ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
กระดูกหัก คือ ภาวะความเสียหายของกระดูกที่สามารถพบได้บ่อย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากแรงกระแทกรุนแรง เช่น กระดูกหักจากอุบัติเหตุ รวมไปถึงความเครียดสะสมในกระดูกที่มาจากการออกกำลังกายหนักเกินไป ซึ่งพบได้ทั่วไปในนักกีฬา ภาวะกระดูกหักนี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก และผู้สูงอายุที่กระดูกเริ่มเปราะบาง
อาการกระดูกหัก (Bone Fracture) คือ ภาวะที่กระดูกมีความเสียหาย โดยภาวะกระดูกหักมี 4 ประเภทหลัก ได้แก่
ภาวะกระดูกหักแบบเคลื่อนจากกัน คือ การที่กระดูกแยกเป็นสองชิ้นหรือมากกว่านั้น จากนั้นชิ้นส่วนเคลื่อนจนปลายที่หักไม่ตรงกัน ส่วนภาวะกระดูกหักแบบไม่เคลื่อนที่ คือ การที่กระดูกหักแบบทั้งแยกชิ้นและเป็นทางยาวแต่ไม่ได้เคลื่อนที่จากกันและยังอยู่ในตำแหน่งเดิม
ภาวะกระดูกหักแบบแผลปิดเกิดขึ้นเมื่อกระดูกหักแต่ไม่เกิดรอยหรือแผลเปิดที่ผิวหนัง ส่วนภาวะกระดูกหักแบบแผลเปิด คือ ภาวะที่กระดูกหักแล้วแทงออกมานอกผิว จากนั้นกระดูกอาจขยับกลับเข้าไปในแผลและอาจมองไม่เห็นที่นอกผิว โดยอาการนี้เป็นข้อแตกต่างระหว่างภาวะกระดูกหักแบบแผลปิดและแผลเปิดที่สำคัญ หากมีภาวะกระดูกหักแบบแผลเปิดอาจเสี่ยงติดเชื้อในกระดูกได้
อาการกระดูกมีหักหลายประเภท ที่พบได้ทั่วไป เช่น
กระดูกหักพบได้ทั่วไปในคนทุกเพศทุกวัย สามารถป้องกันได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์
อาการทั่วไป ได้แก่
สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจจะมีอาการอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์
กระดูกหัก ถือเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร่งด่วน หากเกิดอาการนี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ขึ้นอยู่กับช่วงวัย ภาวะกระดูกหักพบได้บ่อยในวัยเด็ก แต่จะซับซ้อนน้อยกว่าภาวะกระดูกหักในผู้ใหญ่ สำหรับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยชรา กระดูกจะเริ่มเปราะบางมากขึ้น และเสี่ยงกระดูกหักจากการหกล้มได้ง่ายกว่าในวัยเด็ก
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีการวินิจฉัยอาการกระดูกแตกหักที่นิยมใช้ ได้แก่ การเอ็กซเรย์ ที่ช่วยให้มองเห็นรูปร่างของกระดูกได้อย่างชัดเจน และช่วยให้รู้ได้ว่ากระดูกนั้นบุบสลายหรือแตกหักหรือไม่ อีกทั้งยังสามารถแสดงให้เห็นประเภทของการแตกหักและตำแหน่งของกระดูกที่แตกหักได้อีก
แต่บางครั้ง การเอ็กซเรย์ก็ไม่สามารถแสดงให้เห็นภาวะกระดูกหักได้ โดยเฉพาะ ภาวะข้อมือหัก ภาวะแตกหักล้า ภาวะสะโพกหัก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ สำหรับภาวะเหล่านี้ แพทย์อาจทำการทดสอบระเภทอื่นแทน เช่น การใช้ computed tomography scan (CT scan) หรือซีทีสแกน การใช้ magnetic resonance imaging (MRI) หรือการทำเอ็มอาร์ไอ ในการสแกนกระดูก
ในบางกรณี แพทย์อาจให้เข้าเฝือกในบริเวณข้อมือที่แตกหักก่อน เพื่อให้บริเวณนั้นขยับไม่ได้ จากนั้นจึงค่อยทำการเอ็กซเรย์ซ้ำใน 10-14 วันต่อมา บางครั้ง แม้จะวินิจฉัยอาการแตกหักแล้ว ก็อาจยังต้องทำการทดสอบอื่นเพิ่มเติม เช่น การทำซีทีสแกน (CT scan) การทำเอ็มอาร์ไอ (MRI) การตรวจเอ็กซเรย์หลอดเลือด (angiogram)
สำหรับภาวะกะโหลกแตกหัก แพทย์อาจไม่ทำการเอ็กซเรย์แต่ทำซีทีสแกนแทน เนื่องจากสามารถวินิจฉัยอาการแตกหักและอาการบาดเจ็บอื่นๆ เช่น อาการเลือดออกในสมอง ที่อาจเกิดภายในกะโหลกได้
การรักษามีข้อสำคัญ คือ ส่วนที่แตกหักควรเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งเดิมและควรป้องกันให้ไม่ขยับไปไหนจนกว่าจะได้รับการรักษา
กระดูกหักรักษาโดย “ประสาน” กระดูกส่วนที่แตกหักเข้ากับกระดูกใหม่ที่สร้างขึ้นบริเวณรอบๆ ส่วนแตกหัก
ภาวะกระดูกหักในบางกรณีอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โดยต้องประเมินจากความรุนแรงของกระดูกที่แตกหักว่าเป็นแบบแผลปิดหรือแผลเปิด รวมถึงกระดูกเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
การรักษาภาวะกระดูกหักที่นิยมใช้ มีดังนี้
รูปแบบการใช้ชีวิตและการเยียวยาตัวเองต่อไปนี้ อาจช่วยรับมือกับภาวะกระดูกหักได้
หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ดีขึ้น
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย