2. จำกัดเวลาสำหรับการดูโทรทัศน์ การเล่นวิดีโอเกม หรือการใช้คอมพิวเตอร์
ทุกครั้งที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ ควรปล่อยให้เด็กนั่งได้ไม่เกิน 20 นาทีต่อครั้ง และไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง/วัน เพื่อควบคุมทั้งเรื่องเวลา และการฝึกวินัย รวมทั้งบุคลิกลักษณะท่าทางต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลจากการนั่งหรืออยู่ในอิริยาบถเดิมนานเกินไปอาจกระทบต่อ ท่าทาง ผิดรูป ได้
3. กระตุ้นให้ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายมีประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาบุคลิกภาพและท่าทางต่าง ๆ รวมทั้งยังช่วยลดความตึงเครียดที่หลัง หลังส่วนล่าง หรือกระดูกสันหลัง ไม่ว่าจะเป็นการวิดพื้น ท่าเกร็งสะโพกและยกก้น (squeezing) หรือท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อ รวมทั้งการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง สร้างความยืดหยุ่น และการทรงตัวที่ดี อาจจะเป็นการเล่นกีฬาโรงเรียน เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล เบสบอล ทั้งนี้ เด็กควรอยู่ในความควบคุมของครูหรือผู้ฝึกสอนอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยแนะนำและจัดท่าทาง ป้องกันอันตราย และควบคุมดูแลวิธีการยืดหยุ่นกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม
4. สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับท่าทาง
พูดคุยและทำความเข้าใจกับเด็ก ๆ ถึงความสำคัญของการวางท่าทางร่างกายที่ถูกต้อง และผลเสียของการทรงตัวที่ผิดรูป ทั้งในเรื่องของบุคลิกภาพ และสุขภาพ หากเด็กเกิดความรู้สึกผิดปกติ จะได้รู้สึกวางใจในการพูดคุยหรือบอกเล่าให้ผู้ปกครองฟัง และเข้ารับการรักษาได้ทันหากการวางท่าทาง ผิดรูป เกิดจากปัญหาสุขภาพ
5. รับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์
จัดหาและส่งเสริมการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของเด็กในแต่ละช่วงวัย เพราะการได้รับสารอาหารครบถ้วนนั้นจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้งร่างกายและจิตใจให้สมบูรณ์และเติบโตสมวัย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย