเลียม (bretylium) ยาแอสเทมีโซน (astemizole) ยาคาเบอร์โกลีน (cabergoline) ยาซิซาไพรด์ (cisapride) ยาโดเฟทีไลด์ (dofetilide) ยาเมโทโคลพราไมด์ (metoclopramide) ยาเพอร์โกไลด์ (pergolide) ยาควินิไดน์ (quinidine) ยาโซทาลอล (sotalol) ยาเทอร์เฟนาร์ดีน (terfenadine) หรือยาทรามาดอล (tramadol)

ปฏิกิริยาของยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ กับอาหารและแอลกอฮอล์

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ และส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยานี้เสมอ

ปฏิกิริยาของยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ต่ออาการโรคอื่น

ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาของยาที่มีต่อร่างกาย อาจทำให้สุขภาพของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณ โดยเฉพาะหากคุณมีสภาวะทางการแพทย์ต่อไปนี้

  • มีประวัติโรคหัวใจ เช่น เจ็บหน้าอกแบบปวดเค้น ปัญหาลิ้นหัวใจไมตรัล (mitral valve)
  • มีความดันโลหิตสูงหรือต่ำ
  • เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น โลหิตจาง
  • มีปัญหาเกี่ยวกับไขกระดูก เช่น ปริมาณเม็ดเลือดขาวน้อย
  • เป็นโรคเบาหวาน
  • มีปัญหาเกี่ยวกับตับ เช่น ตับแข็ง
  • มีปัญหาเกี่ยวกับไต
  • มีภาวะอันไม่พึงประสงค์จากยาที่เกิดขึ้นในขนาดปกติ (Neuroleptic malignant syndrome/ NMS)
  • กลุ่มอาการผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว (TD)
  • ขนาดของต่อมลูกหมากใหญ่ขึ้น
  • มีอาการชัก
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ
  • มีปัญหาสุขภาพจิตหรือภาวะอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า
  • มีเนื้องอกต่อมหมวกไตชนิดฟีโอโครโมไซโตมา (pheochromocytoma)
  • เป็นโรคหอบหืด
  • มีการติดเชื้อที่ปอดหรือปัญหาเกี่ยวกับปอดและการหายใจ เช่น ถุงลมโป่งพอง
  • ความดันตาสูงขึ้น หรือเป็นต้อหิน
  • เป็นโรคอัลไซเมอร์
  • เป็นโรคสมองเสื่อม
  • เป็นโรคพาร์กินสัน
  • มีการแพ้ยาแอสไพรินหรือกลุ่มอาการราย (Reye syndorme)
  • มีภาวะโปรแลคตินในเลือดสูง
  • มีประวัติการเป็นมะเร็งส่วนต่างๆ เช่น เต้านม ตับอ่อน ต่อมใต้สมอง และสมอง
  • เป็นมะเร็งเต้านม

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่จะใช้ยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์

ขนาดยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์สำหรับผู้ใหญ่ 

สำหรับรักษาอาการโรคจิตเภท

สำหรับการเริ่มใช้ยา : รับประทานยาขนาด 30-75 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งทานทุกๆ 6-12 ชั่วโมง

สำหรับการควบคุมอาการ : ใช้ยาขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน (ขนาดสูงสุด 800 มิลลิกรัมต่อวัน ในผู้ป่วยบางคนอาจต้องใช้ยาขนาด 1-2 กรัมต่อวัน)

สำหรับการให้ยาทางเส้นเลือด : ใช้ขนาด 25 มิลลิกรัมในช่วงเริ่มการรักษา ตามด้วยการใช้เป็นครั้งคราวขนาด 25-50 มิลลิกรัมหลังจากนั้น 1-4 ชั่วโมง และเพิ่มปริมาณยาได้สูงสุดถึง 400 มิลลิกรัม ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง จนกระทั่งสามารถควบคุมผู้ป่วยได้

ขนาดปกติที่ใช้คือ 300-800 มิลลิกรัมต่อวัน

สำหรับอาการคลื่นไส้และอาเจียน

รับประทานขนาด10-25 มิลลิกรัม ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง ตามอาการ

สำหรับการให้ยาทางเส้นเลือด ควรใช้ยาขนาด 25-50 มิลลิกรัม ทุกๆ 4-6 ชั่วโมงตามอาการ

สำหรับอาการตื่นกลัวก่อนการผ่าตัด

รับประทานยาขนาด 25-50 มิลลิกรัมก่อนการผ่าตัด

ให้ยาทางเส้นเลือดขนาด 12.5-25 มิลลิกรัม 1-2 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด

สำหรับควบคุมอาการตื่นกลัวระหว่างการผ่าตัด

ควรใช้ยาขนาด 12.5 มิลลิกรัมทางเส้นเลือด 30 นาทีหรือขนาด 2 มิลลิกรัม 2 นาที ขนาดที่ใช้ทั้งหมดไม่ควรเกิน 25 มิลลิกรัม

สำหรับอาการสะอึก

รับประทานยาขนาด 25-50 มิลลิกรัม ทุก ๆ 6-8 ชั่วโมง หากอาการสะอึกยังคงอยู่หลังรับประทานยา 2-3 วัน ให้ฉีดยาขนาด 25-50 มิลลิกรัมทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้ยาทางเส้นเลือดขนาด 25-50 มิลลิกรัมขณะผู้ป่วยนอนราบ และสังเกตจังหวะการเต้นของหัวใจ

สำหรับ Intermittent Porphyria

รับประทานขนาด 25-50 มิลลิกรัมทุกๆ 6-8 ชั่วโมง

สำหรับอาการปวดหัวไมเกรน (การใช้ยานอกข้อบ่งใช้)

ขนาดยาที่ใช้ฉีดคือ 5-50 มิลลิกรัมในหนึ่งครั้ง

ขนาดยาคลอร์โปรมาซีนไฮโดรคลอไรด์สำหรับเด็ก

สำหรับอาการพฤติกรรมผิดปกติ หรือโรคสมาธิสั้น

อายุน้อยกว่า 6 เดือน : ยังไม่มีการระบุถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ยา

อายุมากกว่า 6 เดือน : สำหรับเด็กที่นอนโรงพยาบาลควรทานยาขนาด 50-100 มิลลิกรัมต่อวัน หรือให้ยาทางเส้นเลือดขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวันหรือมากกว่านั้น สำหรับผู้ป่วยนอกอาจใช้การฉีดยาขนาด 0.55 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง ตามอาการ

สำหรับอาการคลื่นไส้อาเจียน

อายุน้อยกว่า 6 เดือน : ยังไม่มีการระบุถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ยา

อายุมากกว่า 6 เดือน : ควรทานยาขนาด 0.5-1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม หรือให้ทางเส้นเลือดทุกๆ 6-8 ชั่วโมง ตามอาการ

สำหรับอาการตื่นกลัวก่อนการผ่าตัด

อายุน้อยกว่า 6 เดือน : ยังไม่มีการระบุถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ยา

อายุมากกว่า 6 เดือน : ให้ทานยาขนาด 0.55 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมหรือให้ยาทางเส้นเลือด 1-2 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด

รูปแบบของยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์

รูปแบบและขนาดของยาคลอร์โปรมาซีน ไฮโดรคลอไรด์ มีดังนี้

  • ชนิดเม็ดขนาด 10 มิลลิกรัม
  • ชนิดเม็ดขนาด 25 มิลลิกรัม
  • ชนิดเม็ดขนาด 50 มิลลิกรัม
  • ชนิดเม็ดขนาด 100 มิลลิกรัม
  • ชนิดเม็ดขนาด 200 มิลลิกรัม
  • ชนิดสารละลายสำหรับฉีดขนาด 25 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 08/02/2021

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา