ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา ไซโคลฟอสฟาไมด์ (Cyclophosphamide) ใช้สำหรับรักษาโรคมะเร็งหลายประเภท โดยยา ไซโคลฟอสฟาไมด์ เป็นยาเคมีบำบัด ซึ่งออกฤทธิ์โดยการชะลอ หรือหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
นอกจากนี้ ยาไซโคลฟอสฟาไมด์ยังออกฤทธิ์โดยการลดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ ยานี้ยังใช้เพื่อรักษาโรคไตบางชนิดในเด็กหากการรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล
การใช้อื่นๆ : เนื้อหาส่วนนี้กล่าวถึงการใช้ยานี้ที่ไม่ได้อธิบายไว้ในฉลากยา แต่อาจมีการสั่งยาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้ใช้ยานี้สำหรับอาการที่ระบุไว้ในเนื้อหาส่วนนี้เท่านั้น หากมีการสั่งยาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ให้ใช้ยาไซโคลฟอสฟาไมด์โดยการรับประทานตามที่แพทย์สั่ง ขนาดยาขึ้นอยู่กับอาการ น้ำหนัก การตอบสนองต่อการรักษา และการรักษาวิธีอื่น (เช่น ยาเคมีบำบัดอื่นๆ การฉายแสง) ที่คุณอาจใช้อยู่ ให้มั่นใจว่าแจ้งแพทย์หรือเภสัชกร เกี่ยวกับยาที่ใช้ทั้งหมดที่ใช้ (ได้แก่ ยาที่แพทย์สั่ง ยาที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และยาสมุนไพร)
ในระหว่างการรักษาด้วยยาไซโคลฟอสฟาไมด์ คุณต้องดื่มน้ำมากกว่าปกติ และปัสสาวะบ่อย เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงเกี่ยวกับไตและกระเพาะปัสสาวะ ให้ปรึกษาแพทย์ว่าควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไร และความถี่ในการปัสสาวะในแต่ละวัน และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างระมัดระวัง
หากคุณใช้ยาแคปซูล ให้กลืนทั้งหมด ห้ามเปิด เคี้ยว หรือแบ่งแคปซูล หากคุณสัมผัสกับแคปซูลที่แตกโดยบังเอิญ ให้ล้างมือให้สะอาดทันที
เนื่องจากยานี้สามารถดูดซึมผ่านทางผิวหนังและปอดและอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรืออาจตั้งครรภ์ ไม่ควรสัมผัสยาไซโคลฟอสฟาไมด์ หรือสูดดมละอองจากยาเม็ดหรือแคปซูล
ห้ามเพิ่มขนาดยาหรือใช้ยาไซโคลฟอสฟาไมด์บ่อยครั้ง โดยไม่ได้รับการยินยอมจากแพทย์ อาการจะไม่ดีขึ้นเร็วขึ้นและความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่รุนแรงอาจเพิ่มขึ้นด้วย
การเก็บรักษายาไซโคลฟอสฟาไมด์ที่ดีที่สุด ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาไซโคลฟอสฟาไมด์ไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไซโคลฟอสฟาไมด์มีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรเทยาไซโคลฟอสฟาไมด์ทิ้งลงในโถส้วม หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสมเมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย
ในการตัดสินใจใช้ยา ความเสี่ยงในการใช้ยาต้องได้รับการพิจารณาเปรียบเทียบกับข้อดีของการใช้ยา เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างคุณและแพทย์ที่ทำการรักษา สำหรับยาชนิดนี้ มีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้
การแพ้ยา (Allergies)
ให้แจ้งแพทย์ หากคุณเคยมีปฏิกิริยาที่ผิดปกติ หรือเกี่ยวกับการแพ้ยาต่อยาชนิดนี้หรือยาอื่นๆ นอกจากนี้ให้แจ้งแพทย์ หากคุณมีอาการแพ้ประเภทอื่นๆ เช่น แพ้อาหาร (Food Allergy) สีผสมอาหาร วัตถุกันเสียในอาหาร หรือสัตว์ สำหรับยาที่แพทย์ไม่ได้สั่งนั้น ให้ศึกษาส่วนประกอบของยาที่ฉลากยาหรือบรรจุภัณฑ์อย่างระมัดระวัง
การใช้ยาในเด็ก
ยาชนิดนี้ได้รับการทดสอบในเด็ก และไม่มีหลักฐานว่ามีผลข้างเคียง หรืออาการที่แตกต่างจากในผู้ใหญ่
การใช้ยาในผู้สูงอายุ
ยาหลายชนิดไม่ได้รับการศึกษาวิจัยโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้น จึงไม่เป็นที่ทราบว่า มีการออกฤทธิ์เช่นเดียวกับในวัยผู้ใหญ่หรือไม่ ถึงแม้ว่าไม่มีข้อมูลจำเพาะ ที่เปรียบเทียบการใช้ยาไซโคลฟอสฟาไมด์ในผู้สูงอายุ กับกลุ่มอายุอื่นๆ แต่ไม่เป็นที่คาดหมายว่าจะเกิดผลข้างเคียงหรืออาการที่แตกต่างกันระหว่างผู้สูงอายุกับผู้ที่อายุน้อยกว่า
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยาไซโคลฟอสฟาไมด์ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบประโยชน์ที่จะได้รับกับความเสี่ยงจากการใช้ยานี้ ยาไซโคลฟอสฟาไมด์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ มีดังนี้
ให้เข้ารับการรักษาฉุกเฉินหากมีอาการแพ้ยาใด ๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ได้แก่ ลมพิษ หายใจลำบาก มีอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
ให้โทรแจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ได้แก่
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยอื่น ๆ ได้แก่
ในบางกรณี มีการรายงานว่าเกิดมะเร็งระยะที่สอง ในระหว่างและหลังจากการรักษาด้วยยาไซโคลฟอสฟาไมด์ ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของยานี้
อาการข้างเคียงเหล่านี้พบไม่ได้ในผู้ใช้ยาทุกคน และอาจมีอาการข้างเคียงที่ไม่ได้ระบุข้างต้น หากคุณมีข้องกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียง ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ยาไซโคลฟอสฟาไมด์อาจเกิดอันตรกิริยากับยาชนิดอื่นที่คุณใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาของยาที่อาจเกิดขึ้น คุณควรทำรายการยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด (ยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร) และแจ้งแก่แพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัยของคุณ ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้กับยาดังต่อไปนี้ แพทย์อาจตัดสินใจไม่ทำการรักษาคุณด้วยยานี้ หรือเปลี่ยนยาชนิดอื่นๆ บางชนิดที่คุณใช้อยู่
ไม่แนะนำการใช้ยานี้กับยาดังต่อไปนี้ แต่อาจมีความจำเป็นในผู้ป่วยบางราย หากสั่งยาทั้ง 2 ชนิดพร้อมกัน แพทย์อาจเปลี่ยนขนาดยาหรือความถี่ในการใช้ยาชนิดหนึ่งหรือทั้ง 2 ชนิด
การใช้ยาไซโคลฟอสฟาไมด์ร่วมกับยาใดๆ ดังต่อไปนี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลข้างเคียงบางประการ แต่การใช้ยาทั้งสองชนิดร่วมกัน อาจเป็นการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณก็ได้ หากมีการสั่งยาทั้งสองชนิดร่วมกัน แพทย์อาจเปลี่ยนขนาดยา หรือความถี่ในการใช้ยาหนึ่งชนิดหรือทั้งสองชนิด
ยาไซโคลฟอสฟาไมด์อาจทำปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นของยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ ก่อนการใช้ยา
ยาไซโคลฟอสฟาไมด์อาจทำปฏิกิริยากับสภาวะทางสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจทำให้สภาวะทางสุขภาพเสื่อมลง หรือเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเสมอเกี่ยวกับสภาวะทางสุขภาพทั้งหมดของคุณในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เสมอ
ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษาเนื้องอก
ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับรักษามะเร็งรังไข่
สำหรับใช้รักษามะเร็งเนื้อเยื่อบุผิวรังไข่ :
ขนาดยาปกติในผู้ใหญ่สำหรับมะเร็งเม็ดเลือดขาวมัลติเพิลมัยอิโลมา
(ใช้ร่วมกับสารเคมีบำบัดอื่น ๆ เพื่อเป็นส่วนของวิธีการรักษาแบบ M2 protocol)
ขนาดยาปกติในเด็กสำหรับรักษาเนื้องอก
ขนาดยาปกติในเด็กสำหรับรักษาโรคเนโฟรติก ซินโดรม
ยาไซโคลฟอสฟาไมด์มีรูปแบบการใช้และปริมาณตัวยา ดังต่อไปนี้
ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ให้โทรแจ้งบริการฉุกเฉิน หรือไปยังห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ
อาการสำหรับการใช้ยาเกินขนาด ได้แก่
หากลืมใช้ยาไซโคลฟอสฟาไมด์ ให้ใช้ยาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ดี หากใกล้เวลาใช้รอบถัดไป ให้ข้ามรอบที่ลืมใช้ไปแล้วใช้ยาในรอบถัดไปตามปกติที่กำหนดไว้ ห้ามใช้เพิ่มเป็น 2 เท่า
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย