ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
พรีมาริน® (Premarin®) ใช้เพื่อรักษาอาการของวัยหมดประจำเดือน (menopause) เช่น ร้อนวูบวาบ และช่องคลอดแห้ง แสบร้อน และหงุดหงิด การใช้งานในด้านอื่นๆ มีทั้งการป้องกันโรคกระดูกพรุน (osteoporosis) ในผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือน และใช้ทดแทนฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) สำหรับผู้หญิงที่มีภาวะรังไข่เสื่อม (ovarian failure) หรือสภาวะอื่นๆ ที่ทำให้ร่างกายขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนตามธรรมชาติ
พรีมาริน®ในบางครั้งยังสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโรคมะเร็งสำหรับทั้งชายและหญิง
รับประทานพรีมาริน®ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามแนวทางการใช้ยาทั้งหมดบนฉลากยา อย่าใช้ยานี้ในขนาดที่มากกว่า น้อยกว่า หรือนานกว่าที่แนะนำ
พรีมาริน®อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสภาวะที่นำไปสู่โรคมะเร็งมดลูก (uterine cancer) แพทย์อาจจะสั่งยาโปรเจสติน (progestin) ให้คุณ ขณะที่กำลังใช้พรีมาริน® เพื่อช่วยลดความเสี่ยงนี้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากมีอาการเลือดออกจากช่องคลอดที่ผิดปกติ
ในบางครั้งอาจต้องรับประทานพรีมาริน®ทุกวัน แต่สำหรับสภาวะบางอย่าง อาจจะต้องใช้ยานี้เป็นรอบ เช่น ใช้ยา 3 สัปดาห์ ตามด้วยหยุดใช้ยา 1 สัปดาห์ ดังนั้น จึงควรทำตามแนวทางการใช้ยาของแพทย์
หากคุณมองเห็นสิ่งที่คล้ายกับเม็ดพรีมาริน®ในอุจจาระ โปรดปรึกษาแพทย์
แพทย์ของคุณควรจะตรวจความคืบหน้าของอาการของคุณเป็นประจำ (ทุกๆ 3 ถึง 6 เดือน) เพื่อดูว่าคุณควรจะทำการรักษาต่อหรือไม่ ควรทำการตรวจเต้านมด้วยตนเองเพื่อหาก้อนเนื้อทุกเดือน และควรทำการตรวจเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม (mammograms) เป็นประจำ
หากคุณจำเป็นต้องรับการผ่าตัดหรือการตรวจทางแพทย์ หรือหากคุณต้องนอนพักบนเตียงนิ่งๆ คุณอาจจำเป็นต้องหยุดใช้พรีมาริน®เป็นเวลาสั้นๆ โปรดแจ้งให้แพทย์หรือศัลยแพทย์ที่รักษาคุณทราบว่า คุณกำลังใช้พรีมาริน®
พรีมาริน®ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง พรีมาริน®บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งพรีมาริน®ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
คุณไม่ควรใช้พรีมาริน®ถ้าหาก
พรีมาริน®ไม่สามารถป้องกันโรคหัวใจ โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งเต้านม หรือภาวะสมองเสื่อม (dementia) และอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสภาวะเหล่านี้ การใช้ยานี้ในระยะยาวยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมหรือลิ่มเลือด โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
เพื่อให้มั่นใจว่าพรีมาริน®นั้นปลอดภัยต่อคุณ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมี
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
พรีมาริน®จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด X โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
หยุดใช้ยานี้และติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการดังนี้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปมีดังนี้
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
พรีมาริน®อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
พรีมาริน®อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
พรีมาริน®อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การรักษาอาการวาโซมอเตอร์ (Vasomotor) ระดับปานกลางถึงรุนแรงเนื่องจากวัยหมดประจำเดือน
ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาโดยใช้ขนาดยาต่ำที่สุดเท่าที่ยายังมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไป ผู้หญิงควรจะเริ่มต้นที่พรีมาริน®ในขนาด 0.3 มก. ต่อวัน การปรับขนาดยาหลังจากนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคน ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพควรทำการประเมินขนาดยาใหม่เป็นระยะๆ
อาจให้พรีมาริน®อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการขัดจังหวะ หรือให้ยาเป็นรอบ (สูตรยาอย่างเช่นให้ยา 25 วันแล้วตามด้วยหยุดใช้ยา 5 วัน) ตามความเหมาะสมทางการแพทย์ของแต่ละคน
การรักษาปากช่องคลอดและช่องคลอดฝ่อ (Vulvar and Vaginal Atrophy) ระดับปานกลางถึงรุนแรงเนื่องจากวัยหมดประจำเดือน
ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาโดยใช้ขนาดยาต่ำที่สุดเท่าที่ยายังมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปผู้หญิงควรจะเริ่มต้นที่พรีมาริน®ในขนาด 0.3 มก. ต่อวัน การปรับขนาดยาหลังจากนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคน ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพควรทำการประเมินขนาดยาใหม่เป็นระยะๆ
อาจให้พรีมาริน®อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการขัดจังหวะ หรือให้ยาเป็นรอบ (สูตรยาอย่างเช่นให้ยา 25 วันแล้วตามด้วยหยุดใช้ยา 5 วัน) ตามความเหมาะสมทางการแพทย์ของแต่ละคน
การรักษาภาวะเอสโตรเจนต่ำ (Hypoestrogenism) เนื่องจากภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ (Hypogonadism) การทำหมัน (Castration) หรือภาวะรังไข่เสื่อมปฐมภูมิ
พรีมาริน®ควรมีขนาดยาเริ่มต้นและขนาดยาปกติในขนาดยาต่ำที่สุดเท่าที่ยายังมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการแพทย์ ขนาดยาสำหรับภาวะฮอร์โมนเพศหญิงต่ำคือ 0.3 มก. หรือ 0.625 มก. ต่อวัน โดยให้ยาเป็นรอบ (ให้ยา 3 สัปดาห์และหยุดให้ยา 1 สัปดาห์)
การปรับขนาดยานั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองของเยื่อบุมดลูก
ขนาดยาสำหรับผู้หญิงที่ทำหมันหรือมีภาวะรังไข่เสื่อมปฐมภูมิคือ 1.25 มก. ต่อวัน ให้ยาเป็นรอบ ปรับขนาดยาขึ้นหรือลงโดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองของผู้ป่วย สำหรับการรักษาระดับ ควรปรับขนาดยาลงไปต่ำที่สุด เท่าที่ยายังมีประสิทธิภาพในการควบคุม
การรักษาโรคมะเร็งเต้านม (สำหรับการบรรเทาอาการเท่านั้น) ในผู้หญิงและผู้ชายที่เป็นโรคลุกลามที่ได้รับการคัดเลือกอย่างเหมาะสม
ขนาดยาที่แนะนำคือ 10 มก. วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน
การรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่ต้องพึ่งพาฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ระดับรุนแรง (สำหรับการบรรเทาอาการเท่านั้น)
1.25 มก. ถึง 2 × 1.25 มก. วันละ 3 ครั้ง ประสิทธิภาพของการรักษานั้นสามารถพิจารณาได้จากการตรวจหาระดับของฟอสฟาเทส (phosphatase) เช่นเดียวกันกับความคืบหน้าของอาการของผู้ป่วย
เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนวัยหลังหมดประจำเดือน
อาจให้พรีมาริน®อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการขัดจังหวะ หรือให้ยาเป็นรอบ (สูตรยาอย่างเช่นให้ยา 25 วันแล้วตามด้วยหยุดใช้ยา 5 วัน) ตามความเหมาะสมทางการแพทย์ของแต่ละคน
ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาโดยใช้ขนาดยาต่ำที่สุดเท่าที่ยายังมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปผู้หญิงควรจะเริ่มต้นที่พรีมาริน®ในขนาด 0.3 มก. ต่อวัน การปรับขนาดยาหลังจากนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคนและการตอบสนองของความหนาแน่นของมวลกระดูก ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพควรทำการประเมินขนาดยาใหม่เป็นระยะๆ
ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย