backup og meta

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะรับได้มืออย่างไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย วรภพ ไกยเดช · แก้ไขล่าสุด 10/04/2021

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะรับได้มืออย่างไร

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Disease) เกิดจากปัญหาในช่วงแรกของการพัฒนาของโครงสร้างและหน้าที่ของหัวใจ โดยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดมักจะไปขัดขวางการไหลเวียนของเลือดผ่านหัวใจ และอาจส่งผลต่อการหายใจ แต่ด้วยการรักษาที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน รวมถึงการดูแลที่เหมาะสม ทารกจำนวนมากที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด สามารถมีชีวิตรอดได้อย่างเป็นปกติจนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เกิดขึ้นได้อย่างไร

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดเกิดจากความบกพร่องของหัวใจแต่กำเนิด แม้ว่าในบางครั้งจะไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด แต่สาเหตุที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้ก็คือ

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดมีกี่ประเภท

    ถึงแม้ว่าโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดจะมีด้วยกันหลายประเภท แต่ก็สามารถแยกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่

    • ลิ้นหัวใจบกพร่อง ลิ้นหัวใจภายในหัวใจซึ่งควบคุมการไหลเวียนของเลือดอาจปิดลงหรือรั่วทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้เป็นปกติ
    • ผนังหัวใจบกพร่อง ผนังหัวใจโดยธรรมชาติที่กั้นระหว่างหัวใจด้านซ้ายและขวาและห้องล่างและบนมีการพัฒนาที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เลือดไหลย้อนกลับไปยังที่ๆ ไม่ควรอยู่ ความบกพร่องนี้ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นและทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
    • เส้นเลือดบกพร่อง เส้นเลือดดำและเส้นเลือดแดงที่นำเลือดจากหัวใจไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างไม่ถูกต้อง โดยขัดขวางหรือทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง

    นอกจากนี้ แพทย์ยังแบ่งโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทแรก ซึ่งส่งผลให้ระดับออกซิเจนต่ำ และประเภทที่สอง ซึ่งไม่ได้ส่งผลให้ระดับออกซิเจนต่ำ ทารกที่ทรมานจากการหายใจไม่ออก หรือมีอาการตัวเขียว คือ ทารกที่ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เนื่องจาก หัวใจบีบตัวอย่างที่ควรเป็น โดยสามารถเรียกโรคหัวใจแบบนี้ว่า “แบบ Cyanotic’ ทารกที่ได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ แต่มีอาการความดันโลหิตสูง หรือมีสัญญาณอื่น ๆ ที่บ่งบอกว่าหัวใจทำงานหนัก จะเรียกโรคหัวใจแบบนี้ว่า “แบบ Acyanotic’

    อาการและความเสี่ยงของโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดโดยมากมักพบได้จากการอัลตราซาวด์ระหว่างตั้งครรภ์ ตัวอย่างเช่น เมื่อแพทย์ได้ยินเสียงฟู่ของหัวใจ แพทย์จะทำการตรวจมากขึ้น เช่น การตรวจเอ็กโคคาร์ดีโอแกรม การทำเอ็กซ์เรย์ช่องอก หรือการทำ MRI หากการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด จะมีผู้เชี่ยวชาญดูแลระหว่างการคลอดบุตร อาการเบื้องต้นของโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ได้แก่

    • ริมฝีปาก ผิว นิ้วมือ นิ้วเท้าเขียว
    • การหายใจลำบาก
    • ความยากลำบากในการป้อนอาหาร (เด็กขาดความสนใจในการดื่มนมแม่)
    • น้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำ
    • ระดับออกซิเจนต่ำ
    • เจ็บหน้าอก
    • การเจริญเติบโตช้า

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีโรคหัวใจแบบ Acyanotic ที่ทารกได้รับออกซิเจนพอ และอาการจะไม่แสดงออกจนกว่าหลายปีหลังจากนั้น ในกรณีนี้อาการได้แก่

  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • วิงเวียนศีรษะ
  • หายใจลำบาก
  • เป็นลม หรือหมดสติชั่วครู่
  • การบวมของอวัยวะหรือเนื้อเยื่อในร่างกาย
  • ระดับออกซิเจนต่ำ
  • เหนื่อยง่าย
  • โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด สามารถรักษาได้อย่างไร

    การรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดขึ้นอยู่กับประเภท และความรุนแรงของโรค ทารกบางรายอาจมีอาการไม่รุนแรง สามารถหายได้ด้วยตัวเอง บางรายอาจต้องรักษาด้วยยา และในบางรายอาจต้องพึ่งการผ่าตัดหัวใจ เหล่านี้อาจรวมไปถึง การสวนหัวใจและหลอดเลือด การทำ Open-heart Surgeries และในกรณีที่รุนแรงมาก ก็คือ การเปลี่ยนถ่ายหัวใจ

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดในผู้ใหญ่

    โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดในผู้ใหญ่จะขึ้นอยู่กับความบกพร่อง การวินิจฉัยและการรักษาอาจเกิดขึ้นทันที ภายหลังจากที่เกิดในช่วงวัยเด็ก แต่ความบกพร่องบางประเภทจะไม่แสดงอาการจนกว่าผู้ป่วยจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ดังนั้น การรักษาจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะแสดงอาการ ในกรณีเหล่านี้ อาการของโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่เพิ่งถูกค้นพบ ได้แก่

    • หายใจลำบาก หายใจติดขัด
    • เจ็บหน้าอก
    • ความสามารถในการออกกำลังกายต่ำ (เหนื่อยง่าย)

    เช่นเดียวกับการรักษาในเด็ก การรักษาในผู้ใหญ่อาจทำได้ตั้งแต่การรอสังเกตอาการ ไปจนถึงการใช้ยารักษา และการผ่าตัด การบกพร่องที่อาจถูกรักษาตั้งแต่ในวัยเด็ก อาจแสดงอาการอีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ หรือการรักษานั้นไม่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป หรือความบกพร่องในขั้นต้นอาจรุนแรงขึ้นตามเวลา เนื้อเยื่อแผลเป็นที่พัฒนารอบ ๆ รอยแผลเดิมอาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ บางครั้งความบกพร่องที่ไม่รุนแรงในวัยเด็ก ที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา อาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

    ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดทุกรายควรปรึกษาแพทย์โรคหัวใจ เพื่อติดตามอาการอยู่เสมอ การรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ไม่ใช่การรักษาแบบหายขาด แต่จะเป็นการช่วยผู้ป่วยให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตปกติได้ ความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจติดเชื้อ โรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะหัวใจล้มเหลว นั้นสูงในกลุ่มที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์อยู่เสมอ

    สามารถป้องกันได้อย่างไร

    หญิงตั้งครรภ์สามารถป้องกันตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงจากการให้กำเนิดบุตรโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดได้ดังนี้

    • หากวางแผนมีบุตร ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาทุกชนิด
    • หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และยาที่ผิดกฎหมายระหว่างตั้งครรภ์
    • หากเป็นโรคเบาหวาน มั่นใจว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ก่อนตั้งครรภ์
    • หากไม่ได้รับวัคซีนต้านโรคหัดเยอรมัน พยายามหลีกเลี่ยงการติดโรค และปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกัน

     

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย วรภพ ไกยเดช · แก้ไขล่าสุด 10/04/2021

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา