หน้าที่หลักของสบู่ก็คือการกำจัดสิ่งสกปรก เช่น เหงื่อฝุ่น และไขมันที่เกาะอยู่บนผิวหนังให้ออกไป โดยการใช้สารลดแรงตึงผิว (surfactant) ที่สามารถละลายไขมันได้ สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่บนผิวหนังนั้น จะเกาะติดอยู่กับไขมันบนผิว สบู่จะทำหน้าที่ละลายไขมันนั้น ทำให้ไขมันรวมไปจนถึงสิ่งสกปรกนั้นไม่สามารถเกาะอยู่บนชั้นผิวหนังได้ และทำให้สามารถล้างออกได้ง่ายด้วยน้ำสะอาด
สารลดแรงตึงผิวนี้นอกจากจะสามารถพบได้ในสบู่ แล้ว ยังสามารถพบได้ในน้ำยาทำความสะอาด เครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงผิวอื่น ๆ เช่น ยาสระผม โลชั่น หรือน้ำหอม เป็นต้น
สบู่ ส่งผลอย่างไรกับผิว
แม้ว่าการใช้สบู่ทำความสะอาดร่างกาย จะช่วยให้เรารู้สึกสะอาดและสดชื่น แต่อย่างไรก็ตาม สารลดแรงตึงผิวที่พบได้ในสบู่บางชนิด อาจส่งผลกระทบต่อผิวของเราได้เช่นกัน
สารลดแรงตึงผิวในสบู่นั้นจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วออกไป แต่สารลดแรงตึงผิวนั้นก็อาจผูกเข้ากับเซลล์โปรตีนของผิวชั้นนอก และทำให้เซลล์เหล่านี้มีน้ำมากเกินไปและเกิดอาการบวม ทำให้ส่วนประกอบอื่น ๆ ในน้ำยาทำความสะอาด สามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวชั้นที่ลึกลง ทำให้เกิดปฏิกิริยากับระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน จนนำไปสู่การเกิดอาการคันและระคายเคือง
นอกจากนี้ สารลดแรงตึงผิวยังอาจทำลายเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว และทำลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติ ส่งผลให้น้ำภายในผิวระเหยออกไปได้มากกว่าเดิม และทำให้ผิวแห้ง และหยาบกระด้างในที่สุด
เทคนิคการเลือกสบู่ให้เหมาะสมกับสภาพผิว
ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดความเสียหายต่อผิวที่เกิดขึ้นจากสบู่ให้ได้มากที่สุด ก็คือการเลือกสบู่ให้เหมาะสมกับสภาพผิว โดยมีหลักในการเลือกดังต่อไปนี้