backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ไรรูโซล (Riluzole)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 31/07/2020

ไรรูโซล (Riluzole)

ข้อบ่งใช้ ไรรูโซล

ไรรูโซล ใช้สำหรับ

ไรรูโซล (Riluzole) ใช้เพื่อรักษาโรคเส้นประสาทบางชนิดที่เรียกว่า โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (amyotrophic lateral sclerosis) หรือที่เรียกว่าโรคลูเกริก (Lou Gehrig’s disease) และอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคไม่ให้ทรุดลงไปกว่าเดิม

แต่ยานี้อาจไม่สามารถรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอสให้หายขาด และไม่สามารถฟื้นฟูเส้นประสาทที่เสียหายอย่างหนักให้กลับมาเหมือนเดิมได้ในทันที เพียงแต่เป็นยาที่ใช้ในการปกป้องเส้นประสาทในสมอง และไขสันหลัง จากสารตามธรรมชาติที่มีมากเกินไปอย่างสารกลูตาเมต (glutamate) ที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เส้นประสาทเสียหายได้เท่านั้น

วิธีการใช้ยา ไรรูโซล

  • รับประทานยานี้ตามที่แพทย์สั่ง โดยปกติคือทุกๆ 12 ชั่วโมงขณะท้องว่าง อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนหรือ 2 ชั่วโมงหลังจากมื้ออาหาร
  • ใช้ยานี้เป็นประจำ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากยาสูงสุด และเพื่อให้ง่ายต่อการจำ ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
  • อย่าเพิ่มขนาดยา รับประทานบ่อยกว่า หรือรับประทานนานกว่าที่กำหนดเนื่องจากความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอาจเพิ่มขึ้น

การเก็บรักษายา ไรรูโซล

  • ยาไรรูโซลควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
  • ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง
  • ยาไรรูโซลบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย
  • โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง
  • ไม่ควรทิ้งยาไรรูโซลลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ที่จำหน่ายยา
  • ข้อควรระวังและคำเตือน

    ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา ไรรูโซล

    • ก่อนใช้ยาไรรูโซล แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่น ๆ
    • ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในสภาวพทางสุขภาพเกี่ยวข้องกับโรคตับ และโรคไต
    • ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ง่วงซึม ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาในขณะที่ขับยานพาหนะ และทำงานใกล้ชิดกับเครื่องจักรอันตราย
    • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึมรุนแรงขึ้นได้
    • สมรรถภาพของไตและตับจะลดลง เมื่อคุณมีอาการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุจะมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยาได้มากกว่า
    • ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยา
    • ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า ยานี้สามารถเข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

    ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

    ยาไรรูโซลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

    การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

    • A= ไม่มีความเสี่ยง
    • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
    • C= อาจจะมีความเสี่ยง
    • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
    • X= ห้ามใช้
    • N= ไม่ทราบแน่ชัด

    ผลข้างเคียง

    ผลข้างเคียงของการใช้ยา ไรรูโซล

    • อาจเกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด ง่วงซึม เหนื่อยล้า
    • คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง
    • เบื่ออาหาร ปวดท้อง
    • เหน็บชาที่ปาก

    หากอาการเหล่านี้ไม่หายไป หรือรุนแรงขึ้น เช่น อาเจียนไม่ยอมหยุด ดวงตาและผิวหนังเป็นสีเหลือง ปวดท้องอย่างรุนแรง ปัสสาวะสีคล้ำ หายใจติดขัด โปรดรีบเข้าขอรับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

    โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ

    ปฏิกิริยาของยา

    ปฏิกิริยากับยาอื่น

    ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ ได้แก่

  • ยาอื่นที่อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตับ เช่น อัลโลพูรินอล (allopurinol) เมทิลโดปา (methyldopa) หรือซัลฟาซาลาซีน (sulfasalazine)
  • ยาที่ส่งผลกระทบต่อเอ็นไซม์ตับที่กำจัดยาไรรูโซลออกจากร่างกาย เช่น อะมิทริปไทลีน (amitriptyline) คาเฟอีน โอเมพราโซล (omeprazole) ไรแฟมพิน (rifampin) ทาครีน (tacrine) ควิโนโลน (quinolone) หรือยาปฏิชีวนะไซโปรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin)
  • ยาไรรูโซลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์

    ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

    ยาไรรูโซลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

    ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

    ยาไรรูโซลอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

    ขนาดยา

    ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

    ขนาดยาไรรูโซลสำหรับผู้ใหญ่

    ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (Amyotrophic Lateral Sclerosis)

    • 50 มก. รับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง
    • การใช้ยาในขนาดที่สูงกว่านั้นไม่สามารถคาดหวังว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าได้แต่อาการไม่พึงประสงค์อาจจะเพิ่มขึ้น
    • ควรรับประทานยาเม็ดไรรูโซลอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนหรือ 2 ชั่วโมงหลังจากมื้ออาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการดูดซึมลดลงที่เกี่ยวข้องกับอาหาร

    การปรับขนาดยาสำหรับไต

    ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจำเป็นต้องปรับขนาดยาในผู้ป่วยที่มีภาวะไตบกพร่องหรือไม่ แต่เนื่องจากกระบวนการย่อยสลายยาไรรูโซลและยาในปริมาณน้อยนั้นจะจำกัดโดยไต แนะนำให้ใช้ด้วยความระมัดระวังหากต้องใช้ยาไรรูโซลในผู้ป่วยที่มีภาวะไตบกพร่อง

    การปรับขนาดยาสำหรับตับ

    • ยาไรรูโซลส่วนมากนั้นจะถูกย่อยสลายที่ตับ ควรใช้ยาไรรูโซลด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยที่เป็นหรือเคยเป็นโรคตับ การทดลองทางการแพทย์ที่ได้รับการเผยแพร่นั้น ไม่รวมกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอยู่ด้วย ดังนั้น จึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการปรับขนาดยาในกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้
    • หากผู้ป่วยกำลังใช้ยาไรรูโซล และมีค่าเอแอลทีน้อยกว่า 5 เท่าของขีดกำจัดบนของค่าปกติ ควรดำเนินการรักษาต่อไปด้วยความระมัดระวัง ยังไม่มีรายงานทางการแพทย์เกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีค่าเอแอลทีมากกว่า 5 เท่าของขีดกำจัดบนของค่าปกติ แพทย์ ผู้ป่วย และ/หรือผู้ดูแลควรพิจารณาอัตราส่วนความเสี่ยงต่อประโยชน์ในการดำเนินการรักษาต่อไป หากยังคงดำเนินการรักษาด้วยยาไรรูโซลต่อไป ผู้ผลิตแนะนำให้ควรมีการเฝ้าระดับสมรรถภาพของตับอย่างสมบูรณ์เป็นประจำทุกสัปดาห์ ควรหยุดการรักษาหากค่าเอแอลทีมากกว่า 10 เท่าของขีดกำจัดบนของค่าปกติ
    • ยังไม่เคยมีการทดลองให้ยาซ้ำอีกครั้ง ในผู้ป่วยที่เคยหยุดใช้ยาไรรูโซล เนื่องจากค่าเอแอลทีสูงเกินไป

    ขนาดยาไรรูโซลสำหรับเด็ก

    ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร

    รูปแบบของยา

    ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

    • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน

    กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 31/07/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา